บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ไม่มีทางเลือก

ทางบ้านก็เร่งให้กลับไปแต่งงานโทรตามเช้า สาย บ่าย เย็นจนฉันขอต่อลองขอทำงานก่อนพ่อแม่ก็ใจดีนะใจดีมากให้ฉันทำงานด้วยแต่ต้องหางานให้ได้ภายใน 1 เดือนถ้าหาไม่ได้ก็เก็บกระเป๋าขึ้นดอยไปแต่งงาน ฉันเลยมีแค่สองทางให้ฉันได้เลือกนึกแล้วเศร้าชีวิตน้ำหนาวช่างน่าสงสารน่าเวทนาจริงๆ ทางเลือกที่หนึ่ง คิอกัดฟันสู้หางานทำให้ได้ภายใน 1 เดือน หรือทางที่สอง คือเก็บกระเป๋าขึ้นดอยไปแต่งงานให้แต่งงานน่ะเหรอ...หึ ไม่มีทางซะหรอกฉันยังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลยแล้วอีกอย่างคู่หมั้นฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร หน้าตาเป็นยังไงอิหนาวยังไม่รู้เลยค่ะแม้แต่จะคุยกันสักคำยังไม่เคยเลย รู้แต่ว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วตอนใกล้จะเรียนจบ ม.6 แม่เอาแหวนมรกตสีเขียวล้อมเพชรวงหนึ่งมาให้ดู ซึ่งมันสวยมากสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแล้วก็ดูแพงมากด้วยจนฉันนี่ไม่กล้าที่จะแตะเลยด้วยซ้ำกลัวจะเผลอทำแหวนหลุดมือหายขึ้นมาล่ะอย่าพูดถึงหายไปทั้งวงเลยแค่เพชรเม็ดเดียวกระเด็นหายไปก็ไม่รู้แล้วว่าอิหนาวต้องทำงานอีกกี่ปีถึงจะชดใช้หมด พยายามหลีกเลี่ยงไม่กล้าแตะแหวนวงนั้นเลยขอแค่มองดูอยู่ห่างๆ ก็เป็นบุญตามากแล้วแต่แม่ก็พยายามยัดใส่มือฉันมาจนได้พร้อมกับบอกว่าแหวนวงนี้คือของฉันต้องเก็บรักษาไว้เท่าชีวิตให้ใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลาห้ามให้ห่างจากตัวเป็นอันขาดเพราะว่านี่คือแหวนหมั้นที่คู่หมั้นของฉันให้มา อิหนาวนี่ยืนอ้าปากค้างเหวอไปเลยสิคะมือไม้อ่อนจนแหวนหลุดจากมือไปตอนไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่เกิดมาเท่าที่จำความได้ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนอย่าว่าแต่แฟนเลยแค่ตกหลุมรักผู้ชายสักคนอิหนาวยังไม่เคยเลยจ้า พ่อก็บอกว่า “ตอนนั้นเอ็งเป็นคนบอกเองว่าจะหมั้นพ่อก็รับหมั้นไว้ให้แล้วไง” “ตอนไหนพ่อ” “ตอนเอ็ง 5-6 ขวบได้มั้ง” ฮะ 5 ขวบตอนนั้นยังแก้ผ้าโดดน้ำคลองอยู่เลยมั้งพ่อ เอาอะไรกับคำพูดเด็กเนี่ย “ไม่หมั้น ให้ตายยังไงหนาวก็ไม่หมั้นนี่มันยุคไหนแล้วนี่ชีวิตหนาวนะหนาวจะเลือกเอง” “ไม่ได้ เราจะผิดคำพูดไม่ได้เด็ดขาดแหวนหมั้นเราก็รับของเขามาแล้ว” “ไม่ ยังไงหนาวก็ไม่หมั้น” หลังจากที่พูดประโยคนั้นออกไปฉันก็ไม่คุยกับพ่อกับแม่อีกเลย

แต่ชีวิตคนเรามันก็ต้องมีจุดเปลี่ยนใช่ไหมล่ะและจุดเปลี่ยนของฉันก็เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้เหมือนกรรมติดจรวดยังไงยังนั้น หลังจากที่ทะเลาะกับพ่อแม่ได้ไม่กี่วันฉันประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่เรียกได้ว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้หมอบอกให้พ่อกับแม่ทำใจเพราะลูกสาวคนเดียวของท่านอาจจะไม่ลืมตาฟื้นขึ้นมาอีกแล้วทุกคนขอภาวนาให้มีปาฏิหาริย์แต่ความหวังก็ริบหรี่ลงไปทุกทีจนนาทีสุดท้ายที่หมอบอกว่ายื้อต่อไปไม่ไหวแล้วขอให้ญาติทำใจปล่อยลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัวไปแต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นในวินาทีสุดท้ายขณะที่หมอกำลังจะถอดเครื่องช่วยหายใจออกตาดวงน้อยๆ ของฉันก็เริ่มขยับขึ้นช้าๆ ชีพจรที่กำลังถดถอยลงกลับเต้นขึ้นมาราวกับปาฏิหาริย์ ท่ามกลางน้ำตาและรอยยิ้มของญาติๆ ที่ฉันรักและรักฉัน พอขยับมือได้ก็รู้สึกสิ่งแปลกปลอมบางอย่างใช้แรงทั้งหมดที่มียกขึ้นมาดูแต่ก็ต้องแปลกใจอะไรจะบังเอิญขนาดนี้บังเอิญจนตัวฉันเองยังไม่อยากจะเชื่อเลย

ความมืดมิดดำสนิทไม่เห็นทางมีแต่หมอกและควันสีขาวบางๆ ล้อมรอบตัวแต่แล้วก็มีคุณตาใจดีท่านหนึ่งมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันพร้อมกับแสงสว่างพาฉันกลับมาและก่อนจากกันท่านยื่นแหวนวงหนึ่งใส่มือไว้แล้วพูดกับขึ้นมาประโยคหนึ่งเป็นคำพูดที่ฉันจำได้ไม่ลืม “ดวงใจของปูอยู่กับหนูแล้วนะ” ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจของท่านทำให้ฉันลืมทุกอย่างเผลอยิ้มให้ท่านอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นฉันก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสายระโยงระยางเต็มตัวไปหมดรอบเตียงมีผู้คนมากมายหลายคนมีน้ำตาอาบสองแก้มแต่กลับมีรอยยิ้มหลายเสียงเรียกชื่อฉันไม่หยุดบางคนโผเข้ากอดกันก็มีและที่น่าแปลกที่สุดใจคือในมือฉันมีมีสร้อยเงินเส้นยาวเส้นหนึ่งอยู่และสร้อยเส้นนั้นก็ร้อยแหวนมรกตล้อมเพชรเหมือนกับวงที่คุณปู่ยื่นใส่มือฉันไว้ก่อนที่ท่านจะหายไปในกลุ่มหมอกควัน และมันก็เป็นแหวนวงเดียวกับแหวนหมั้นที่แม่เอามาให้ฉันเมื่อวันก่อนนั้นเลยหลังจากวันนั้นวันที่มีชีวิตรอดกลับมาได้อย่างปาฏิหาริย์ฉันก็ทำใจยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีคู่หมั้นแล้วตั้งแต่เด็กแต่ยังไม่ต้องการที่จะทำความรู้จักกับเขา เพราะฉันยังไม่พร้อมที่จะถูกผูกมัดด้วยการแต่งงาน ฉันยังหวงชีวิตโสดของฉันอยู่นะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel