ตอนที่ 7 ปล้ำหน่อยสิ
ภายนอกบ้านเมื่อไฟดับลง ภาคภูมิยืนมองอยู่ในมุมมืดกำมือแน่นแววตาแข็งกร้าว และไม่รู้ว่าข้างหลังเขามีวิบูลยืนมองอาการภาคภูมิอยู่นานแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น
ทัชชกรตื่นขึ้นนอนหงายนิ่งรู้สึกหนักหน้าอก ก้มมองตัวเองถูกหญิงสาวนอนกอดหน้าซบอกเอาขาเรียวก่ายทับขาเขาไว้
“เหมย ลุก” เขาส่งเสียงให้เธอรู้สึกตัว
“อือ” แขนเรียวกระชับกอดนอน เขาถอนหายใจยกแขนเรียวขึ้นดันหัวเธออกจากหน้าอก หญิงสาวสะลืมสะลือตื่นมามองกระพริบตาถี่ เห็นตัวเองนอนกอดคู่หมั้นอยู่
“เฮ้ย เฮียเมื่อคืนทำอะไรเหมยหรือเปล่า” เธอดีดตัวลุกขึ้นนั่งยกผ้าห่มมาปิดหน้าอก
“โอ้โห กล้าถาม เฮียต้องเป็นคนถามมากกว่าไหม” หน้าคมมองเคือง ๆ บ่นอุบ
“อ้าวเหรอ แล้วทำไมไม่ทำล่ะ ผิดหวังจัง” หน้าสวยกรุ้มกริ่ม โผเข้าไปกอดแขนแกร่ง
“ไม่ชอบไม้กระดาน” เขาทำหน้ากวน ๆ
“หือ ไม่แบนนะลองดูก่อนนี่ใหญ่นะเฮีย ปล้ำหน่อยสิ ปล้ำหน่อยนะๆๆๆ ปล้ำหน่อย” เธอเอาหน้าอกกระแซะเบียดแขนแกร่งลอยหน้าพูดแหย่เขา ชายหนุ่มอมยิ้มแกล้งเบี่ยงตัวสะบัดแขนหนี
“อุ้ย ขอโทษครับ” วิบูลเข้ามาในบ้านเห็นเข้าก็รีบหันหลังแล้วเดินออกไปนอกบ้าน ทั้งสองหยุดชะงัก
“ไปอาบน้ำได้แล้วมัวแต่เล่น”
“จ้า ว่าแต่ไม่ปล้ำจริงเหรอ” ร่างบางลุกขึ้น แกล้งแวะทำหน้ายั่วแหย่เขา
“เดี่ยวเถอะ ไปได้แล้ว” หน้าคมทำเป็นดุ ทำมือจะตีหญิงสาวรีบวิ่งลงจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำ เขาส่ายหน้าปวดหัวกับยายตัวแสบ
หลังจากวันนั้นทัชชกรต้องกลับกรุงเทพเพื่อประชุมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ งานเขาเยอะจนไม่ได้ไปดูงานวิจัยอีกเลย ผ่านไปสองเดือน
ณ ที่ทำงาน
ทัชชกรออกจากห้องประชุม ผ่านแผนกต่าง ๆ ที่นั่งทำงานอยู่วิบูลเดินตามหลังแล้วเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเพื่อรายงานความคืบหน้า
“คุณเหมยเดินทางกลับถึงบ้านแล้วนะครับ”
“ขอบใจมาก” ทัชชกรนิ่งขรึมมีมาดให้พนักงานเกรง ร่างแกร่งเดินมาสักพักเห็นเอมิกาวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา แขนเรียวยกขึ้นโอบกอดทัชชกรไว้แน่นซบหน้าแนบอกแกร่งโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“เฮียกร คิดถึงจัง”
“ปล่อยก่อน เสียการปกครองหมด” เขาเสียงขรึมทำหน้านิ่ง ๆ เหล่มองพนักงานที่แอบดู แล้วดึงตัวเธอออก มือหนาจับมือคู่หมั้นให้เดินไปด้วยกัน หญิงสาวอมยิ้มมองมือเขาที่จับมือเธออย่างมีความสุข
แต่เมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานแพทนั่งอยู่ที่โซฟา เขาก็ปล่อยมือ เอมิกา แล้วเดินไปโอบกอดกับแพทที่ลุกยืนยิ้มสวยให้กับเขา
“คิดถึงคุณนะคะ ไม่เจอกันหลายอาทิตย์เลย” แพทยิ้มกว้างส่งสายตาหวาน เธอต้องไปเดินแบบต่างประเทศหลายวันพอกลับมาก็รีบมาหาเขา
“ผมก็คิดถึงคุณ” ชายหนุ่มมองหวานเยิ้มกอดกันแน่นอีกครั้ง เอมิกายืนหน้าสลดแววตาหมองเศร้า เป็นแบบนี้มาหลายปีใจดวงน้อยก็ยังไม่ชินที่ต้องเห็นทุกที เอมิกาหันหลังจะเดินออกจากห้อง วิบูลเปิดประตูเข้ามาพอดี
“คุณเหมยจะไปไหนครับ”
“กลับแล้วค่ะ แค่แวะมาหาเฮียเฉย ๆ” หน้าสวยยิ้มแย้มแต่แววตาสั่นระริก วิบูลเหลือบมองเจ้านายกอดกับแพทแล้วเบี่ยงตัวถอยให้เอมิกาเดินออกไป มองตามหลังเธออย่างเห็นใจ
“เหมยล่ะ” ทัชชกรหันมามองด้านหลัง ไม่เห็นคู่หมั้น
“กลับแล้วครับ” วิบูลตอบ ทัชชกรพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับแพทต่อ
ช่วงค่ำ ณ บ้านหรู
ทัชชกรกำลังนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน แล้วก็มีเสียงวิดีโอคอลเรียกเข้า
“เฮ้ยมาปาร์ตี้ที่ร้านกูกัน” เสกสรรโทรมาชวน
“คืนนี้มีงานเยอะไว้คราวหน้าแล้วกัน” ชายหนุ่มบอกปัด ก้มหน้าทำงาน
“เออแล้วแต่ เดี่ยวพวกกูดูแลคู่หมั้นให้เอง”
“อะไรของมึง”
“นี่ไง ใช่เหมยคู่หมั้นมึงหรือเปล่าล่ะ หรือกูจำผิด ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสกสรรหันกล้องไปถ่ายกลุ่มผู้หญิงที่กำลังเต้นสนุกสนานอยู่โต๊ะตรงข้ามเอมิกาใส่ชุดแซกสายเดี่ยวกระโปรงสั้นยืนเต้นอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
“ดูไว้ให้ด้วย เดี่ยวกูไป” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เขาร้อนใจรีบเก็บเอกสารลุกขึ้นแต่งตัวทันที เขาห่วงว่าตอนเมาคู่หมั้นชอบทำอะไรรั่ว ๆ กลัวจะโดนใครลากเธอไปทำอะไรไม่ดี.....
เพื่อน ๆ ของทัชชกร นั่งกินดื่มคลอเคลียผู้หญิงแต่คอยมองเอมิกาอยู่ตลอด พอมีผู้ชายเข้ามาใกล้จะให้เด็กเสิร์ฟคอยขวาง
ด้านทัชชกรเดินขรึมเข้ามาในผับ กวาดสายตาหาคู่มหมั้นเขาเห็นเพื่อนที่นั่งโต๊ะประจำส่งซิกให้ว่าคู่หมั้นอยู่ตรงไหน กายแกร่งเดินดุ่ม เข้าไปประกบรวบเอวร่างบางที่เต้นพลิ้วไหวยั่วยวน เอมิกาตกใจสะบัดออกหันไปมองเคือง
“เฮียกร” เอมิกาหน้าเสีย
“หนีเที่ยว ดื่มเหล้า เต้นแรด ๆ” สายตาคมมองสำรวจคู่หมั้นแต่งหน้าแต่งตัวสวยหัวจรดเท้า ทำให้เขาไม่พอใจเขาไม่ได้มาด้วยทำไมต้องแต่งสวยเกินไป
“อยู่กับเพื่อน ก็ต้องมีบ้าง” เอมิกาเสียงอ่อนไม่กล้าสบตา เขาถอนหายใจแรงมองเธออย่างหงุดหงิดอีกครั้งแล้วเดินไปหาเพื่อน ๆ ที่โต๊ะ หญิงสาวหน้าสลด
“ไปคุยกับคุณทัชก่อนไหมแก” เพื่อนสาวอึกอัก เครียดไปตาม ๆ กัน
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่ลากกลับแสดงว่ายังไม่ค่อยโกรธ” เอมิกาคุยกับเพื่อนแล้วหันไปมองทัชชกรนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขา มีสาวเอนเตอร์เทน เดินเข้ามาคอยดูแล
“แบบนี้ก็ได้เหรอ”
“อืม สนุกกันต่อเถอะ” เธอยิ้มให้เพื่อนแต่สายตาไม่ยิ้ม ชนแก้วเหล้าเต้นสนุกสนานกันต่อ หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเอมิกาเดินไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อน ระหว่างที่กำลังเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเอมิกาได้ยินเสียงผู้หญิงที่รอคิวจะเข้าห้องน้ำคุยกัน
“วันนี้ฉันไปกับคุณทัช” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
“ไม่เอา ฉันรอคิวไปกับเขานานแล้ว” หญิงสาวอีกคนก็พูดขึ้นเสียงงอแง
“รอไปก่อน แกก็เห็นว่าเขาสนใจฉันมากกว่า”
“แน่ใจเหรอฉันเห็นเขานั่งมองแต่คู่หมั้น”
“เขาไม่สนใจคู่หมั้นหรอกย่ะ เขาโดนบังคับให้หมั้นกัน”
“แต่ว่าฉันเห็นเขามองแต่คู่หมั้นจริง ๆ นะ” หญิงสาวอีกคนพูดเสริม
“เชื่อฉันสิ ครั้งที่แล้วไปทะเลด้วยกันมีคู่หมั้นไปด้วยคุณทัชยังมาแซ่บกับฉันอยู่เลย” หญิงสาวอีกคนพูดต่อ
“จริงเหรอแก อิจฉาอ่ะ”
เอมิกาเงี่ยหูฟังอยู่ก็ของขึ้น เปิดประตูห้องน้ำออกดัง ”ปัง” มองเคืองผู้หญิงด้านนอก คือณิสากับผู้หญิงอีกสองคนกำลังรอเข้าห้องน้ำ
“อ้าว คุณเหมย” ณิสายิ้มเย้ย ๆ เอมิกามองเหวี่ยงสะบัดหน้าใส่เดินออกไป
“นึกว่ารวยจะเหยียดใครก็ได้งั้นเหรอ ชิ” ณิสาเบ๊ะปากมองร้าย
เอมิกาเดินมาสนุกกับเพื่อน ๆ ดื่มต่ออีกเยอะเหลือบไปมองทัชชกรที่มีสองสาวคอยนั่งบริการเต้นนิด ๆ แซะตัวเขา เอมิกาบอกเพื่อน ๆ ว่าจะกลับ มือเรียวคว้ากระเป๋าใบจิ๋วเดินมาที่โต๊ะของเพื่อนทัชชกร แทรกตัวผ่านกลุ่มเพื่อนเขาเข้าไปหาคู่หมั้น ทัชชกรเงยหน้ามองบึ้งตึง ร่างบางนั่งแหมะบนตักแกร่งแขนเรียวโอบรัดลำคอ สองสาวที่นั่งเกาะแขนเขาซ้ายขวามองเคือง ๆ โดยเฉพาะณิสา
“เหมยเมาพากลับหน่อย” หน้าสวยซบไหล่เสียงอ้อน
“มาเองได้ก็กลับเองสิ” เขาหน้าขรึมพูดนิ่ง ๆ เหมือนไม่สนใจ แต่เอาแขนคล้องเอวบางไว้
“ก็ได้ เรียกรถกลับเองก็ได้” หญิงสาวผละตัวออกนั่งอยู่บนตักเขา กดเลื่อนโทรศัพท์เรียกรถ พอได้รถเห็นคนขับก็แกล้งพูดบ่น
“แก่ไปไม่เอา เรียกใหม่” นิ้วเรียวกดยกเลิก กดเรียกใหม่จนได้คนขับที่ถูกใจ ชายหนุ่มแอบเหล่มองหน้าจอโทรศัพท์
“หนุ่มดีหน้าตาใช้ได้” หน้าสวยยิ้ม ๆ พอใจ นิ้วแกร่งกดปุ่มแดงยกเลิกการเรียก รู้ว่าเธอแกล้งกวนประสาทเขา
“ห่วงเหรอ” สายตาสวยหรี่ตามองกระเซ้าเย้าแหย่
“เปล่า ไม่อยากมีคู่หมั้นที่มีผัวเป็นคนขับรถแท็กซี่” เขาทำหน้าบึ้งตึงสวนกลับยกแก้วน้ำดื่มทำเป็นไม่สนใจ หญิงสาวอมยิ้มซบหน้าสวยลงอกแกร่ง ยักคิ้ว หงึก หงึก ยิ้มเยาะณิสาที่มองตาแทบถลน ณิสาอยากให้ทัชชกรกลับด้วยแต่เสียใจนะฉันไม่ยอมเอมิกามีความสุขที่เอาชนะได้ สักพักคู่หมั้นก็พากันลุกขึ้นมือหนาโอบเอวบางที่เดินเซประคองเธอออกจากร้าน
