บท
ตั้งค่า

2

หญิงสาวเดินผ่านโถงห้องรับแขกที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำด้วยท่าทีเงียบเชียบ ก่อนจะเดินเลี่ยงขึ้นบันไดโดยไม่ปริปากทักใครที่นั่งอยู่ในห้องด้านล่าง

แม้จะได้ยินเสียงหัวเราะของชลันธรกับแม่ของเธอชลธิชาดังลอดออกมา แต่เธอก็เลือกจะเดินผ่านไปเงียบ ๆ อย่างเคย

กลับถึงห้องนอนก็ถอนใจเฮือกใหญ่ ลลินถอดสูทแขวนไว้บนราว เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำชำระเหงื่อและความเหนื่อยล้าที่เกาะแน่นมาตลอดทั้งวัน

ไม่นานนัก เธอก็ออกมาด้วยชุดนอนผ้าฝ้ายสีอ่อน สะอาดตา และทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างหมดแรง

“โอ๊ย...เหนื่อยจะตายแล้ววันนี้” เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นเบา ๆ

หญิงสาวยกแขนขึ้นปิดหน้าผาก พลางกลอกตามองเพดาน

“เขาคิดว่าเราเป็นเครื่องถ่ายเอกสารหรือไง งานกองพะเนินเต็มโต๊ะ ส่งมาทีละแฟ้ม สองแฟ้ม แบบไม่ได้หยุดเลย!” เธอเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำชื่อเขาออกมาเสียงอู้อี้

2

“กวิน อัครเมธากุล...คุณจงใจแกล้งฉันแน่ ๆ!” เขาไม่แม้แต่จะพูดกับเธอตรง ๆ ทุกอย่างส่งผ่านเลขาคนสนิทอีกคนของเขา ซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน คงเข้าขากันดี เห็นเรียกใช้แต่นิติ เลขาดั้งเดิมของตัวเอง แม้กระทั่งคำสั่งว่าให้เลขานั่งด้านนอก อย่าเข้ามาในห้องถ้าไม่ได้รับอนุญาต ใครจะอยากเข้าไปเจอผู้ชายเย็นชาหน้าโหดแบบเขากัน หล่อแล้วไง ทำหน้าแบบนี้ขนาดหมาแมวเห็นเข้ายังหนีเลย

“เป็นประธานบริษัทแล้วจะพูดดี ๆ ไม่เป็นหรือไง คนบ้า เย็นชาชะมัด” เธอพลิกตัวนอนซุกหน้าลงกับหมอนอย่างอ่อนแรง ดีใจที่ได้สัมผัสเตียงนุ่ม ๆ ในห้องนอนของตัวเองเสียที

เธอนึกว่าเขาจะใจดีเหมือนปู่ ที่ไหนได้ ใจดำอำมหิตที่สุด หญิงสาวถอนหายใจยาว ก่อนจะพึมพำเบา ๆ

“เอาเถอะ...แค่รอให้คุณแม่หายดี ฉันก็จะไปจากที่นี่ ถอนหมั้นกับคุณให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!”

จริงๆ เธอมีทางออกอีกทางคือขอยืมเงินของคุณปู่กวินมารักษามารดา แต่โรคของมารดาเป็นโรคเรื้อรัง นอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานมากแล้ว เธอจึงรู้สึกเกรงใจท่าน ไม่กล้าเอ่ยปากขอหยิบยืมเงินทอง รู้สึกใบ้กินทุกครั้งที่คิดเรื่องนี้ แม้ท่านจะบอกว่ามีปัญหาอะไรให้ช่วยก็บอกได้ แต่เธอคิดว่าโรคของมารดาไม่ได้รักษากันวันสองวันแล้วหาย มันต้องรักษากันนานเป็นปี เธอจะรบกวนเงินท่านแบบนั้นมันก็จะเกินไปหน่อย แถมยังไม่ใช่คนในครอบครัวด้วย ซึ่งมารดาป่วยเป็นไข้ใจ ท่านอยากอยู่แต่โรงพยาบาลไม่อยากกลับบ้านมาเจอว่าบิดาพาเมียน้อยกับลูกอีกคนเข้ามา ท่านรักบิดามากคงเสียใจและรับไม่ได้ เธอเองก็เข้าใจมารดาเช่นกัน คนเราจิตใจไม่เหมือนกัน บางคนเข้มแข็ง บางคนอ่อนแอ เพราะถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำหัวใจแน่ ๆ ถ้าเขาไม่รักก็ปล่อยเขาไป จะยื้อเอาไว้ทำไม

เธอหลับตาลงทั้งอย่างนั้น หัวใจยังอัดแน่นด้วยความเหนื่อย ความอึดอัด และความอดทนที่เริ่มเบาบางลงทุกที

รุ่งเช้าของวันใหม่ ลลิลตื่นมาด้วยความสดชื่น การนอนหลับเหมือนได้ชาร์จพลังงานอีกครั้ง เธอไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับบิดาและครอบครัวใหม่ของท่าน อาจเพราะรู้สึกรังเกียจจนไม่อยากร่วมโต๊ะด้วย และอีกอย่างก็คือไม่มีใครสนใจอยากถามไถ่หรือเรียกให้เธอร่วมโต๊ะด้วย

มาถึงที่ทำงานก็ต้องถอนใจเบา ๆ ก่อนจะเรียกกำลังใจให้ตัวเอง เริ่มทำงานอย่างแข็งขัน แม้งานจะเยอะมาจนล้นโต๊ะ แต่ก็ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับใคร เธอส่งงานผ่านเลขาของกวินที่ชื่อนิติ นั่นทำให้เธอสบายใจไปได้มาก

เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเบา ๆ อย่างต่อเนื่องในบรรยากาศเงียบสงบภายนอกห้องทำงานประธานบริษัท หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเสียงนั้นนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่ปริปากบ่น

กวินยืนมองเธอผ่านกระจกใสที่คั่นระหว่างห้องของเขากับโซนนั่งทำงานด้านนอก ดวงตาคมกริบจ้องไปยังร่างระหงในชุดสูทสีสุภาพอย่างพินิจ

เขาไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่ก็เผลอมองโดยไม่รู้ตัว

ลลินยังคงนั่งอยู่ตำแหน่งเดิม โต๊ะด้านนอกซึ่งเขาสั่งให้จัดไว้ให้เธอ

เธอไม่เคยแอบเข้ามาในห้องเขา ไม่เคยมาเซ้าซี้ ไม่เคยมายืนรอคำสั่งหน้าประตู

ตรงกันข้าม…เธอทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างเรียบร้อย ไม่มีตกหล่นแม้แต่นิด

ชายหนุ่มเลื่อนสายตาลงมองเอกสารในมือที่เพิ่งได้รับมาเมื่อเช้านี้ เป็นสรุปรายงานการประชุมพร้อมตารางนัดหมายแบบละเอียดครบถ้วน

เขาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือฝีมือของผู้หญิงที่ถูกลือว่า เที่ยวกลางคืน ติดผู้ชาย สำส่อน และผลาญเงินพ่อแม่

มันช่าง…สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

เมื่อวานเขาเห็นชายหนุ่มจากฝ่ายการตลาดคนหนึ่งแอบเข้ามาคุยกับเธอตอนพักกลางวัน เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเหลือบมองออกไปตอนนั้นพอดีแต่เขาก็เห็น

เห็นเธอยิ้มสุภาพ ตอบกลับด้วยท่าทีห่างเหิน และกลับมานั่งกินข้าวกล่องของตัวเองตามลำพังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นไม่ใช่ท่าทีของผู้หญิงที่อยากได้ผู้ชาย

“แปลก...” เขาพึมพำเบา ๆ พลางเอนหลังพิงเก้าอี้ ดวงตายังจ้องมองผ่านกระจกบานใสไปยังหญิงสาวที่ก้มหน้าทำงานอย่างตั้งใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel