3
ไม่มีใครในบริษัทนี้รู้ว่าเธอคือคู่หมั้นของเขา ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีใครจับตามอง เพราะเขาไม่เคยประกาศ ไม่เคยยอมรับ และไม่เคยคิดจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครได้รับรู้
ถึงวันนี้จะรู้สึกว่าบางอย่างมันแปลกไป แต่เขาก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนความสัมพันธ์อันเย็นชาระหว่างเขากับเธอ
เขาแค่อยากรู้ว่าเธอจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาตอนไหน และถ้าเมื่อไหร่ที่เธอพลาด เขาจะได้ตอกกลับด้วยความจริงทั้งหมด ว่าเธอไม่ต่างจากสิ่งที่เขาเคยได้ยินมาเลยสักนิด
แต่จนถึงตอนนี้...ลลินก็ยังคงเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำงานเงียบ ๆ แถมยังไม่สนใจจะสานความสัมพันธ์กับเขาด้วยซ้ำ น่าแปลกมากที่เธอไม่สนใจเขาเลย ความจริงเธอต้องเข้าหาเขา ทำให้เขาประทับใจสิ
เสียงนาฬิกาบนผนังดังติ๊ก ๆ อย่างสม่ำเสมอในห้องทำงานกว้างของประธานบริหารหนุ่ม ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบหรูนั่งอยู่หลังโต๊ะไม้สีเข้ม ดวงตาคมหลุบลงมองเอกสารตรงหน้า ทว่าความคิดกลับล่องลอยไปไกล
เธอยังไม่หันมามองเขาเลยสักครั้ง ไม่เคยแม้แต่จะยิ้มให้เขา ไม่เคยถามไถ่ หรือพยายามสานสัมพันธ์อะไรเลยทั้งที่เป็น ‘คู่หมั้น’
กวินขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดไว้
หญิงสาวที่เขาคิดว่าอยากเกาะเขา อยากได้ชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ กลับทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
“คุณลลินส่งเอกสารมาให้ครับ” เสียงของนิติเลขาคนสนิทชายหนุ่มดังขึ้นขัดจังหวะความคิด
กวินพยักหน้าเบา ๆ รับแฟ้มงานจากอีกฝ่าย และกล่าวขอบคุณเพียงสั้น ๆ แต่แล้วขณะชายหนุ่มเดินออกจากห้อง เขาก็เอ่ยเรียกขึ้นเบา ๆ
“นิติ”
“ครับ”
“ช่วยดูให้หน่อย ลลินเธอไปไหนหลังเลิกงานบ้าง” นิติเลิกคิ้วสูงทันที แต่ก็พยักหน้ารับอย่างรู้หน้าที่
“ครับ ผมจะไม่ให้คุณลลินรู้ตัวครับ”
กวินพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมานั่งที่โต๊ะ เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องอยากรู้
แค่...รู้สึกว่าเธอมีอะไรที่เขาไม่รู้
และเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เคยได้ยินมา มันจริงสักแค่ไหน
เย็นวันเดียวกัน รายงานสั้น ๆ จากคนของนิติก็มาถึงมือของเขาอย่างรวดเร็ว แบบไม่ต้องให้รอนาน
“คุณลลินแวะไปโรงพยาบาลศิริรัตน์ทุกวันหลังเลิกงานครับ เธอจะอยู่ที่นั่นประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก่อนกลับบ้าน บางวันนานกว่านั้น แต่ไม่เคยแวะที่อื่นเลยครับ”
โรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะกดดูภาพจากกล้องโทรศัพท์ที่แนบมาด้วย เป็นภาพของหญิงสาวในชุดทำงานเรียบง่าย กำลังเดินออกจากลิฟต์ของโรงพยาบาลพร้อมถือถุงผลไม้เล็ก ๆ หนึ่งใบในมือ
ภาพต่อไปคือภาพของเธอนั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้หญิงสูงวัยที่มีสายให้น้ำเกลื่อต่ออยู่ข้างเตียง ท่าทีของเธออ่อนโยนและเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
เธอไปเยี่ยมมารดาที่ป่วย เลขาคนสนิทรายงาน เอาจริงๆ เขาไม่รู้จักครอบครัวเธอเลย ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรืออยากยุ่งเกี่ยว
“...” กวินเงียบไปพักหนึ่ง นิ้วมือเลื่อนดูภาพช้า ๆ และหยุดลงตรงภาพที่ลลินยิ้มให้คนไข้คนนั้น
ยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นจากเธอเลย เพราะเธอไม่เคยยิ้มแบบนั้นให้เขา วินาทีนั้นเขารู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกที่คล้ายกับว่าอยากศึกษาและค้นหาตัวตนของเธอให้มากขึ้น
3
รุ่งเช้าของวันใหม่.. เธอทำงานอย่างแข็งขัน จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะโต๊ะเบา ๆ ดังขึ้น กวินยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ
ลลินเงยหน้าขึ้นทันที ก่อนจะรีบวางปากกาลง
“มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ” สรรพนามห่างเหินนั้นทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทวงติงอะไร
“วันนี้ตอนเย็น ไปทานข้าวด้วยกัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าเย็นชาราวกับกำลังออกคำสั่งประชุมมากกว่าชวนไปกินข้าว
หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับเงียบ ๆ
“ค่ะ” ไม่มีสีหน้าประหลาดใจ ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีคำถาม เธอเพียงตอบตกลงเรียบ ๆ แล้วก้มหน้ากลับไปทำงานต่อ คิดว่าเขาอาจจะมีเรื่องคุยกับเธอ เธอจึงไม่ถามอะไรให้มากความ
“คุณปู่ชวนคุณไปกินข้าวด้วย เพราะคิดถึงอยากเห็นหน้าคุณ”
“ค่ะ” เธอรับคำ รู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปหาคุณปู่ของเขาหลายวัน ทั้งที่รับปากเอาไว้แล้ว เพราะเธอยุ่งทั้งงาน ยุ่งทั้งต้องไปเยี่ยมมารดา
ท่าทางไม่ตื่นเต้น ไม่กระตือรือร้นใด ๆ ทั้งสิ้น เหมือนไม่รู้สึกอะไรกับการได้ไปกินข้าวกับเขาเลย ทำให้กวินรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย
เขาหรี่ตามองเธอเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
หลังเลิกงาน ลลินจัดการเก็บโต๊ะให้เรียบร้อยตามหน้าที่
เมื่อเธอลงมาถึงล็อบบี้ก็เห็นรถยนต์หรูสีดำจอดอยู่หน้าตึก พร้อมกับชายหนุ่มเจ้าของรถที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ
“เชิญ” เขาเอ่ยสั้น ๆ ก่อนจะเปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่งข้างเขา
หญิงสาวพยักหน้าน้อย ๆ แล้วก้าวขึ้นไปอย่างสุภาพ บรรยากาศในรถเงียบเชียบราวกับโลกถูกปิดเสียง
เขานั่งนิ่ง
เธอก็นั่งนิ่ง
แต่ไม่เหมือนกัน
กวินแอบเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ เธอไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่นิด ดวงตาของเธอเหม่อมอง
วิวด้านนอกหน้าต่างรถตลอดเวลา เงียบเสียจนเขารู้สึกขัดใจ
