บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

"หรา..." เธอลากเสียงยาว ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง เพราะไม่อยากคุยด้วย

ภายในหัวใจของเด็กสาวหวั่นไหวเหลือเกิน สายตาของวิษรุจที่มองดูกุหลาบแก้วเต็มไปด้วยความห่วงหาอาทร

เธอจะมีวันได้รับความรักจากเขาแบบนั้นหรือเปล่าหนอ

บ้าไปแล้วยายรุ้ง เธอคิดแบบนี้ได้อย่างไร

ทอรุ้งคิดอยู่คนเดียว และสะบัดหัวเหมือนคนบ้า

"อ้าว ๆ เป็นอะไรมากไปหรือเปล่าเนี่ย แค่เพื่อนเตือนนี่นะ ถึงกับออกอาการ" โตว่าให้

ทอรุ้งหันขวับมาจ้องหน้าเขา ทำตาเหมือนซอมบี

"มันเรื่องของฉัน... งอน..." ริมฝีปากแทบชิดจมูก

"รุ้ง ถ้าแกมีลูก ฉันขอตัวนะ มันคงน่ารักน่าฟัดน่าดู"

"ไอ้บ้าโต ฉันไม่ใช่หมานะ"

แล้วเสียงทะเลาะหยอกเย้าก็ดังโวยวายเต็มรถ

"คุณหนูครับ ถ้าไม่เลิกทะเลาะ ประเดี๋ยวผมจะจอด แล้วจะให้หาทางไปกันเองนะครับ กระผมรำคาญ" ลุงสง่าใช้เสียงสูง

"ขอโทษค่ะ"

"ขอโทษครับ"

"แยก ๆ อย่าเห็นว่ายุ่งกันอีกนะครับ" ลุงสง่ายิ้มเย็น

ในห้องนอนของทอรุ้งที่บ้านจักราวุธ ทุกคนกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะกัมปนาทแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับกุหลาบแก้ว

เด็กสาวนอนอยู่บนเตียง เปิดรูปที่วิษรุจตั้งเป็นโปรไฟล์ด้วยความคิดถึง หัวใจเธอลงปฏิพัทธ์ต่อเขา ทอรุ้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร

‘พี่รุจคะ รุ้งเป็นห่วงนะคะ’ ทอรุ้งเพียรส่งข้อความไปหาเขาอีกครั้ง

วิษรุจยังคงนั่งดื่มอยู่ที่หน้าบ้านแบบหัวปักหัวปำ

(เธอเป็นใคร กล้าดียังไงมาห่วงฉัน)

ทอรุ้งรีบถ่ายรูปหน้าตัวเอง พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสส่งไปให้เขาในทันที

(อ๋อ...ยายเด็กบ้าคนนี้นี่เอง) วิษรุจส่งมาเป็นข้อความเสียง น้ำเสียงทั้งอ้อแอ้เพราะเมาแปล้

(เด็กบ้า ดีกว่าผู้ใหญ่บ้า ๆ ก็แล้วกันค่ะ) เธอมีงอน ส่งเป็นเสียงกลับไปหาเขาเช่นกัน

(ยายเด็กเมื่อวานซืน เธอจะไปรู้เรื่องอะไร นี่มันชีวิตของฉัน อย่ามายุ่ง)เสียงที่บ่งบอกว่าเมา ช่างเหมือนเวลาที่คุณพ่อของเธอเมาแล้วต่อล้อต่อเถียงกับคุณแม่

(แปลกคน ความรู้ท่วมหัว แต่ไม่ยักเอาตัวรอด) เธอพิมพ์ไป

วิษรุจเมื่อโดนเด็กหญิงปรามาสตนเองแบบนั้นถึงกับหัวร้อน ตาสว่าง เลือดพลุ่งพล่านไปหมด

"หน็อยแน่ ยายเด็กนรก ก็ดีแต่เข้าข้างพี่ชายของมันน่ะสิ ในโลกนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่น่าเชื่อถือสักคน" วิษรุจถึงกับเอ่ยปาก

บล็อก ตัวหนังสือที่เขาเห็นอยู่หน้าจอ เขาลังเลว่าจะกดบล็อกทอรุ้งหรือไม่ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ เด็กสาวก็ยังกระหน่ำข้อความส่งมาถึงเขา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"คุณรุ้งคะ พวกคุณจะไปโรงพยาบาลกันแล้วค่ะ พี่น้อยมาตาม" เสียงน้อยดังมาจากนอกห้อง

"ค่ะ รุ้งกำลังไป" เธอรีบลงจากเตียงคว้ากระเป๋าสะพายไปด้วย

ที่โรงพยาบาล

เลขาฯ ของคุณอิทธิพลเอาเอกสารมาให้ท่านเซ็นถึงโรงพยาบาล ทอรุ้งรีบเดินเข้าไปเสนอหน้า

"สวัสดีค่ะพี่"

"ว่าไงจ๊ะ"

"คะ คือ รุ้ง รุ้งมีเรื่องอยากจะถามนะคะ"

"เรียกพี่ว่าพี่น้ำฝนก็ได้ค่ะ" รอยยิ้มแสดงถึงความเป็นคนใจเย็น

"ทนายวิษรุจกลับมาทำงานหรือยังคะ"

"ยังค่ะ หนูถามทำไมหรือคะ"

ทอรุ้งยิ้มแป้น

"อ๋อ... คุณวิษรุจเขาทำของหล่นเอาไว้ที่นี่น่ะค่ะ หนูเก็บได้ แต่หนูต้องเอาไปคืนเขาด้วยตัวเอง"

"ฝากพี่เอาไปคืนให้ไหม"

ทอรุ้งส่ายหน้า

"มันเป็นของมีค่ามาก ๆ ค่ะ มีค่ากับความรู้สึก"

น้ำฝนคิดว่าเด็กสาวล้อเล่น

"ต้องไปคืนเขาที่บ้านเองแล้วละ เพราะคุณอิทธิพลอนุมัติให้ทนายวิษรุจลาหยุดยาวได้อีกหนึ่งเดือน เอกสารอยู่นี่จ้ะ"

"ตั้งเป็นเดือนเลยหรือคะ มีหวังตับแข็งตายไปอีกคน" ทอรุ้งบ่น

"อะไรจะแข็งตายนะจ๊ะ"

"พี่น้ำฝนคะ รุ้งขอที่อยู่พี่ทนายรุจได้ไหมคะ เพราะรุ้งต้องไปอยู่เชียงใหม่อีกเป็นเดือนเลยค่ะ"

"คุณรุ้งคะ คุณป้าเรียกค่ะ" น้อยเดินออกมาตาม

"ได้ค่ะ" น้ำฝนเขียนที่อยู่ของวิษรุจให้

"ขอบคุณมากค่ะ" ทอรุ้งยกมือไหว้ กำกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ในมือแน่นด้วยหัวใจที่คาดหวัง

ขณะที่กำลังเดินลงมาจากตึกเพื่อกลับบ้าน

"คุณป้าคะ รุ้งจะขอไปชอปปิงก่อนกลับเชียงใหม่ได้ไหมคะ"

"รุ้งจะไปกับใคร โตก็ไม่ได้มากับเราเสียด้วย"

"ก็ไปคนเดียวนะสิคะป้า รุ้งโตแล้วนะคะ อีกอย่างไปเดินชอปปิงมีนายโตไปด้วยก็ไม่สนุกหรอกค่ะ เพราะรุ้งจะไปหาดูเสื้อผ้าใส่เที่ยวสงกรานต์"

"อย่าเถลไถลนะ หรือว่าจะให้ป้าไปเดินเป็นเพื่อน"

"ป้าเดินไหวไหมคะ"

คุณแจ่มจันทร์จับที่หัวเข่าตัวเอง

"ไม่เอาดีกว่า เคยไปเดินกับพี่ต๊ะกับพี่นิ้งแล้ว อุ้ย ไม่ไหว เวียนหัวด้วย คนก็เยอะ งั้นเราก็ระวัง ๆ ตัวด้วยล่ะ"

"ค่ะ คุณป้า" เด็กสาวยิ้มด้วยความดีใจ เมื่อไปส่งคุณป้าที่รถแล้วจึงขอแยกตัวไป

ทอรุ้งเดินออกจากโรงพยาบาลเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าตั้งใจจะไปชอปปิงจริง ๆ จังหวะที่ล้วงกระเป๋าหยิบเอาเงินออกมา กระดาษที่อยู่ของวิษรุจก็ร่วงลงไป เธอรีบเก็บแทบไม่ทัน

"ชิ..." เด็กสาวทำหน้างอน ๆ อยู่คนเดียว หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าเช็กว่าวิษรุจติดต่อเธอกลับมาบ้างหรือยัง

‘ทำไมยังไม่อ่านข้อความของเราอีกเนี่ย’

เธอคิดไป วิษรุจน่าจะเมาแอ๋ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เธอเคยถามเรื่องราวของวิษรุจกับกุหลาบแก้ว กุหลาบแก้วบอกว่าเขาอยู่คนเดียว พ่อกับแม่ไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศอินเดีย

‘ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเลย ได้ยินที่เขาว่าแกไหมว่าเป็นเด็กเปรต’

จังหวะที่กำลังจะก้าวขาไปข้างหน้า ก็มีเสียงเตือนข้อความใหม่เข้า ทอรุ้งจึงรีบเปิดดู

(เธอมันก็ไม่ต่างกับพี่ชายของเธอนั่นแหละ เชื้อสายย่อมไม่ทิ้งพันธุ์ คนอยากแย่งของของคนอื่น มันก็ทำวิธีการชั่ว ๆ เพื่อจะได้มา พี่ชายของเธอชั่วร้ายที่สุด)

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel