บทที่ 6 ไอ้หน้านิ่ง
" ได้ข่าวว่าหนูเป็นเพื่อนของเมียตาเทวินเหรอลูก ? " อาจเอ่ยถามย้ำกับว่าที่ลูกสะใภ้เพื่ออยากให้ตัวเองมั่นใจว่าหวานกับลูกชายของเขานั้นรู้จักกันมาก่อน
" ค่ะคุณอา "
" จริงเหรอเนี่ย งั้นหมอธันก็รู้จักยัยหวานมาก่อนแล้วสิ ? " ชิตถาม
" ครับ "
" นาดีใจนะคะที่ลูกทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนแล้ว "
" นั่นสิคะคุณนา ยัยหวานกับหมอธันจะได้เข้ากันได้ง่ายขึ้นเมื่อหมั้นกันไปแล้ว "
" ไม่มีทาง ! " หวานพึมพำเบา ๆ อย่างไม่เห็นด้วย ธันที่ได้ยินถึงกับตวัดสายตาดุมองเธอที่นั่งหน้ามุ้ยอยู่ ข้าง ๆ ทันทีก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบกับเธอพอให้ได้ยินกันสองคนด้วยคำพูดร้ายกาจ
" หมั้นกับฉันแล้วเตรียมตัวเป็นนางบำเรอฉันได้เลย "
" ไอ้หน้านิ่ง ! " เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอจึงโวยวายขึ้นเสียงดังทันทีอย่างนึกโมโหพร้อมกับตวัดสายตาไม่พอใจมองธันอย่างเอาเรื่อง เธอไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะ ธันที่เห็นอย่างนั้นจึงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ
" ไปว่าให้พี่เขาอย่างนั้นทำไมลูก ? " พิมพ์เอ่ยถามลูกสาวเสียงดุทันทีเมื่อเธอกำลังเสียมารยาท หวานที่ได้ยินอย่างนั้นจึงหันมายิ้มแห้งให้ผู้ใหญ่ที่มองมา
" ขอโทษค่ะที่เสียมารยาทหวานไม่ได้ตั้งใจ "
" ไม่เป็นไรจ้ะ หนูหวานน้าเข้าใจ "
" ขอบคุณค่ะ " หวานเอ่ยขอบคุณพร้อมกับนั่งเงียบทันทีแต่ภายในใจเธออยากจะกระชากไอ้ปากหมามาตบซะให้สาแก่ใจ
" ขอโทษแทนลูกสาวด้วย "
" ไม่เป็นไรเลยไอ้ชิต คนกันเองจะไปคิดมากทำไมวะ "
" เออ ขอบใจ "
" แล้วหมอธันล่ะงานที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้าง ? " ชิตเอ่ยถามว่าที่ลูกเขยในประโยคต่อมา
" ก็ดีครับคุณอา " ธันเงยหน้าตอบผู้ใหญ่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบแค่นั้น ชิตจึงพยักหน้าตอบรับเข้าใจ
" เรื่องแต่งงาน กูว่าให้เด็กทั้งสองหมั้นกันก่อนไหมไอ้อาจ ? " จากนั้นซิตจึงเข้าประเด็นเรื่องแต่งงานแต่เขาอยากให้ลูกสาวเขานั้นหมั้นกันไว้ก่อนเพื่อศึกษาดูใจกัน ที่จริงเขาเองก็เห็นใจลูกสาวแต่ต้องทำตามสัญญาที่ให้กับอาจเพื่อนรักไว้
" อือ ก็ดีให้ทั้งคู่หมั้นกันไปก่อนแล้วกันจะได้คู่ศึกษาดูใจให้คุ้ยเคยจริง ๆ ค่อยแต่งงาน ว่าไงตาธัน ? " อาจเห็นด้วยกับเพื่อนรักก่อนจะหันมาเอ่ยถามลูกชาย ธันเงยหน้าตอบตกลงอย่างขอไปที
" ครับ "
" แกล่ะยัยหวาน ? "
" หวานเลือกอะไรได้ไหมล่ะคะ !! " คำตอบของเธอทำให้ชิตถึงกับอารมณ์เสียทันทีกับคำตอบไร้มารยาทของลูกสาวจึงหันหน้าไปยิ้มแห้งให้อาจพร้อมกับแก้ต่างให้ลูกสาวตัวดี
" ยัยหวานหมายถึงตกลงนั้นแหละ " อาจพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ชิตจึงถลึงตาใส่ลูกสาวเป็นเชิงดุ
" นาเตรียมฤกษ์หมั้นกับฤกษ์แต่งงานไว้พร้อมแล้วนะคะ แต่ถ้าเลื่อนงานแต่งงานไปก่อนคงต้องปีหน้าแล้วค่ะ ส่วนงานหมั้นก็เหมือนเดิม"
" ตามนั้นค่ะแล้วเมื่อไหร่คะคุณนา ? " พิมพ์ถาม
" อีสองอาทิตย์ค่ะ "
" อะไรนะคะอีกสองอาทิตย์ !!! " หวานโพล่งขึ้นอย่างตกใจก่อนจะปล่อยช้อนที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากเป็นต้องร่วงลงทันที ต่างจากธันที่เอาแต่นั่งเงียบโดยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาแต่เขากลับตักอาหารเข้าปากอย่างสบายใจ
เพล้งงง !
" ยัยหวานอย่าเสียมารยาท !! " ชิตปรามลูกสาวเสียงดุอีกครั้ง หวานจึงก้มหน้าลงอย่างรู้สึกเสียใจที่ทำตามความต้องการของตัวเองไม่ได้แถมยังได้หมั้นกับไอ้หน้านิ่งเร็วขึ้นอีก เธอจึงตวัดสายตาโมโหมองธันที่ทานข้าวได้หน้าตาเฉยราวกับไม่สะทกสะท้านอะไรกับการคุมถุงชนครั้งนี้เธอนั้นอยากจะตบกระบาลเขาสักทีสองทีหมั่นไส้ เมื่ออีกคนรู้สึกว่าถูกมองจึงตวัดสายตาดุดันมองเธออย่างไม่สบอารมณ์ทำให้หวานเบี่ยงหน้าหนีทันที
" ถ้าไม่เป็นสองอาทิตย์ข้างหน้าก็ปีหน้าเลยนะคะนาว่ามันนานไปกับการหมั้น "
" เอาตามที่คุณนาบอกเลยครับ "
" ค่ะ "
หลายชั่วโมงต่อมา
" แกนี่มันจริง ๆ เลยนะยัยหวานทำให้พ่อแม่อับอายแค่ให้หมั้นกันไว้ก่อนก็ดีแค่ไหนแล้วยังไม่ให้แต่งงานยังจะเรื่องมากอีก ! "ระหว่างรถยนต์หรูขับเคลื่อนออกมาจากคฤหาสน์ นฤเบศร์ ชิตจึงต่อว่าให้ลูกสาวยกใหญ่
" แต่งงานกับหมั้นมันต่างกันตรงไหนยังไงหวานก็ได้ไปอยู่บ้านเขาอยู่ดี ! "
" ยังจะมาเถียงอีก ! "
" ก็มันจริงหนิคะ ทำไมคุณพ่อต้องบังคับหวาน ? ! " หวานเชิดหน้าเถียงผู้เป็นพ่ออย่างไม่ยอมแพ้
" ฉันหาคนที่เหมาะสมและคนที่สามารถปกป้องแกได้เพราะฉันหวังดีกับแกยังจะเรื่องมากอีก ! "
" ใจเย็น ๆ กันก่อนคุณ ยัยหวาน " พิมพ์ปรามสามี และ ลูกสาวเมื่อทั้งสองคนต่างอารมณ์ร้อนเหมือนกัน
" ดูลูกคุณสิเถียงคำไม่ตกฟาก ! "
" คุณพ่อนั่นแหละไม่ยอมฟังหวาน หวานไม่ชอบไอ้หน้านิ่งนั่น ! "
" ว่าให้พี่เขาอย่างนั้นทำไมลูก เขาอายุเยอะกว่าหนูนะ "
" เป็นยังไงล่ะพิมพ์ลูกสาวคุณ ปากร้ายแค่ไหน "
" คุณเองก็พอได้แล้วค่ะ ไม่อายลุงอ่ำกันหรือไง ! " พิมพ์ปรามสามีอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดุก่อนจะเบี่ยงหน้าไปทางลุงขับรถ ลุงอ่ำเพียงแค่ยิ้มอย่างเกรงใจเท่านั้น จากนั้นทั้งสามีและลูกสาวของเธอก็เงียบไปจนมาถึงบ้านหวานเปิดประตูรถแล้วเดินขึ้นห้องไปทันทีอย่างน้อยใจและโกรธผู้เป็นพ่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ขณะที่หวานเธอกำลังร้องไห้เสียใจอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยถามอยู่หน้าประตู
" แม่เข้าไปได้ไหมลูก ? "
หวานรีบปาดน้ำตาออกจากพวกแก้มก่อนจะตอบรับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงพยายามปกติ
" ค่ะแม่ หวานไม่ได้ล็อคประตู "
แกร๊ก ---
เมื่อพิมพ์เปิดประตูเข้ามาหวานก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่ทันทีอย่างรู้สึกเหนื่อยใจกับเรื่องเกิดขึ้น
" ไม่เป็นไรนะลูก " พิมพ์กอดตอบลูกสาวก่อนจะใช้มือลูบหลังเบา ๆ พร้อมกับพูดปลอบโยนให้เธอรู้สึกดีขึ้น
" หวานไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งงาน อึกกก "
" ไม่ร้องนะคนสวยของแม่มานี่มา " พิมพ์ผละกอดออกจากลูกสาวก่อนจะปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลอย่างอ่อนโยน แล้วจึงพาเธอมานั่งที่เตียงพร้อมกับกุมมือลูกสาวไว้หลวม ๆ เพื่อให้กำลังใจ
" แม่เชื่อว่าที่พ่อเขาบังคับลูก พ่อเขาเองก็คงหวังดีกับลูกไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวของเขาลำบาก "
" แต่หวานไม่ได้รักไอ้หน้านิ่งนั่น "
" อย่าเรียกพี่เขาอย่างนั้นเดี๋ยวคุณอาจกับคุณนาได้ยินเข้าจะมองลูกไม่ดี แม่เชื่อว่าสักวันหมอธันจะทำให้ลูกสาวแม่มีความสุข อีกอย่างลูกก็เป็นคนสัญญากับพ่อเขาเองว่าขอเวลาทำตามความฝันหนึ่งปีแล้วจะแต่งงาน แล้ววันนี้ลูกสาวคนสวยของแม่ก็ได้เป็นนักเขียนอย่างที่ตัวเองฝันไว้ ลูกจะผิดคำพูดของตัวเองเหรอ ? หืม " พิมพ์อธิบายพร้อมกับลูบผมเธอเบา ๆ อย่าง ปลอบประโลม
" ค่ะ หนูจะทำตามความต้องการของพ่อเขาทุกอย่าง " หวานยอมตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะกอดผู้เป็นแม่อีกครั้ง
