บท
ตั้งค่า

chapter3 part3

วันรุ่งขึ้นภารกิจก็ถูกแจกจ่ายมาให้หน่วยที่สี่ของเรย์ในทันที ซึ่งภารกิจในคราวนี้ของเขาก็คือการเข้าไปเก็บสมุนไพรที่เมืองอู รินอันที่จริงแล้วหากดูภารกิจในตอนแรกจะรู้สึกได้ว่าภารกิจเก็บสมุนไพรเพียงเท่านี้ไม่สมควรจะส่งระดับหัวหน้าหน่วยไปเลย แต่พอลองดูเนื้อหาภารกิจจริงๆ แล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น

“ว่านแดง? เป็นสมุนไพรที่หายากเอาเรื่องเลย ” แม้จะไม่ได้รู้เรื่องทางด้านนี้อย่างจริงจังแต่คาซึกิก็พอจะเคยได้ยินชื่อของว่านชนิดนี้มาบ้างปกติแล้วว่านทั่วไปนั้นจะมีสรรพคุณในการรักษาแผลไฟไหม้และผิวหนังแต่สำหรับว่านชนิดนี้เป็นว่านรักษาคนที่โดนพลังมนตราธาตุไฟ พลังวัตรหรือพิษบางชนิดโดยเฉพาะ

“ดูไปแล้วภารกิจก็ไม่ยากอะไร แต่จะลำบากหน่อยตรงที่พวกเราต้องฝ่าพวกหมีสีน้ำตาลเข้าไปด้วยสินะครับ” อลันที่อ่านข้อมูลของภารกิจอยู่นั้นรับรู้ได้ในทันที เพราะว่านแดงนั้นการเก็บมันไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่ขุดมันออกมาอย่างเบามือแล้วเก็บใส่กล่องก็พอ ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถเฉพาะทางเลย

แต่ว่านพวกนี้นั้นมักขึ้นอยู่ในแถบที่หาค่อนข้างยาก หนักหนากว่านั้นคือแต่ละแห่งนั้นมักมีสัตว์หลายชนิดที่คอยวนเวียนอยู่ในพื้นที่ แน่นอนว่าเมืองอูรินก็เช่นกันที่นั่นมีหมีสีน้ำตาลที่คอยป้วนเปี้ยนรอบต้นว่านนั้นด้วย

มันไม่ได้คอยกินว่านพวกนี้เป็นอาหาร แต่พวกมันรอให้สัตว์ตัวอื่นเข้ามากินว่าพวกนี้ก่อนที่พวกมันจะไล่ล่าสัตว์ที่ว่า แม้จะมีจำนวนไม่มากแต่ก็อยู่รวมกันเป็นฝูงร่วมสามถึงสี่สิบตัว สำหรับคนธรรมดาและคนที่ไม่ได้ฝึกฝนพลังพิเศษอย่างจริงจัง ไม่มีทางฝ่าพวกมันไปได้อย่างแน่นอน

“ข้อมูลพวกนั้นน่ะดูผ่านๆ เก็บรายละเอียดสำคัญรอบเดียวก็พอ ไม่ต้องดูละเอียดนักหรอกเพราะในสถานการณ์จริง ข้อมูลน้ำท่วมทุ่งพวกนี้ช่วยอะไรไม่ได้มาก” เรย์โบกมือหลังจากที่อ่านข้อมูลของภารกิจที่ตนได้รับผ่านตาไปรอบนึง ก็จัดการโยนเอกสารที่ตนได้รับมานั้นทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

“อีกนานไหมกว่าจะถึงเมืองอูรินน่ะ?” ทางด้านของคาซึกิที่ค่อนข้างจะเห็นด้วยกับคำพูดของเรย์นั้น เจ้าตัวจัดแจงวางเอกสารในมือของตนลงสู่เบาะนั่ง เพราะเขาจดจำข้อมูลของภารกิจนี้เอาไว้ได้หมดแล้วดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดอีก

“เห็นตัวเมืองลิบๆ แล้วล่ะครับ” อลันชะโงกหน้าไปมองนอกหน้าต่างก็ต้องพบว่าบัดนี้รถโดยสารที่พวกเขานั่งมาใกล้ถึงตัวเมืองอูรินแล้ว รถที่พวกเขานั่งมานั้นเป็นรถโดยสารที่ทางหน่วยทหารมนตรานั้นจัดสรรมาส่งพวกเขาไปหาผู้ว่าจ้าง

ตามปกติแล้วทหารมนตราโดยทั่วไป หากว่าผู้ว่าจ้างไม่ออกค่าเดินทางรวมในค่าใช้จ่ายให้แล้วล่ะก็ต้องเสียเงินค่าเดินทางกันเอง แต่กับระดับหัวหน้าหน่วยลงปฏิบัติงานมันจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะไม่ว่าจะอยู่ไกลเพียงไรก็ตามก็จะมีพาหนะคอยรับส่งให้ตลอด ซึ่งนับว่าประหยัดเวลาไปได้โขทีเดียว

ทันทีที่มาถึงพวกเขาก็มาเขาไปแจ้งกับผู้ว่าจ้างในทันที งานในครั้งนี้นั้นมีค่าจ้างอยู่ที่หกหมื่นเหรียญเป็นราคาค่าจ้างที่ถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียวในการจ้างงานทหารมนตรา เนื่องจากจะอย่างไรเสียเขาก็เป็นระดับหัวหน้าหน่วยดังนั้นค่าจ้างจึงสูงตามไปด้วย แต่ก็ยังดีกว่าหาซื้อว่านนี้ตามท้องตลาดเอาเอง

“ว่าแต่แล้วแผนการจะเอายังไงล่ะครับ?” แม้จะเอ่ยปากถามแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังใดๆกับคำตอบที่จะหลุดออกมาจากปากของเรย์เลย เพราะทุกครั้งมันจะไม่พ้นการไปตายเอาดาบหน้าอย่างเดียวเท่านั้น

“ลุยเข้าไปหาช่องว่าง ถ้าหมีพวกนั้นมาขวางก็ซัดพวกมันให้กระเด็น แล้วเอาสมุนไพรกลับมาก็เท่านั้น” อย่างที่เดาไว้แผนการลวกๆอันคุ้นเคยเช่นเดิม แต่ผู้พูดกลับไม่ใช่ขาประจำอย่างเรย์กลับเป็นเจ้าของดวงตาสีเขียวคมกริบอย่างคาซกิแทน

“วู้ เป็นครั้งแรกจริงแฮะที่คิดว่านายกับฉันจะทำงานได้เข้ากันแบบนี้” ปกติแล้วเขามักจะทำงานร่วมกับอลันเป็นหลัก ดังนั้นแผนการบ้าๆ แบบนี้ปกติเขาจะเป็นคนเสนอและจะมีอลันคอยขัด(แต่สุดท้ายก็ทำตาม) แต่ในวันนี้กลับมีคนที่มีความคิดเห็นเหมือนเขาแล้ว

“ผมไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้คาซึกิ” ทางด้านของอลันกุมขมับอย่างอ่อนใจ ปกติเขาก็ห้ามเรย์ไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ตอนแรกนึกว่าได้สมาชิกใหม่แล้วจะเบาใจขึ้นกว่าเดิมแต่กลับต้องมากหนักใจมากขึ้นไปอีก

“อย่าคิดมากน่าอลัน เอาไปทำงานกันได้แล้วทำงาน ยังมีคนไข้รอยาอยู่นา” ผิดกับเรย์ที่ดูจะครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษที่มีคนมีความคิดแบบตน ก่อนที่ทั้งสามคนจะไปยังป่าที่มีว่านแดงตามที่ได้รับข้อมูลมาในทันที

เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้มาเจอกับสถานที่ตามที่บอก แต่ทันทีที่พวกเขามาถึงก็ต้องพบว่ามีหมีสีน้ำตาลหลายตัวที่คอยเดินป้วนเปี้ยนในอาณาบริเวณที่ว่านแดงเติบโตทำให้พวกเขาจำเป็นต้องซุ่มอยู่ภายนอกเสียก่อน

“ไม่ผิดแน่ครับ ตรงนั้นมีว่านแดงอยู่แต่ก็ไกลเอาเรื่อง ห่างจากที่นี่ไปร่วมห้าร้อยเมตรได้” อลันที่มองจากกล้องติดปืนของตนประเมินระยะอย่างรวดเร็ว แค่เท่านั้นไม่เป็นปัญหาแต่ที่เป็นปัญหาก็คือหมีสีน้ำตาลที่มีจำนวนมหาศาล กะจากสายตาโดยคร่าวก็เกือบร้อยตัว

“ถ้าเป็นคนอื่นผมคงถามว่าจะเปลี่ยนแผนไหม แต่สำหรับทั้งสองคนผมคงไม่ต้องถามสินะ”

“แน่นอนนายคิดว่าฉันเป็นใครฟะ แค่นี้คิดว่ากลัวหรือไง?” เจ้าคนผมขาวดูไม่ได้ใส่ใจกับจำนวนของศัตรูที่ว่ามา ส่วนทางด้านของคาซึกินั้นแม้ไม่ได้เอื้อนเอ่ย แต่จากแววตาก็คงไม่ยอมเปลี่ยนแผนเหมือนกัน

“เอางี้นะคาซึกิ ฉันจะดึงพวกมันเอาไว้ให้มากที่สุด แล้วนายเข้าไปเอาว่านนั่นมาซะ ส่วนอลันนายช่วยชั้นสกัดเจ้าหมีบ้าพวกนี้หน่อยแล้วกัน” แม้จะเป็นแผนหยาบๆ แต่ก็ไม่นับว่าเป็นแผนการที่เลวร้ายอะไรนัก ดังนั้นพวกเขาจึงแยกย้ายกันไปลงมือในทันที

ทางด้านของเรย์นั้นทันทีที่ตกลงเสร็จเขาก็ค่อยๆ ก้าวเท้าไปหาฝูงหมีสีน้ำตาลเหล่านั้น การก้าวเท้าอันเอื่อยเฉื่อยไม่มีการรีบร้อนใดๆ ดวงตาสีฟ้าครามของเขาจับจ้องไปยังร่างของสัตว์พวกนั้นในทันที

“อา ถ้ายังไงพวกนายช่วยอยู่เฉยๆ จนกว่าเพื่อนของชั้นจะทำงานเสร็จได้ไหม? จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงอะนะ” คำพูดของเขานั้นหมีเหล่านี้ไม่มีทางที่จะฟังเข้าใจ เพราะในทันทีที่เขาพูดจบฝูงหมีสีน้ำตาลก็กรูกันออกมาในทันที

กรงเล็บของหมีตัวนั้นพุ่งเข้าใส่ร่างของเรย์ในทันทีโดยไร้ซึ่งความปราณี แต่ทางด้านของเด็กหนุ่มนั้นกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงก้าวเท้าเพียงเล็กน้อยก็หลบหลีกกรงเล็บของหมีตัวนั้นไปได้พร้อมซัดศรแสงโต้ตอบกลับไป

ศรแสงสี่ดอกถูกซัดเข้าใส่แขนและขาของหมีตัวนั้นอย่างแม่นยำ และนั่นส่งผลให้หมีตัวนั้นล้มลงไปกองกับพื้น แม้จะไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บแต่การโจมตีของเขาก็ส่งผลให้หมีตัวนี้ขยับไม่ได้ไปสักพัก

ในวินาทีต่อมาคมกระสุนนัดหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ร่างของหมีสีน้ำตาลอีกตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่ร่างของมันแน่นิ่งไปในชั่วพริบตา

“ฮิๆ เป้ายิงดีๆแบบนี้หาไม่ได้บ่อยหรอกนะ งั้นผมขอเล่นให้หนำใจคงไม่ว่ากันนะครับเรย์” เสียงอ่อนหวานนั้นฉายแววยินดีจนเต็มเปี่ยม ราวกับเด็กเล็กที่ได้ของเล่นถูกใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มเล็งยิงหมีสีน้ำตาลเหล่านั้นด้วยกระสุนแฝงคำสาปอย่างแม่นยำ

แน่นอนทางด้านของเรย์ที่ได้ยินดังนั้นผ่านเครื่องติดต่อสื่อสารนั้นถึงกับเหงื่อซึม กับอลันในสภาพนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงหัวเราะล่องลอยของอลันทำให้เขารู้สึกขนลุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ และย่อมแน่นอนว่าเขาไม่โง่ปฏิเสธไปแน่นอน เพราะหากขัดใจเจ้าตัวในยามนี้อาจได้รูมาประดับบนหัวก็เป็นได้

ส่วนทางด้านของคาซึกินั้นด้วยความที่เรย์และอลันคอยดึงความสนใจของหมีเหล่านั้นไปจนเกือบหมดทั้งฝูง ทำให้เขาค่อนข้างสบายในการเคลื่อนไหวเข้าไปด้านใน ยิ่งเป็นตัวเขาที่ถนัดมนตราธาตุลมที่เด่นในด้านความเร็วด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องง่ายเข้าไปใหญ่

แต่ละก้าวของคาซึกินั้ว่องไวและเงียบกริบราวกับสายลมที่พัดผ่าน เพียงไม่ถึงนาทีระยะทางห้าร้อยเมตรก็หายไปจนสิ้น มาตอนนี้คาซึกิมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าบริเวณที่ว่านแดงหลายสิบต้นกำลังงอกอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมากแล้วล่ะนะ” ดวงตาสีเขียวคมกริบกวาดสายตามองไปโดยรอบที่เหลือเพียงหมีสีน้ำตาลไม่กี่ตัวคอยเฝ้าอยู่ และในทันทีที่มันเห็นผู้บุกรุกร่างเหล่านั้นก็พุ่งเข้าใส่ร่างของคาซึกิด้วยความรวดเร็ว

กรงเล็บของหมีตัวนั้นพุ่งเข้าใส่ร่างของคาซึกิในทันที หากเป็นคนปกติโดนตะปบเข้าไปไม่แคล้วต้องเจ็บหนัก แต่ในตอนนั้นเองที่ร่างของคาซึกินั้นหายวับไปต่อหน้าต่อตา

“ขอโทษนะอาจจะเจ็บสักหน่อย อย่าว่ากันเลย” มือเรียวของเจ้าตัวกระชับไปที่ดาบคาตานะที่คาดอยู่ข้างเอว พร้อมกันนั้นเองที่ดาบสีเขียวอ่อนถูกดึงออกมาจากฝัก

ดาบในมือถูกวาดออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูกวาดเข้าใส่ร่างของหมียักษ์ไม่เพียงเท่านั้นพลังมนตราธาตุลมหลั่งไหลออกมาจากร่างของคาซึกิอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวคมดาบของเขาก็วาดผ่านร่างของหมีสีน้ำตาลตัวนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แรงฟาดฟันส่งร่างหมีตัวนั้นให้ล้มลงไปกับพื้น แต่มันไม่จบเพียงเท่านั้นหมีสีน้ำตาลที่เคยอยู่ห่างไกลอีกสองตัวมาในยามนี้มันเข้ามาอยู่ในระยะประชิด ก่อนที่พวกมันทั้งสองตัวจะพุ่งเข้าใส่ร่างของคาซึกิในทันทีแต่ทางด้านของเจ้าตัวก็ใช่จะนิ่งนอนใจ

มนตราธาตุลม ศรลมสองดอก

ศรลมทั้งสองพุ่งเข้ากระแทกหน้าของหมีทั้งสองตัวนั้นจนพวกมันชะงัก ร่างไปในทันทีทางด้านของคาซึกิที่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอย ร่างของเขาเคลื่อนออกห่างจากหมีทั้งสองตัวก่อนจะ

มนตราธาตุลม กรงวายุ

มนตราธาตุลมอีกบทถูกใช้ออกก่อนที่สายลมจะตรงเข้ากักขังร่างของหมียักษ์ทั้งสองตัวเอาไว้ แน่นอนว่าพวกมันสองตัวย่อมไม่มีทางทำลายกรงสายลมนี้ได้เด็ดขาด นั่นเองจะเป็นโอกาที่ทำให้เขาสามารถเข้าไปหยิบของได้โดยสะดวก

“เอาล่ะเร่งหน่อยแล้วกัน ไม่รู้เจ้าหัวหน้าที่ชอบใช้ความรุนแรงนั่นจะอัดเจ้าพวกนี้แค่ไหน” คาซึกิเปรยเบาๆ ก่อนเก็บดาบของตนเข้าไปในฝักแล้วจึงก้าวเท้าเข้าไปหาว่านแดง ขอเพียงแค่ขุดมันขึ้นมาได้สำเร็จงานของเขาก็จะจบ

หากในพริบตานั้นเองร่างสีน้ำตาลร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากเงามืด ทำเอาดวงตาสีเขียวของเขาเปิดกว้างขึ้นความรวดเร็วของศัตรูมากเกินไปจนแทบไม่ทันใช้กระบวนดาบในการต้านรับด้วยซ้ำ

เสียงปะทะดังสนั่นร่างของคาซึกิลอยละลิ่วไปไกลหลายเมตร ความรุนแรงของการโจมตีนั้นอยู่ในระดับไม่ธรรมดา แต่โชคดีที่ในชั่วเสี้ยววินาทีนั้นคาซึกิสร้างเกราะมนตราธาตุลมขึ้นมาทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

“อึก บ้าน่า ทำไมเจ้าตัวนี้มันถึง...” ดวงตาเขียวของคาซึกิหรี่ลงด้วยความไม่อยากจะเชื่อที่สัมผัสของตนผิดพลาดไป แต่สิ่งที่น่าแปลกใจไม่ใช่เพียงแค่เรื่องนั้น เพราะตอนนี้เจ้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้านั้นมีแสงอ่อนจางห่อหุ้มร่างเอาไว้อย่างหนาแน่น เขารู้จักแสงแบบนี้แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมเจ้านี่ถึงได้

“แฮ่” แต่เขาก็ไม่มีเวลาจะมัวมาคิดมากนัก พริบตาถัดมาร่างของเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนั้นก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเขาด้วยความเร็วสูง ส่วนทางด้านของคาซึกิที่เห็นดังนั้นก็จำต้องสงบจิตใจของตนลง ก่อนกระชับดาบพร้อมรับศึกอย่างเต็มความสามารถ

“สัมผัสนี้มันพลังวัตร?” เรย์เอียงคอด้วยความแปลกใจขณะหลบหลีกกรงเล็บที่หมายจะขยี้ตนให้แหลกคามือของร่างสีน้ำตาลราวกับอยู่ในสนามเด็กเล่น แล้วจึงส่งศรแสงไปกระแทกข้อมือข้อเท้าให้ร่วงลงไปกองกับพื้นอีกหนึ่งตัว

หากจะบอกว่าเป็นพลังของคาซึกินั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะคาซึกินั้นจากท่วงท่าและคลื่นพลังที่แผ่ออกมาตามปกติทำให้รับรู้ได้ในทันทีว่าเป็นผู้ใช้มนตราธาตุลมและพลังมนตรากับพลังวัตรนั้นแทบไม่มีทางอยู่ร่วมในร่างเดียวกันได้เพราะมันจะทำลายกันเองจนผู้ที่มีมันนั่นแหละที่จะถึงฆาต

‘ติดใจยังไงพิกลแฮะ แต่จะพึ่งอลันตอนนี้มันก็...’

“ฮิๆ คิกๆๆ ฮะๆๆๆ” เสียงหัวเราะสุดหลอนที่ดังลอดผ่านเครื่องสื่อสารทำให้เขาชักอยากพังเครื่องสื่อสารที่เสียบไว้ที่หูใจแทบขาดติดที่ว่าราคาของมันไม่ใช่ถูกดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะทำแบบนั้นได้แต่สิ่งที่เขาแน่ใจคือตอนนี้คงหวังพึ่งเจ้าหนุ่มหน้าหวานไม่ได้แน่นอน

“ข้อขอวิงวอนแด่เฮเมร่า เทพีแห่งแสงผู้ส่องสว่างและทอประกาย จงเปล่งแสงแห่งทิวาของท่านเจิดจ้าในรัตติกาลอันมืดมิด ทิวากาลสาดแสง” สิ้นเสียงแสงสว่างสีฟ้าก็เจิดจ้าออกมาอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาเดียวก็ส่งผลให้ฝูงหมีทั้งหมดตาพร่าไปในทันใด

“เล่นอะไรครับเนี่ยเรย์ เดี๋ยวผมก็ตาบอดพอดี” เสียงมุ่ยราวกับเด็กโดนขัดใจดังลอดออกมาจากเครื่องสื่อสารเพราะเมื่อครู่นั้นประกายแสงเจิดจ้าเสียจนหากเขาไม่เคยเห็นเรย์ใช้มนตราบทนี้มาก่อนมีหวังหลับตาไม่ทันและตาพร่าไปอีกรายอย่างแน่นอน

“ฝากทางนี้ทีอลัน ฉันจะไปดูคาซึกิหน่อย” ไม่รีรอคำตอบใดๆเช่นเคยเขาอาศัยจังหวะที่พวกมันตาพร่าอยู่นี้วิ่งฝ่าพวกหมีสีน้ำตาลเหล่านั้นไปได้อย่างง่ายดายเพียงแค่อึดใจเดียวเขาก็มาถึงยังสถานที่ๆมีว่านแดงอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อมาถึงเขาก็ต้องพบว่าคาซึกิในตอนนี้นั้นกำลังรับมือกับหมีสีน้ำตาลตัวหนึ่งอยู่กรงเล็บของหมีตัวนั้นเฉี่ยวร่างของเจ้าตัวไปเล็กน้อยหากแต่ถึงแบบนั้นกรงเล็บของหมีสีน้ำตาลตัวนั้นก็ไม่ได้สัมผัสแม้แต่กับชายเสื้อของเจ้าตัว

“ไม่นึกเลยแฮะว่าแค่สัตว์ธรรมดาก็สามารถใช้พลังวัตรได้” เรย์รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยเพราะตามปกติแล้วสัตว์ที่สามารถใช้พลังพิเศษได้นั้นโดยมากจะเป็นพวกสัตว์ที่เหนือจินตนาการมากกว่าแต่อาจเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้ที่ไม่มีใครมาเก็บว่านแดงได้เลย

หากแต่แม้ว่าจะใช้มนตรายิงใส่ร่างของหมีสีน้ำตาลไปก็ตามแต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อาจหยุดยั้งหมีสีน้ำตาลได้เลยมันยังคงระดมโจมตีใส่คาซึกิต่อไปแถมการโจมตีของมันยังเริ่มเฉียบคมมากขึ้นเพราะมันราวกับว่าเริ่มชินกับการเคลื่อนไหวของคาซึกิแล้ว

เป็นครั้งแรกที่กรงเล็บของหมีตัวนี้เกี่ยวถูกเป้าหมายแม้จะเป็นเพียงแค่ชายเสื้อเล็กๆก็ตามแต่นั่นก็เริ่มสร้างความกังวลให้แก่คาซึกิได้พอสมควรหากยังมัวไม่ตอบโต้อีกมีหวังแย่แน่แต่จะใช้สันดาบจัดการเหมือนพวกก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เสียด้วย

เขามั่นใจว่าตนไม่มีทางพ่ายแพ้แต่ถึงแบบนั้นถ้ายังปล่อยไว้ก็อาจเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาได้ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดจึงควรจะเริ่มใช้คมดาบโจมตีอีกฝ่ายอาจไม่เล่นงานถึงตายแต่ก็ต้องทำให้ล้มลงในดาบนี้

“อโหสิเถอะนะ” คาซึกิกระชับดาบที่อยู่ในฝักของตนอย่างรวดเร็วแม้จะไม่อยากทำแต่ก็ดูจะไม่มีทางเลือกพลังมนตราธาตุลมไหลเข้าไปในดาบเตรียมพร้อมจะเข้าฟาดฟันผู้เป็นศัตรูก่อนที่หมีสีน้ำตาลจะตวัดกรงเล็บเข้าใส่ร่างของเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่คาซึกิหมายจะตวัดดาบสวนออกไป

แต่วินาทีนั้นมือของเขาถูกรั้งเอาไว้ด้วยมือของคนผู้หนึ่งทำเอาดวงตาสีเขียวของเขาเปิดกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึงเพราะไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่เข้ามาอยู่ในระยะประชิดของตนได้รวดเร็วและไร้ร่องรอยจนเขาไม่รู้ตัว

กรงเล็บของหมีสีน้ำตาลตัวนั้นปะทะกับโล่มนตราสีฟ้าที่ปรากฏขึ้นมาอย่างรวเร็ว และแน่นอนว่าจะเป็นโล่มนตราของใครไปไม่ได้นอกเสียจากหัวหน้าหน่วยที่สี่นั่นเอง

“ทำอะไรของนายฟะ นี่ใจคอคิดจะใช้คมดาบเลยหรือไง?” ทางด้านของเรย์นั้นดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของคาซึกิเขาอาศัยจังหวะนี้ดึงร่างของอีกฝ่ายให้หลบเลี่ยงออกมาจากบริเวณที่ว่านแดงงอกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามนี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าเราไม่ลงมือเราจะโดนเล่นงานซะเอง” แน่นอนว่าคงยากที่เขาจะหลบเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนี้แล้วไปขุดว่านแดงได้ทางที่ดีที่สุดก็คือเล่นงานให้บาดเจ็บจนลุกไม่ขึ้นนั่นแหละ

“ไม่ได้เฟ้ย ไม่ใช่ไม่เข้าใจหรอกนะแต่มันก็...” แน่นอนว่าเขาย่อมเข้าในในเหตุผลของคาซึกิดีแต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ค่อยอยากจะยอมรับเท่าไหร่อยู่ดี

“เอาเป็นว่าฉันจัดการเองแล้วกัน นายไปดูอยู่เฉยๆ ซะ” เรย์โบกมือไล่และโดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆทั้งสิ้นเพราะเจ้าตัวนั้นเดินเข้าไปหาว่านแดงเป็นที่เรียบร้อยการก้าวเท้าอย่างเอื่อยเฉื่อยจนเป็นเอกลักษณ์หากแต่ฝีเท้าของเขากลับว่องไวจนไม่น่าเชื่อ

“กรร” เสียงขู่ของหมีตัวนั้นดังขึ้นมากรงเล็บที่อัดแน่นไปด้วยพลังวัตรตะปบเข้าใส่ร่างของเรย์และปราณีใดๆแต่ทางด้านของเจ้าตัวที่เห็นดังนั้นเขากลับไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวใดๆแม้แต่น้อยก่อนวาดมือออกมาเบาๆ

โล่มนตราสีฟ้าปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วต้านทานการโจมตีของอีกฝ่ายไว้ได้อย่างง่ายดายหากแต่ทางด้านของหมีตัวนั้นกลับไม่ยอมแพ้กรงเล็บของมันระดมโจมตีใส่โล่มนตราจของเรย์อย่างเต็มที่

เสียงปะทะรุนแรงดังสนั่นหากแต่ก็ไม่อาจทำลายโล่มนตราของเรย์ไม่ได้เจ้าตัวยังคงก้าวเท้าอย่างเอื่อยเฉื่อยเช่นเดิมราวกับไม่ทุกข์ร้อนใดๆกับการโจมตีนี้เลยแม้แต่น้อย

“หมอนั่น...” ทางด้านของคาซึกิที่สังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่างแล้วจริงอยู่ที่โล่มนตราของเรย์นั้นแข็งแกร่งมากไม่มีทางที่เจ้าหมีตัวนี้จะทำลายได้เลยก็ตามหากแต่มันมีอะไรมากกว่านั้นอยู่ด้วยเพราะโล่มนตราของเขานั้นไม่ได้ทำร้ายหมีตัวนั้นเลยแม้แต่น้อย

ตามปกติโล่มนตรานั้นหากทรงพลังมากกว่าหลายๆขั้นจะทำให้สิ่งที่มาปะทะด้วยได้รับความเสียหายซะเองยิ่งการระดมโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ถ้าเรย์ใช้พลังสร้างโล่มนตราขึ้นมาต้านจริงๆป่านนี้มือทั้งสองข้างของหมีตัวนั้นคงเหวอะหวะไปแล้ว

แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นแม้จะระดมโจมตีอย่างบ้าคลั่งก็ตามแต่หมีตัวนั้นแทบไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บเลยมีแค่ความอ่อนล้าจากการทุ่มพลังวัตรโจมตีเท่านั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวใช้สร้างโล่มนตราที่ทำให้สามารถต้านรับการโจมตีได้โดยที่หมีตัวนี้ไม่บาดเจ็บไปด้วย

“เพราะแบบนั้นแหละครับ ผมถึงบอกไงว่าเขาเป็นคนดีกว่าที่คิด” เสียงของอลันที่ดังลอดผ่านเครื่องติดต่อสื่อสารแน่นอนเขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดเพราะยังไงเสียลำกล้องที่ติดตัวปืนนั้นย่อมทำให้เขามองเห็นในระยะไกลได้อยู่แล้ว

“ทำอะไรบ้าๆ” คาซึกิที่มองดูอยู่ไม่เข้าใจในการกระทำของเรย์แทนที่จะจัดการให้ลุกไม่ขึ้นจะได้ไม่ต้องมาคอยกางโล่มนตราต้านรับไปเรื่อยๆแบบนี้แต่กลับยอมสิ้นเปลืองพลังมนตราของตนเองคงสภาพโล่เอาไว้เพื่อไม่ให้ทำร้ายคนที่กำลังจะฆ่าตัวเอง

“ถึงจะเป็นคนบ้าๆ แต่เขาก็เป็นคนที่น่านับถือและเป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจที่สุดด้วยละนะ” อลันที่เฝ้ามองเรย์มาตลอดสองปีนั้นแม้จะชอบบ่นถึงเรย์ปากเปียกปากแฉะและชอบทำท่าอ่อนใจก็ตามแต่เขาก็นับถือและชื่นชมเรย์อย่างจริงใจด้วยเช่นกัน

ทางด้านของเรย์นั้นในที่สุดเขาก็เดินมาถึงบริเวณที่มีว่านแดงอยู่จนได้หากแต่การโจมตีของหมีสีน้ำตาลก็ยิ่งดุดันและรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมยิ่งทำให้เรย์อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ก่อนที่เขาจะตัดสินใจคลายโล่มนตราของตนทิ้ง

กรงเล็บเฉี่ยวผ่านร่างของเรย์ไปเล็กน้อยหากแต่ทางด้านของเจ้าตัวกลับไม่สนใจใดๆเลยมือของเขากลับตรงเข้าไปลูบใบหน้าของเจ้าหมีสีน้ำตาลที่กำลังประสงค์ร้ายกับตนเองอย่างรวดเร็วไร้ซึ่งแววความหวาดกลัวหรือลังเลใดๆ

“ฉันไม่เข้าใจ นายก็น่าจะรู้ว่าชั้นแข็งแกร่งกว่านายมากและชั้นก็ไม่ได้มาเบียดเบียนอะไรนายด้วย ทำไมถึงต้องพยายามกันไม่ให้ชั้นเข้ามาขนาดนี้?” น้ำเสียงอ่อนโยนหลุดรอดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มผมขาวพร้อมกับมือที่ลูบใบหน้าของเจ้าหมีตัวนั้นอย่างแผ่วเบาความอ่อนโยนและอาทรที่แฝงมากับน้ำเสียงนั้นทำให้สัตว์ร้ายตรงหน้ายอมสงบลงในเวลาไม่นาน

“หงิงๆๆๆ” เสียงร้องของสัตว์ตัวเล็กๆ ดังขึ้นมาทำเอาเรย์ชะงักไปก่อนตวัดสายตาไปตามเสียงพบว่าเจ้าของเสียงร้องนี้คือลูกหมีสีน้ำตาลตัวเล็กที่ขาหน้าของมันมีร่องรอยบาดแผลขนาดใหญ่อยู่ด้วยกำลังส่งเสียงร้องราวกับไม่ต้องการให้เขาทำอะไรเจ้าหมีตัวตรงหน้าส่วนทางด้านเจ้าตัวที่กำลังสู้กับเขาก็เข้าไปหามีตัวเล็กในทันที

“อ๋อ เข้าใจละลูกของนายถูกมนุษย์ที่มาที่นี่ทำร้ายเข้าสินะ นายเลยขวางไม่ให้ทุกคนเข้าไปน่ะ” เรย์เข้าใจเรื่องทั้งหมดในทันทีการที่เจ้าหมีตัวนี้ระดมโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่งนั้นเป็นเพราะมนุษย์ที่มากันก่อนหน้านี้คงเผลอไปทำร้ายเจ้าหมีตัวเล็กที่เป็นลูกของมันเข้ามันเลยพุ่งโจมตีมนุษย์ทุกคนเช่นนี้

“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ได้มาทำร้ายนายและเจ้าตัวน้อยนั่นหรอก เพราะงั้นสบายใจได้ ชั้นแค่มาเอาสมุนไพรไปรักษาคนน่ะเพราะงั้นขอทางหน่อยนะ” รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าของเรย์นั้นตามปกติมันดูกวนอารมณ์ชวนทะเลาะแต่พอมาในยามนี้ในสายตาของคาซึกิและรอยยิ้มนั้นกลับดูอบอุ่นและอ่อนโยนอย่างหาใดเปรียบ

ทางด้านของสองพ่อลูกหมีที่เห็นดังนั้นจึงยอมหลบเลี่ยงให้เขาเดินเข้าไปขุดว่านแดงภายในรังของมันได้แต่โดยดีและในครานี้นั้นไม่มีหมีตัวใดทำร้ายพวกเขาอีกแล้วเพราะมันรู้ดีว่าผู้มาเยือนคนนี้แม้จะมาบุกรุกถิ่นของมันแต่ก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลย

“ขอบใจมากนะที่ยอมเข้าใจ” เรย์ลูบใบหน้าของเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนั้นอย่างแผ่วเบาอันที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่ชอบให้มนุษย์มาทำเช่นนี้เสียเท่าไหร่แต่กับมนุษย์ผู้นี้ดูคล้ายจะเป็นข้อยกเว้นก่อนที่เจ้าตัวจะปรายสายตาไปยังลูกหมีตัวน้อยและ

มนตราธาตุแสง แสงศักดิ์สิทธิ์คืนสภาพ

แสงสีฟ้าเข้าห่อหุ้มร่างของลูกหมีตัวนั้นพร้อมกับที่บาดแผลที่อยู่บนร่างของมันเลือนหายไปในพริบตา ความเจ็บปวดจากบาดแผลมลายหายไปสิ้นราวกับเป็นเรื่องโกหก

“ตอบแทนที่นายยอมให้ชั้นเข้าไปเก็บสมุนไพรง่ายๆ ไปล่ะ” เรย์โบกมือลาเจ้าหมีสองพ่อลูกจ่าฝูงก่อนเดินออกไปจากบริเวณนี้พร้อมกับว่านแดงสองต้นทางด้านของคาซึกิที่เห็นดังนั้นก็เดินตามออกไปด้วยโดยไม่มีหมีตัวใดเข้ามาทำร้ายพวกเขาอีกเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel