บท
ตั้งค่า

Chapter 7: เจ้ากรรมนายเวร[2]

“พี่อินทร์ครับ”

“จันทร์ไม่มองน้องอายอะไร”

“พี่...”

“อายแก่ใจเห็นดาวยังจ้อง”

“จิว่าหยุด...”

“แน่ะเมฆมาทับ ดับแล้วดวงดารา มาหอมหน่อยขวัญตา น้องเอยอย่ากลัวท่านเหลียวมอง”

“…”

“อุ๊ยว้าย! ดูซิช้ำไปเป็นกอง”

ถึงท่อนนี้ ท่าทางดูตอแล้ตอแหล ชม้อยชม้ายชายตาให้ผม เอามืออังแก้มดิ้นแด๊ะแด๋สุดชีวิต เห็นแล้วอยากเอาเมนูฟาดหน้า

มึงก็หยุดแรดสักนาทีนึงได้ไหมเล่า! กูหาจุดพูดแทรกไม่ได้เลยเนี่ย!

“ถ้าพี่อินทร์ไม่หยุด จิจะโกรธแล้วจริงๆ นะ”

พอผมพูดออกมาแบบนี้ พี่อินทร์ก็หยุดจนได้ แต่ก็ไม่วายหัวเราะออกมาด้วยขำกับสีหน้าของผม

“พี่แค่ร้องเพลงแค่นี้เอง ทำไมต้องโกรธด้วย”

กูจะไม่โกรธเลยถ้ามึงร้องแล้วไม่ทำท่าแรดขนาดนี้น่ะ เดี๋ยวสลับเสียงชายหญิงไปมา มึงเป็นไบโพล่าร์เหรอไอ้อิเหนา!

ผมไม่พูด ได้แค่ค้อนประหลับประเหลือก พี่อินทร์ก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคางบนโต๊ะอีกครั้ง มืออีกข้างเอื้อมมาจับแก้มผมอีกแล้ว

“โอ๋ๆ ไม่งอนนะพ่อหนุ่มหน้ากระรอก”

ผมปัดมือเขาทิ้ง ว่าเสียงแข็ง “เลิกเล่นได้แล้ว จิบอกแล้วไงว่าไม่ชอบ”

พี่อินทร์ชะงัก “ไม่ชอบให้พี่แกล้ง หรือไม่ชอบให้พี่จับแก้ม”

“ทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ เลิกถามได้แล้ว”

เท่านั้นพี่อินทร์ก็ยืดตัวขึ้น ว่าอย่างไม่ยี่หระ

“งั้นก็ช่วยไม่ได้ ร้องเพลงต่อแล้วกัน โน่นแน่ะนกเขาคูจุ๊ก จุ๊กกรูนกมันเฝ้าคูหาชู้มัน~”

มึงจะมาเป็นแฟนบอยวงสุนทราภรณ์แบบนี้ไม่ได้!

ผมรีบเอื้อมมือไปปิดปากเขาเลย เพราะไม่อย่างนั้นพี่อินทร์ได้ร้องเพลงใหม่ออกมาแน่ ก่อนผมจะรีบว่าเร็วๆ

“รู้แล้วๆ จับก็จับ แต่ห้ามร้องเพลงอีกนะ ไม่งั้นจิกลับจริงๆ ด้วย พี่บุศย์ก็จะไม่รอแล้ว”

ดวงตาของพี่อินทร์ดูมีรอยยิ้มขึ้นมา ท่าทางจะขำผมมาก แต่ก็ยอมพยักหน้า พอผมปล่อยมือออก เขาก็ว่าหน้าระรื่น

“ยอมแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว”

แล้วก็ใช้มือมาบีบๆ จับๆ แก้มผมเป็นการใหญ่ โดยไม่สนใจว่าผมจะหน้ามุ่ยแค่ไหนเลย

ไอ้อิเหนานี่เจ้ากรรมนายเวรของจรกาที่แท้ทรู

แล้วพูดอะไรได้บ้างไหมล่ะ แม่ง เหมือนสีซอให้ควายฟังอะ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรขึ้นมาเลยสักนิด

และพอผมยอมให้เขานั่งจับแก้มจนหนำใจพร้อมกับทำหน้าบูดใส่เขาตลอดเวลา จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างมาเสียบที่ใบหู สายตาเหลือบเห็นเงาสะท้อนรางๆ ของตัวเองในกระจกร้านพอดี พลันก็พบว่าไอ้ที่รู้สึกเมื่อกี้เป็นเพราะพี่อินทร์เอาดอกไม้มาทัดหูผม

ดอกไม้...

เป็นดอกชบาสีชมพู…

ผมหันไปมองหน้าเขา กะจะแหวใส่เขานั่นแหละว่าเล่นอะไร แต่พี่อินทร์ก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“ทำแบบนี้แล้วน่ารักดี”

“แต่จิไม่ชอบ”

ผมว่าไปอีก เดาได้เลยว่าตอนนี้คิ้วแทบจะขมวดกันเป็นปมแล้วมั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้พี่อินทร์สนใจอะไร เขายิ้มให้ผมแล้วว่าเสียงเรียบ

“แต่พี่ชอบ”

“เฮอะ ก็แน่ล่ะสิ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่อินทร์ชอบแกล้งจิ”

ผมว่า เขาหัวเราะแล้วก็ส่ายหน้า

“ใครบอกว่าพี่ชอบแกล้งจิ”

“ไม่ต้องมีใครบอก จิก็รู้ เจอหน้าทีไรก็แกล้งทุกที อย่างนี้จะบอกว่าไม่ชอบแกล้งเหรอ”

เขาไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ยอมรับ ได้แต่พูดประโยคอื่น

“ถ้าจิไม่ชอบให้พี่แกล้ง พี่ก็จะแกล้งน้อยลงนะ”

“ก็ยังแกล้งอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”

ผมพึมพำ พี่อินทร์ได้ยินเต็มสองหูนั่นแหละ แต่เขาทำเป็นหูทวนลม

“แต่ที่พี่บอกว่าไม่ชอบแกล้งจิน่ะ เรื่องจริงนะ”

ใครเชื่อก็กินหญ้าแล้ว!

แต่เขาก็ทำให้ผมต้องนิ่งงันไปเมื่อพูดออกมาอีก

“เพราะจริงๆ แล้ว พี่มีอย่างอื่นที่ชอบมากกว่า”

อย่างอื่นที่ชอบมากกว่า... อะไรน่ะ

ทว่าเขาก็ไม่ให้คำตอบผมแล้ว ได้แต่หันไปหยิบดอกไม้อีกดอกมาทัดหูผม คราวนี้เหมือนจะเป็นดอกดาวเรืองเพราะเห็นสีเหลืองๆ พลันผมก็ฉุกใจขึ้นมา

“พี่อินทร์”

“หืม?”

“เอาดอกไม้มาจากไหน”

เขาพยักพเยิดใบหน้าไปยังกลางโต๊ะ เท่านั้นผมก็รู้เลย

มึงจะเอาดอกไม้ที่ใส่แจกันประดับโต๊ะมาทัดหูกูแบบนี้ไม่ได้!

ผมรีบดึงดอกไม้ออกแล้วปักคืนไปในแจกันเหมือนเดิม ขณะที่พี่อินทร์เห็นแล้วก็ทำหน้าตาเหมือนตัดพ้อ

“คนใจร้าย~”

เออ! กูจะใจร้ายให้มากกว่านี้ด้วยถ้ายังเอาดอกไม้มาปักชำที่หัวกูเนี่ย!

เจ้ากรรมนายเวรจริงๆ เล้ย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel