ตอนที่ 4 เฮียเหมยคัน
ช่วงหัวค่ำ
ริมสระว่ายน้ำรีสอร์ทปาร์ตี้ของกลุ่มเพื่อนทัชชกรและแขกบางคนที่เข้ามาร่วมสนุกด้วย หนุ่มสาวกินดื่มสังสรรค์กันสนุกสนาน บางคนลงไปว่ายน้ำนัวเนียกันในสระ บางคนเต้นเสียดสียั่วกันไปมา เอมิกาเดินเข้ามาเห็นบรรยากาศเดิม ๆ ที่ไม่ชอบแค่ออกมาหาของกินแล้วกลับไปพัก ร่างบางใส่ชุดผ้ามันพลิ้วผูกคอโชว์หลังขาวเนียนเดินเฉิดฉายเข้ามาสวยดูดีดูแพง หนุ่ม ๆ หลายคนมองร่างระหงเดินมาตรงบุฟเฟต์ เอมิกายืนตักอาหารเธอควานดูให้แน่ใจว่าในอาหารไม่มีของกินที่แพ้ ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินถือแก้วไวน์มาสองแก้วส่งให้เอมิกาหนึ่งแก้ว
“มาร่วมสนุกกันไหมครับ” ชายแปลกหน้าที่ไม่ใช่เพื่อนของทัชชกรยิ้มให้สุภาพแต่สายตาเจ้าเล่ห์ หญิงสาวยิ้มตามมารยาท
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” มือบางถือจานอาหารรีบเดินเลี่ยงไปทางอื่น เธอหาที่นั่งในกลุ่มเพื่อนทัชชกร นั่งทานอาหารดูบรรยากาศรอบ ๆ ทุกคนกำลังสนุกกับการปาร์ตี้
“ไปสนุกด้วยกันสิคะ” เสียงหวานลอยมา ผู้หญิงใส่บิกินี่หุ่นดีผิวขาวหน้าสวยเซ็กซี่ เดินยิ้มมานั่งลงข้าง ๆ จากรูปลักษณ์ที่เห็นเอมิการู้ทันทีว่าเธอคือสาวเอนเตอร์เทนที่จ้างมาและน่าจะเป็นเด็กของทัชชกร
“ไม่เป็นไรค่ะ เหมยไม่ค่อยถนัดเต้น” เอมิกายิ้มเล็กน้อยทานอาหารต่อไม่สนใจ
“ก็ไม่แซ่บแบบนี้ไม่น่าคุณทัชถึงไปหาคนอื่น” ณิสาพูดทำท่าขำ ๆ
“คุณอยากพูดอะไรคะ” เอมิกาถามอย่างรู้ทัน ณิสาไม่ใช่คนแรกที่ทำท่าทางและพูดแบบนี้กับเธอ
“คุณเหมยไม่รู้เหรอคะ ว่าคู่หมั้นตัวเองชอบผู้หญิงเซ็กซี่ร้อนแรง ถ้าคุณยังทำตัวแบบเดิมคุณทัชเขาจะไปหาความสุขที่อื่น อย่างเมื่อตอนเย็นคุณก็รั้งเขาไว้ไม่ได้ต้องมาหาความสุขจากฉัน” ณิสามองเย้ยต้องการบอกให้เอมิการู้ว่าเมื่อเย็นเธอแซ่บกับคู่หมั้นของเอมิกา
“ก็แน่สิคะ เขาจ้างคุณมาปรนเปรอก็ต้องใช้งานให้คุ้มเงินที่จ่ายไป แต่เรื่องเมื่อเย็นคุณคงเข้าใจผิดไม่ใช่เขาไม่อยากได้แต่ฉันไม่ให้เขาต่างหากเล่นตัวบ้างจะได้ดูมีค่านะคะ ไม่ใช่ง่ายแล้วราคาถูก ถ้าไม่เชื่อไปถามเขาดูนะคะ”เอมิกาเชิดหน้าเย้ยหยันแอบเหน็บอย่างเหนือกว่า ณิสาโมโหหายใจแรงจ้องหน้าเอมิกาที่จ้องกลับไม่มีใครยอมใคร เสกสรรเดินผ่านมาเห็นสองสาวจ้องกันหน้าเครียดกลัวตีกัน
“สาว ๆ คุยอะไรกันอยู่จ๊ะ หน้าเครียดเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่เสก” เอมิกายิ้มแย้ม หันไปมองณิสาหัวจรดเท้าแล้วลุกขึ้นเดินเชิด ณิสามองตามหงุดหงิดไม่พอใจ
เอมิกาเดินเลียบริมสระน้ำที่มีผู้ชายและผู้หญิงเล่นโยนบอลบ้างก็กอดรัดกันอยู่ในสระ เสียงวี้ดวิ้วดังขึ้นเมื่อเธอเดินผ่าน หญิงสาวปรายตามองชายหนุ่มที่สนใจเธอ แต่เธอทำไม่สนใจเดินเฉิดฉายไปเรื่อย ๆ ผ่านทัชชกรที่เล่นอยู่ในสระน้ำกับสาว ๆ เอมิกาเหลือบไปมองเขาที่มองมา เธอสะบัดหน้าหนีเดินต่อไปหัวสระเป็นจุดชมวิวทะเล หญิงสาวนั่งลงตรงขอบโขดหินหลับตาฟังเสียงคลื่นลม มือเรียวหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปตัวเองเบี่ยงตัวหันกล้องถ่ายทะเลมืดสนิท
โพสต์แคปชั่น “ว่าพักผ่อนฟังเสียงคลื่น” เอมิกานั่งหลับตาฟังเสียงคลื่นลมทะเลอย่างสบายใจ “ตึ่ง ตึง ตึ่ง ตึง ตึ๋ง” เสียงวิดีโอคอลดังขึ้น หญิงสาวลืมตาขึ้นหยิบโทรศัพท์มาดูขึ้นชื่อภูมิ หน้าสวยอมยิ้มกดรับสายน้ำเสียงสดใส
“ค่ะพี่ภูมิ” เอมิกายิ้มแย้มเมื่อเห็นหน้าภาคภูมิในโทรศัพท์
“อารมณ์ไหนนั่งฟังเสียงทะเล” ภาคภูมิเอ่ยถามอย่างรู้ใจ ถ้าเธอรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เศร้าเสียใจหรือหงุดหงิดอะไรมักจะนั่งเล่นหลับตาฟังเสียงลมเสียงสัตว์เสียงธรรมชาติรอบตัวเพื่อผ่อนคลาย
“อารมณ์อยากทำใจให้สงบมั้งคะ”
“ถ้าอารมณ์ไม่ดี พี่เล่นกีต้าร์ให้ฟังไหม” เขาอยากทำให้เธอสบายใจ
“ดีค่ะ” หน้าสวยยิ้มแก้มปริ ภาคภูมิหยิบกีต้าร์มาเล่นร้องเพลงคลอให้ฟัง ทั้งสองส่งยิ้มมีความสุข หน้าสวยเอียงคอไปมาตามเสียงเพลงร้องเพลงคลอตามเขา
“น่าสนุกนะ” เสียงทัชชกรดังขึ้นด้านหลัง เอมิกาสะดุ้งรีบหันไปด้านหลัง
“เฮียกร”
“เล่นดนตรีเก่งดีนะครับ แต่คงต้องเล่นคนเดียวแล้วล่ะ ผมขอตัวพาคู่หมั้นไปสนุกก่อน” ทัชชกรยื่นหน้าเข้าใกล้หญิงสาวมองหน้าจอแล้วยิ้มร้าย นิ้วแกร่งกดตัดสายวิดีโอคอลทันที
“มาตัดสายของเหมยทำไม ไม่มีมารยาท!” หญิงสาวฉุนมองเคืองเสียงดังใส่
“ใครกันแน่ไม่มีมารยาท คนที่แอบคุยกับคู่หมั้นคนอื่น หรือคนที่มีคู่หมั้นอยู่แต่หน้าระรื่นคุยกับผู้ชายคนอื่น” ทัชชกรเสียงดังกลับไม่ยอมจ้องตากันเขม็ง เพื่อน ๆ ที่ปาร์ตี้อยู่ได้ยินเสียงทยอยเดินมาดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง
“อย่ามาว่าเหมยนะ ทีเฮียไประรื่นกับคนอื่นเหมยยังไม่เคยว่า” หญิงสาวหายใจแรงโกรธจัด
“กล้าพูดแบบนี้กับเฮีย เพราะไอ้ภาคภูมิใช่ไหม เฮียจะไล่มันออกจากทีมวิจัย เหมยจะได้ไม่ต้องเจอมันอีก!”
“เฮียเอาแต่ใจ ไม่เคยสนใจความรู้สึกเหมยเลย” สายตาหวานสั่นระริกมองตัดพ้อ ทัชชกรหน้าตาขึงขังตะคอกเสียงดัง
“สนใจความรู้สึกเหมยคือต้องให้มันทำงานด้วยจะได้พลอดรักกันสะดวก ๆ เหรอ ที่ไปต่างจังหวัดหลาย ๆ เดือนไม่ได้อยากไปทำงานวิจัยหรอกอยากไปเอากับมันมากกว่า”
“เฮีย” เสียงหวานสั่นเครือหน้าหวานแดงก่ำแววตาสั่นระริกน้ำตาคลอเสียใจไม่คิดว่าเขาจะดูถูกเธอ หยดน้ำตาหล่นแก้มใส ทัชชกรชะงักสายตาแข็งกร้าวอ่อนลงรู้สึกผิด มือหนายื่นจะเช็ดน้ำตาบนแก้มเนียนแต่เธอเบี่ยงหน้าหนีถอยหลังห่างจากเขา
“ก็เหมยเถียงเฮียเพราะมัน” เขาทำเสียงเข้มกลบเกลื่อนทั้งที่ในใจอยากขอโทษ แต่ปากหนักยังหงุดหงิดที่เธอเถียงเขาทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน
“เหมยเถียงเพื่อตัวเองต่างหาก สิบห้าปีที่ผ่านมาเหมยเงียบให้เฮียทิ้งขว้างไม่แคร์ไม่สนใจเหมือนเป็นตัวอะไรมานาน เพราะเหมยไม่เคยพูดเฮียเลยเอาแต่ใจอย่างนี้ ต่อไปนี้เหมยจะไม่ยอมเฮียอีก ถ้าไม่พอใจก็ถอนหมั้นไปเลย เหมยเหนื่อย” เสียงหวานสั่นเครือพลั่งพรูความเสียใจที่เก็บไว้มานานมือบางปาดน้ำตา เดินผ่านร่างแกร่งไม่มองหน้าเขาสักนิด
“เหมย เหมย เหมย” ทัชชกรหน้าเครียดมองร่างบางเดินไปเขาลังเลไม่ยอมเดินตามกลัวเสียเชิง ทั้งที่อยากจะตามไปง้อมากแค่ไหนก็ตาม เพื่อน ๆ ในงานเลี้ยงเป็นห่วงทั้งคู่แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง เอมิกาเดินน้ำตาไหลมาทางริมสระว่ายน้ำจะเดินออกไปที่ห้องพัก
“โถ นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็เป็นของเล่นราคาถูกที่เขาไม่สนใจ” ณิสาเย้ยหยันกอดอกมองเหยียด สะบัดหน้าเดินไปหาทัชชกร เอมิกาก้มหน้านิ่งกำมือแน่น
ตกดึก
ทัชชกรนั่งหน้าเครียดไม่สนุกกับเพื่อน ณิสานั่งเอาใจ เขาดื่มหนักจนเมามายพนักงานต้องช่วยกันพาไปส่งที่ห้อง ณิสาถอดชุดบิกินี่ออกเข้าไปคลอเคลียลูบไล้จูบพรมกายแกร่งสร้างความสยิวให้เขา ร่างแกร่งพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางซุกไซร้ซอกคออย่างเร้าร้อน ณิสานอนอ่อนระทวยชอบที่เขาแสดงออกดิบเถื่อน แต่ความสุขมีได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะร่างแกร่งหยุดชะงักผละออกไปดูโทรศัพท์ว่าใครโทรมา พอเห็นชื่อเหมยเขารีบกดรับส่ายหน้ามึน ๆ
“เฮียกร เหมยคัน” เอมิกาเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้
“คันเยอะไหม” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ณิสาอ้าปากหวอที่เอมิกากล้าโทรมาบอกผู้ชายว่าคัน
“เยอะ”
“เดี่ยวเฮียไป” เขาวางสายลุกขึ้นเดินเซ เป๋ไปเป๋มา
“ตอนนี้คุณเมามากเดี่ยวก็ล้มหรอกคะ” ณิสาร้องห้าม หงุดหงิดกำลังเข้าได้เข้าเข็มดันโดนคู่หมั้นโทรมาขัดจังหวะ
“ผมไหว ผมจะไปหาเหมย” เขาพยายามทรงตัวเดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูห้อง
