Chapter 04: เมียอิเหนา[2]
นี่อิเหนาหรืออิแรด ตอแล้ตอแหล
ผมก็ไม่ได้พูดอะไรหรอก ได้แต่เหวออยู่ ขณะที่พี่อินทร์ยังสะดีดสะดิ้งไม่เลิก
“แล้วนี่จะกลับรังรักของเราหรือยังจ๊ะฮันนี่ เค้าอยากจะแช่แว้บกับตัวเองแล้วนะ งื้อ~”
ขนลุกชันไปทั่วทั้งตัวเลย สาบานเลยว่าไอ้ตัวที่น่ากลัวกว่าวิหยาสะกำก็อิเหนานี่แหละ
แช่แว้บอะไรของมึ้ง!
แต่ไม่ทันไร พี่อินทร์ก็ทำเป็นเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีใครอีกคนอยู่ตรงนั้น พลันโพล่งออกมา
“แล้วคุณ...มีธุระอะไรกับแฟนผมเหรอครับ”
พี่วิญญูตีหน้าเข้มทันที เรียวคิ้วขมวดเข้าหากัน ว่าเสียงต่ำ
“คุณอีกแล้ว...”
“หืม?”
“ไหนว่าเป็นแฟนบุศย์ไม่ใช่หรือไง”
พูดมางี้ ผมก็รู้เลยว่าตอนที่พี่อินทร์เป็นไม้กันหมาให้พี่บุศย์ เขาอ้างว่าอะไร
ไม่ชอบอะ ไม่ชอบเลย แต่ทำได้แค่มุ่ยหน้าใส่เท่านั้น
“ก็ใช่ แต่คนนี้ก็แฟนผมเหมือนกัน”
พี่อินทร์ทำท่าไม่ยี่หระ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของผมหน้าตาเฉย และนั่นก็ทำให้พี่วิญญูทำหน้าเครียดมากไปอีก
“หมายความว่าอะไร หรือ...คุณจะจับปลาสองมือ?”
เท่านั้นพี่อินทร์ก็ส่งเสียงสูง “เปล๊า แค่คนละสถานะ”
สีหน้าของคนฟังบ่งบอกชัดเจนว่าคนละสถานะคืออะไร ไม่ต่างจากผมที่มองหน้าพี่อินทร์แล้วก็ได้แต่สงสัยด้วยคิดไม่ออกว่าเขามีแผนการอะไรอยู่ ก่อนที่พี่อินทร์จะว่าหน้าระรื่นในอีกไม่กี่วินาทีให้หลัง
“กับไอ้บุศย์น่ะ อันนั้นมันเป็นผัว” จากนั้นก็ปล่อยมือออกจากต้นแขนผมมาโอบกระชับให้เข้าไปแนบชิดกับลำตัวเขา “แต่หนุ่มน้อยคนนี้น่ะ เมียจ้า~”
ผมเบิกตาโตเลย พี่วิญญูก็เบิกตาโต ก่อนที่จะกลับมาเป็นสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนเดิม ไม่สิ...ยิ่งกว่าเดิมอีก พลันถามผมด้วยน้ำเสียงคาดคั้นอีกครั้ง
“จริงหรือเปล่าน้องจิ?”
“คะ...คือ...”
ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง ถ้าตอบว่าไม่จริง รับรองเลยว่าเขาได้ตามเกาะติดผมแจเหมือนเดิมแน่ แต่ถ้าตอบว่าจริง มีหวังคงต้องเข้าใจผิดกันไปยกใหญ่ อะไรไม่ว่า แค่คิดว่าตัวเองเป็นเมียอิเหนา ผมก็คันคะเยอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้ว!
“จริง”
ไม่ต้องให้ผมตอบ พี่อินทร์ก็ตอบแทนแล้ว ผมหันไปถลึงตาใส่ ไม่อยากให้เขาพูดอะไรให้ชวนเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนจะหยุดเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“หรือจะต้องให้พิสูจน์ความรักหืม?”
ยังไม่ทันจะมีใครตอบตกลง พี่อินทร์ก็ฝังปลายจมูกลงมาบนแก้มผมแล้ว ผมสะดุ้งโหยงเมื่อริมฝีปากนุ่มๆ ประทับลงมา หัวสมองมึนงงไปหมด ได้ยินแต่เสียงสูดลมหายใจดังฟอด ตามมาด้วยเสียงเจ้าคนขโมยหอมแก้มหน้าตาเฉยคนนั้น
“ชื่นใจ~ ว่าไง เชื่อหรือยังว่าเป็นเมีย หรือจะต้องให้พิสูจน์อีก?”
หะ...หอมแก้ม
อิเหนามันหอมแก้มผม!
ประโยคหลังถามพี่วิญญู ส่วนผมก็ใบ้กินไปแล้ว แต่ก็ยังพอจะมีสติที่จะเห็นว่าสีหน้าของพี่วิญญูในขณะนี้ดูตะลึงงันอยู่ไม่น้อย
“อ้อ ยังไม่ชัดสินะ งั้นเดี๋ยวจูบโชว์”
เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆ
อันนี้ได้สติ ผมเตรียมจะห้ามเลย มือยกจะดันหน้าหล่อๆ นั่นออกห่างแล้ว แต่ก็ไวไม่เท่าพี่อินทร์ก็หันมาได้ปุ๊บ ก็จับผมไปจูบปั๊บ
ผมทำอะไรไม่ถูก สั่นระริกไปทั้งตัว สัมผัสได้แต่เพียงว่าริมฝีปากนุ่มๆ นั่นกำลังดูดกลืนเรียวปากของผมอยู่ อะไรไม่ว่า...แม่งสอดลิ้นเข้ามาด้วย
มึงจะสมบทบาทเกินไปแล้วไอ้อิเหนา!
พี่วิญญูคงจะทนดูเห็นภาพบาดตาบาดใจนี้ไม่ได้มั้ง ทำท่าฮึดฮัดแล้วเดินหนีลงบันไดไปทันที ปล่อยให้ผมกับอิเหนาจูบกันดูดดื่มอยู่อย่างนั้น
จูบ...ไม่ปล่อย จนผมต้องเป็นฝ่ายทุบคนตรงหน้าดังอั้ก ตอนนั้นเองที่พี่อินทร์รู้ตัว ยอมผละริมฝีปากออกไป
“อุแหม่ เพลินไปหน่อย ยาวเลย”
แต่กูไม่ได้เพลินเลยเว้ย!
ผมมองหน้าพี่อินทร์ที่ดูไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งใดพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่ผุดพราย
ความรู้สึกนั้น...เสมือนเสียพรหมจรรย์ที่เก็บไว้มานานไป
จูบแรกในชีวิตของผม ผมตั้งใจจะทำมันกับพี่บุศย์ต่างหาก ไม่ใช่กับไอ้เวรนี่!
พี่อินทร์เพิ่งจะรู้สึกตัวมั้งว่าทำอะไรลงไปโดยไม่ได้ถามความสมัครใจของผมก่อน ยื่นมือไปตบบ่าปุๆ ว่าด้วยท่าทางไม่ยี่หระ
“ผู้ชายเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอกเนอะ แค่จูบเอง”
สำหรับกูมันไม่ใช่ไง!
เท่านั้นขอบตาก็ร้อนผะผ่าว น้ำตาหยดใสไหลอาบหน้า เผลอส่งเสียงสะอื้นออกมาด้วย
“ฮึก...”
พี่อินทร์ดูตกใจไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยินดียินร้ายอะไรเท่าที่ควร ตบบ่าผมมาอีกที
“เฮ้ย ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้น เรื่องแค่นี้เอง ผัวเมียกัน ช่วยๆ กันไป ไม่เป็นไรหรอก”
ยังไม่สำนึกอีก ที่สำคัญนะ...กูใช่เมียมึงที่ไหนกันเล่าไอ้อิเหนา นี่จรกานะเว้ย จะเอาบุษบาเป็นผัว แล้วเอาจรกาทำเมียไม่ได้!
ไม่ใช่อิเหนาแล้ว อิแรดชัดๆ เลย!
