คู่แค้น แสนรัก

64.0K · จบแล้ว
คุณธิดา
40
บท
7.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อพี่ชายเธอมาแย่งเอาคนรักของเขาไปเขาจะทำยังไงให้ความแค้นที่ฝั่งแน่นในคลายลงแต่การกระทำที่อยากจะกลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกลับกลายมาเป็นพันธนาการที่ผูกมัดตัวเขาและหัวใจของเขาเอาไว้กับเธอตลอดไปคำโปรย-------"ไอ้สิ่งที่พี่ของเธอทำ มันโคตรจะทุเรศเลย เธอรู้ไหม มันมาปล้นเอาความรักของนิ้งไปจากฉันแท้ๆ มันปล้นเอาไป หัวใจของนิ้งต้องเป็นของฉันสิ"“ไม่จริง คุณมันดื้อด้าน อยู่แต่ในความมืดมนแบบนี้ไง ไม่มองเห็นความรู้สึกของใครบ้างเหรอ ถ้าพี่นิ้งเขารักคุณ เขาจะปฏิเสธคุณทำไม” คำตอบช่างย้ำชัดวิษรุจโกรธมากๆ ที่เด็กสาวพูดแทงใจดำ"คุณก็หารักใหม่ได้นี่คะ คุณทั้งหล่อทั้งดูดี" เธอเถียงเขาข้างๆ คูๆ และอยากจะพูดให้เขามีสติมากขึ้น บางทีวิษรุจอาจจะคิดได้"กับใครฮึ แม่สาวน้อย" เขาจ้องสบตากับเด็กสาว ก้มลงมาหายใจรดใบหน้าที่เงยขึ้นมองหน้าเขา"กับเธอหรือ หึ..." เสียงหัวเราะเย็นๆสายตาที่มุ่งร้าย มองเธอแบบโลมเลียเธอสะดุ้ง เขาเดินมาใกล้จนชิด สองมือของวิษรุจถูกยกขึ้นมากั้นร่างกายเล็กๆ ของเด็กสาวเอาไว้สายตาที่มองเธอเหมือนกระหายใคร่รัก อยากแกล้งเด็กที่ไม่รู้เด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ เธอบังอาจมาสอนเขาได้ยังไง ให้เขาทำแบบนั้นแบบนี้เขาชิดใบหน้าก้มต่ำลงมาเรื่อยๆ และหายใจพ่นแรงๆ ลมที่ออกมาเต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์ ดูเหมือนเขาจงใจเป่าลมหายใจนั้นไปทั่วใบหน้าและลำคอขาวๆ"คุณจะทำอะไร” เธอนึกขยาด ตอนนี้ภายใต้หน้าอกข้างในนี้มันสั่นไหวเต้นแรงโครมครามไปหมดแล้ว"ทำอะไรเหรอ แม่หนูน้อย อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า มาเสนอตัวซะขนาดนี้" เขาพูดชัดเจน

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนิยายรักโรแมนติกดราม่ารักหวานๆพลิกชีวิตแต่งงานสายฟ้าแลบรักแรกพบสัญญาทางรัก

บทที่ 1

“ไอ้รุจ มึงจะเอายังไงกับชีวิต งานก็ไม่ไปทำ แล้วมาดื่มเหล้า เมามายเป็นวัน ๆ แบบนี้นะ” อาทิตย์เดินเข้ามาในบ้านของวิษรุจพร้อมกับคำบ่น

“มึงมานั่งดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”

“โอ๊ย ไม่เอาหรอก” ปากปฏิเสธ แต่มือก็ไล่เก็บเอาข้าวของเครื่องใช้ของวิษรุจที่ตกอยู่เกลื่อนขึ้นไปพาดไว้บนเก้าอี้ แล้วยกจานชามที่สกปรกเอาไปล้างให้ หลังจากนั้น อาทิตย์ก็กลับมาดึงตัวของวิษรุจเพื่อให้เขาไปอาบน้ำ

“หยุดดื่ม กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้ ไอ้รุจคนเก่งของกูหายไปไหนวะ” เพื่อนรักมองหน้า

“ใคร ๆ ก็อกหักกันได้ แต่มึงจะยอมเป็นไอ้ขี้แพ้มานั่งซมซานอยู่ตรงนี้ไม่ได้ กูขอประกาศให้มึงเลิกเป็นทาสหัวใจของยายนิ้งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

“ดะ เดี๋ยวก่อน ไอ้อาทิตย์มึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งกู แล้วมึงจะเอาเหล้าของกูไปไหน”

อาทิตย์เดินถือขวดเหล้าที่เหลือตรงไปนอกชายคาบ้าน ก่อนจะเทมันลงไปกับพื้นดินตรงนั้น

“ไอ้เชี่ย...มึงอย่านะไอ้ทิตย์”

อาทิตย์ยกนิ้วชี้หน้า

“ถ้ามึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ละก็ให้ลุกไปอาบน้ำ แล้วไปนอนซะ”

"เออ... ก็ได้วะ” เขาไม่สบอารมณ์ และตอนนี้ก็ยอมรับว่าเมามาก ๆ

วิษรุจเดินตุปัดตุเป๋เข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะทิ้งทั้งตัวลงไปนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงโดยไม่ไปอาบน้ำตามคำสั่งของเพื่อน

“ฮัลโหลนิ้ง นี่พี่เอง”

(“พี่อาทิตย์ พี่รุจเป็นยังไงบ้างคะ”)

“เฮ้อ...” เขาถอนหายใจยาว

"แผลทางกายเริ่มหายดีแล้ว แต่แผลที่อยู่กลางใจน่าจะยังอีกนาน แต่นิ้งไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ พี่จะดูแลไอ้รุจมันให้เอง อาจจะหายช้าหน่อย แต่มันคงจะดีขึ้นในเร็ววันนี้”

(“นิ้ง... เอ่อ... นิ้ง...”)

กุหลาบแก้วไม่รู้จะพูดอย่างไรเหมือนกัน ตอนนี้ถ้าเธอพูดอะไรออกไปก็คงเหมือนกับคนแก้ตัว

"ไม่ต้องคิดมากหรอกนิ้ง พี่เข้าใจ คนไม่ได้รัก ทำยังไงมันก็รักยาก แล้วเรื่องที่นิ้งแต่งงานเงียบ ๆ และจดทะเบียนเป็นเรื่องจริงใช่ไหม”

(“ค่ะ”) ช่างเป็นคำตอบที่ชัดเจนและหนักแน่นเหลือเกิน

“พี่ขออวยพรให้ชีวิตคู่ของนิ้งมีความสุข รักกันยืนยาวนะ ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร”

(“ขอบคุณพี่อาทิตย์มากค่ะ ยังไงนิ้งขอฝากพี่รุจด้วยนะคะ บอกพี่รุจด้วย นิ้งยังรอให้พี่รุจกลับมาช่วยนิ้งทำงานเหมือนเดิม และนิ้งมีเรื่องงานที่จะปรึกษาพี่รุจมากมายเหลือเกินค่ะ”)

คนต้นสายมองเข้าไปในห้องนอนของเพื่อน

“พี่จะพยายามนะนิ้ง ให้เวลาไอ้รุจมันทำใจสักหน่อยแล้วกัน”

(“ขอบคุณค่ะพี่อาทิตย์”)

“รุจ กูเข้าใจมึงว่ะรุจ รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง มันติดมือนุงนังไปหมด สู้โว้ยเพื่อน” อาทิตย์พูดกับเพื่อน ทั้ง ๆ ที่วิษรุจนอนหลับไปแล้วเพราะความเมา

“เย้ สอบเสร็จแล้ว” เสียงอึกทึกดังไปทั้งตึก

"จะไปไหนยายรุ้ง”

"ฉันก็จะรีบกลับบ้านน่ะสิ วันนี้จะได้ไปเที่ยว กทม.”

“ผับใหม่ที่เปิดในเมืองน่ะหรือ” เพื่อน ๆ หมายถึงชื่อผับที่เปิดใหม่

“เปล่าจะไปกรุงเทพฯ”

“เฮ้อ... อิจฉาจัง ได้ข่าวพี่ชายแกแต่งงานกับเซเลบชื่อดังหรือ”

ทอรุ้งขยิบตาให้ ก่อนจะเดินไป

“อ้าว รุ้ง ไหนแกว่าจะไปกินเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับพวกเราไง” เพื่อน ๆ ตะโกนตามหลัง

“ไม่เอาแล้ว ยกยอดไปรวมกับเทอมหน้าก็แล้วกันนะ”

“ยายรุ้ง” เพื่อน ๆ ได้แต่ตะโกนตามหลัง เด็กสาวที่เดินแกมวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

บนรถที่กำลังแล่นบนถนนมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ

“พี่ต๊ะโทร. มาบอกว่าแม่ดีขึ้น ตอนนี้รับแม่ออกมาอยู่ที่บ้านแล้ว”

"ดีใจด้วยนะโต ก็ฉันบอกนายแล้วไง ว่าแม่นายต้องหาย” กฤตนันท์ยิ้มกว้าง แม่จะต้องดีขึ้น ๆ มากไปกว่านี้อีก

“เออ... แล้วเธอหอบกระเป๋าใบหนาใหญ่มาซะขนาดนั้น จะไปไหนอีก”

“นายไม่รู้อะไร ฉันซื้อตั๋วเครื่องบินจะไปหาพ่อกับแม่ที่เชียงใหม่ละ”

"อิจฉาเนอะ”

“นายก็ตามไปสิ ไปเล่นสงกรานต์ด้วยกันที่นั่น สนุกมาก” สีหน้าเธอเบิกบานเป็นที่สุด

"ถ้าแม่ดีขึ้นนะ แล้วฉันจะลองขอพี่ต๊ะดู”

“ฉันสัญญานะว่าจะพานายเที่ยวตระเวนให้รอบเมืองเชียงใหม่เลย”

“พูดแล้วนะ”

“เออสิ รับปากแล้ว คนอย่างฉันรับผิดชอบคำพูดเสมอ”

ทอรุ้งหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า ข้อความที่เธอส่งให้วิษรุจเป็นร้อย ๆ เขาเปิดอ่าน แต่ไม่ตอบเธอแม้แต่ประโยคเดียว

คนใจร้าย คนอุตส่าห์เป็นห่วง ชิ...

อย่าให้เจอนะ จะ...

แค่คิดสาวน้อยก็หน้าแดง เธอคิดถึงและเป็นห่วงวิษรุจมากขนาดนี้เลยหรือ

"เป็นอะไร ทำไมนั่งหน้าแดง" กฤตนันท์ถาม

"เปล่า" เด็กสาวทำเสียงสูง

"ทำตัวประหลาด สงสัยมีแฟนอะดิ"

"ก็มันคนน่ารักนะแก มันก็ต้องมีคนมาจีบบ้าง" ทอรุ้งโม้

"จริงเหรอ ขี้โม้นะเราเนี่ย" เด็กหนุ่มขยี้หัวของเธอแรง ๆ

"โอ๊ย นายนี่จริง ๆ เลย หัวฉันยุ่งหมดแล้ว" เธอทำหน้างอน

"หัวยุ่งยังไงก็น่ารัก"

"นายโต นี่นายจะจีบฉันเหรอ"

"โห... ยายเว่อร์ใครจะจีบเธอ ฝันอยู่หรือเปล่า ตื่นได้แล้ว สเปกของฉันต้องเป็นสาวหน้าหวาน ปากนิด จมูกหน่อย"

"หื้อ... ที่นายกำลังพูดถึงเนี่ย มันตัวฉันชัด"

"เหอะ ๆ แม่คนหลงตัวเอง" สายตาหยัน ๆ มีแววหยอกล้อเล่น

"นี่นายจำผู้ชายตัวโตคนนั้นได้ไหม คุณวิษรุจนะ"

"จำได้ ทำไมเหรอ"

"จะว่าไป เขาก็น่าสงสารนะ"

"แล้วไง หรือเธอจะอาสาดามหัวใจของเขาให้" กฤตนันท์จ้องหน้า

"ใครว่า"

เขาเอานิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากของเธอเบา ๆ

"เธอกับเขามันคนละรุ่นกัน ระวังตัวเหอะ โดนหลอกฟันไม่รู้ด้วย ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง หรือเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้นนะ ฉันขอเตือน"

"เอ๊ะ นี่นายเป็นคนยังไงกันแน่ ที่นายพูดเมื่อกี้ดูถูกกันชัด ๆ"

"ก็เพราะฉันรู้นิสัยของเธอไง ยายใจอ่อน นิสัยขี้สงสาร และเห็นใจคนแบบนี้แหละที่มักจะตกเป็นเหยื่อ"

"หน้าฉันดูโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ ชิ... ยังไงฉันก็เรียนเก่งกว่านายละกัน"

กฤตนันท์หัวเราะ

"เตือนเนี่ยก็เพราะรักหรอก"