บทที่ 5 เอาน่าอยากช่วย
กายหนาเอนนอนบนโซฟาเล็กเท้าเลยขอบเบาะแล้วถอนหายใจหันมองคู่หมั้นนอนหันหลังให้ผิวพรรณขาวนวลเนียนเปล่งปลั่งต้องลอบกลืนน้ำลายหนืดลงคอเมื่อนึกได้ว่าไม่ควรหลงใหลให้กับสิ่งยั่วยุเลยรีบตะแคงหันหน้าเข้าเบาะโซฟาใจเต้นตึกตักจินตนาการไปไกลจนนอนไม่หลับต้องลุกขึ้นมาออกกำลังกายลดความรุ่มร้อนในตัว
กายกำยำวิดพื้นให้เหนื่อยจะได้หายฟุ้งซ่านก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นซิทอัพ เสียงลมหายใจหอบขึ้นลงรบกวนการนอนของมาลิสาที่นอนกระสับกระส่ายต้องผงกหัวดู
“ทำอะไร?”
“ออกกำลังกายหุ่นจะได้เฟิร์ม” เขาตอบคำถามพร้อมกับซิทอัพกล้ามท้องแน่นเป็นลอนคลื่นหุ่นหนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามทำเอามาลิสามองเพ้อค่อย ๆ ลุกจากที่นอนเดินตรงมาหาคู่หมั้นหนุ่มซิทอัพอยู่บนพื้นพรม
“หุ่นเฟิร์มจริงด้วย” ร่างระหงคุกเข่าลงจ้องมองความกำยำของคู่หมั้นก่อนจะเอื้อมมือจะไปสัมผัส
“อย่าแตะนะ!” ขุนพลผวารีบคว้ามือเธอไว้แล้วลุกนั่งหน้าตาตื่น มือที่กุมไว้หยุดนิ่งแต่มีอีกข้างเข้าไปแตะผิวกายเขาอย่างรวดเร็ว
“พี่ขุนหุ่นดีมาก ๆ เลย” นิ้วเรียวลากไล้แผ่วเบาเผยอปากเล็กน้อยกระดกลิ้นอยากแทะเล็มร่างกายของเขาเต็มที
“ยายังออกฤทธิ์อยู่เหรอ” ขุนพลมองหน้าสวยหื่นกระหายอย่างประหม่าเอียงมองคู่หมั้นที่จ้องมองเขาตาเป็นมัน
“ฉิบหายล่ะ จัดการตัวเองไปนะ พี่เชื่อว่าลิสาทำได้ ไปล่ะ” เขาผงะรีบรวบสองมือของคู่หมั้นแล้วลุกพรวดคว้าเสื้อจะหนีออกจากห้องกลัวว่าจะเกินเลยกลายเป็นห่วงผูกคอ มือหนาคว้ากลอนประตูอยู่ ๆ ก็ขนลุกซู่เมื่อถูกโอบกอดทางด้านหลังหน้าสวยแนบชิดแผ่นหลังมือเรียวลูบไล้กล้ามท้องเขาอย่างหลงใหล
“อุ่นจัง น้ำเดินเลย”
“เฮ้ย เป็นผู้หญิงนะพูดจาแบบนี้ได้ไง” เขาหันขวับจ้องมองดุ
“ก็น้ำเดินจริง ๆ นี่” หน้าสวยเงยมองใสซื่อก่อนจะก้มลงมองหว่างขาดึงกระโปรงตัวสั้นขึ้นเกือบเห็นกางเกงชั้นใน ขุนพลหน้าแดงตาเบิกกว้างรีบคว้ามือของคู่หมั้นไม่ให้ถกกระโปรงขึ้นสูงไปกว่านี้แต่นิ้วเจ้ากรรมดันยาวเกินเลยไปสัมผัสกับกางเกงชั้นในเปียกชื้น
“เชี้ยเอ๊ย! กูมาทำอะไรตรงนี้ว่ะเนี่ย”
“ตัวสั่นเชียวกลัวลิสาเหรอ” ริมฝีปากบางยกยิ้มกรุ้มกริ่มโผเข้าโอบกอดกายหนาทอดสายตามองหวานเยิ้ม
“ตั้งสติหน่อยลิสา” ปากบอกให้เธอตั้งสติแต่ตัวเขาเริ่มลนกัดฟันอดทนกับสิ่งยั่วยุเหงื่อซึมไรผม หน้าสวยโน้มแนบแก้มสากกระซิบข้างหูแผ่วเบาทำเอาชายหนุ่มสะท้านขาแข็งอ่อนระทวย
“อยากจัง พี่ขุน”
“ก็ช่วยตัวเองสิ”
“ทำยังไง?”
“ล้อเล่นกันใช่ไหม อย่าบอกว่าไม่เคย.......ช่วยตัวเอง” ขุนพลเอียงมองเหวอ ๆ เต็มไปด้วยความสงสัย คิ้วเรียวขมวดใสซื่อกัดริมฝีปากอย่างเดียงสาได้เนียนกริบเป็นหญิงสาวใส ๆ ไม่รู้เรื่องเซ็กซ์เพราะความต้องการครั้งนี้มันอัดแน่นด้วยฤทธิ์ยาทำเองก็คงไม่เหมือนเขาทำให้
“พี่เปิดคลิปให้ดูแล้วกันนะ” เสียงทุ้มสั่นเทาค่อย ๆ ดันคู่หมั้นสาวออกห่างอย่างประหม่าก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดหาคลิปผู้หญิงช่วยตัวเอง มาลิสาเดินมาหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ เขาแล้วเบียดขาแนบชิดชะเง้อหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เขากำลังเลื่อนหาคลิป ขุนพลอึกอักใจเต้นรัวพ่นลมหายใจก่อนจะลุกหนีกลัวหญิงคู่หมั้นตัวเอง
“หาเจอแล้วเอาไป” เขายื่นโทรศัพท์ให้ตรงหน้ามาลิสาซ่อนอมยิ้มมองมือของเขาสั่นเทาแล้วค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์อย่างอ้อยอิ่ง ขุนพลเบือนหน้ามองไปทางอื่นฝืนทำนิ่งทั้งที่ลนลานอยู่ไม่สุข
สายตาโฉบเฉี่ยวนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์กัดริมฝีปากพลางหุบขาเข้าบิดไปมาอย่างกระสัน
“ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่เอา ไม่เอา” ขุนพลเดินวนรอบห้องสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ขอให้ช่วงเวลาวาบหวามแบบนี้ผ่านไปสักที
มาลิสาร้อนรุ่มหนักขึ้นเหลือบมองคู่หมั้นที่เดินไปเดินมาก่อนจะกดเพิ่มเสียงโทรศัพท์ให้เสียงครางของผู้หญิงดังลั่นห้องพัก ขุนพลสะดุ้งหันขวับมามองแล้ววิ่งหน้าตาเหวอมาหาจะหรี่เสียงโทรศัพท์
“ดูแต่ภาพไม่ต้องเพิ่มเสียงก็ได้” เขาบ่นอุบพยายามแย่งโทรศัพท์ออกจากมือเรียวแต่มาลิสาแกล้งเอาโทรศัพท์หนีไม่ยอมให้ เสียงครางยังดังต่อเนื่อง คนตัวโตยิ่งรุ่มร้อนแก่นกายแข็งตุงเป้าตั้งหน้าตั้งตาแย่งโทรศัพท์จากเธอจนกลายเป็นโถมทับร่างบางเข้าจนได้ ทั้งสองชะงักมองสบตากันเหวอ ๆ ลมหายใจอุ่นกระทบหน้าของกันและกันและเสียงครางเจ้ากรรมในโทรศัพท์ก็ดังกระตุ้นอารมณ์ไม่หยุด
“พอเข้าใจแล้วเดี๋ยวลองทำเอง” เสียงหวานแผ่วเบาขบเม้มริมฝีปากกลอกตาหลุกหลิกไม่มั่นใจเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลากายอุ่นใกล้ชิดทำให้วาบหวามไม่เป็นตัวเอง ขุนพลมองคู่หมั้นใต้ล่างเม้มปากช่างน่ารักน่าฟัดอดใจไม่ไหวกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ที่จริงพี่ก็พอช่วยได้นะ” เสียงทุ้มแหบแห้งมองหน้าสวยราวกับราชสีห์จ้องตะครุบเนื้อหวาน
“ไม่ต้องก็ได้” มาลิสาตัวสั่นเทาเหลือบมองมัดกล้ามแล้วใจเต้นรัว
“เอาน่าอยากช่วย”
