ตอนที่ 5 เรื่องราวในอดีต (2)
หลังจากที่ออกตัวชัดเจนว่าไม่ต้องการคบหากับเพื่อนที่ไม่จริงใจอย่างพีรดาและอริสาแล้ว ณิชาก็เดินหน้าตั้งใจเรียนและไม่สนใจทั้งสองคนที่พยายามจะหาเรื่องพูดกระทบกระทั่งเธอไม่หยุด
แต่ถึงอย่างนั้นชีวิตในมหาวิทยาลัยพีรดาและอริสาก็ไม่ได้มีอำนาจมากขนาดที่จะทำอะไรเธอได้มากนัก นอกจากคำพูดที่ทำให้รู้สึกอับอายกับใบหน้าที่แพ้สารเคมีของเธอ และการกลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเด็กที่งอแง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่พวกนั้นจะทำเธอได้
“กินข้าวมันไก่สินะหน้าถึงได้มันเยิ้มแบบนี้”
“อุ๊ย ดูสิดาด้า นั่นหน้าหรือผิวพระจันทร์”
สองสาวเยาะเย้ยถากถางณิชาที่โรงอาหารของคณะแต่เธอก็พยายามไม่สนใจ
“อย่าไปนั่งใกล้นะริสา หนองสิวแตกกระเด็นใส่แล้วติดเชื้อสิวมาไม่คุ้มนะ” พีรดาพูดแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ แม้คนอื่นๆ จะไม่ชอบการกระทำของพวกเธอแต่ก็ไม่ได้มีใครย่นมือมาช่วยเหลือเพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
“ณิ งานอาจารย์ฉวีฉันขอจับคู่กับเธอนะ” เสียงนุ่มๆ ของกวี ชายหนุ่มที่เรียนคณะเดียวกันแต่คนละสาขาวิชาถามขึ้นมาพร้อมกับนำจานข้าวมาวางตรงข้ามกับเธอทำให้ณิชาเงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง
“วี กินข้าวกับคนหน้าสิวระวังเป็นสิวตามนะ” อริสาบอกเขาแล้วหันไปหัวเราะกับพีรดาด้วยความขบขัน
“หน้าของณิไปทำอะไรให้พวกเธอเหรอถึงได้มาวุ่นวายจัง เอาเวลาแต่งหน้าทำสวยไปเรียนหนังสือหาสารอาหารใส่สมองบ้างนะ” กวีออกโรงปกป้องเธอ
ณิชามองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชม นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนปกป้องเธอ ทำให้หญิงสาวอดที่จะใจเต้นไปกับเขาไม่ได้
พีรดาและอริสาที่โดนตอกกลับแบบนั้น ทั้งสองก็เดินกระทืบเท้าออกไปด้วยความไม่พอใจ กวีส่งยิ้มให้เธอแล้วกินอาหารโดยที่นั่งตรงข้ามอย่างไม่รังเกียจ
“ทำไมนายอยากจับคู่กับฉัน นายไม่รังเกียจฉันเหรอ”
“นี่มันสมัยไหนแล้ว ใช่เวลาที่จะมาดูถูกหรือรังเกียจรูปลักษณ์ภายนอกของคนอื่นเหรอ กินข้าวเถอะ”
ท่าทางสบายๆ และจริงใจของเขาทำให้ณิชารู้สึกอบอุ่นใจ เธอกินข้าวแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม หากจำไม่ผิดอีกฝ่ายเข้ารอบไปประกวดเดือนคณะแต่ว่าไม่อยากรับตำแหน่งเลยถอนตัวออกมาก่อน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะเป็นเดือนคณะไปประกวดได้ถึงเดือนมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
************************
สองสัปดาห์ผ่านไปกวีและณิชาสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ที่เธอที่ไหนก็จะมีกวีที่นั่น แม้จะเรียนคนละคลาสแต่วิชาเลือกเสรีที่เรียนด้วยกันเขาก็จะนั่งข้างๆ เธอเสมอ
พีรดาและอริสาที่กลั่นแกล้งณิชาด้วยคำพูด พอกวีอยู่ด้วยทั้งสองคนก็ไม่ได้เข้าไปใกล้ ณิชาจึงสบายใจที่จะอยู่กับกวี เธอรู้สึกสบายใจและปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆ เขาและมั่นใจว่ามันคือความรัก
“เดือนหน้าก็จะสอบไฟนอลแล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือนะ อย่าไปสนใจสองคนนั้น คนบ้าอะไรกัดไม่ปล่อย” กวีพูดถึงทั้งสองคนด้วยความไม่พอใจนัก เพราะเวลาที่เขาแยกไปเรียนณิชามักจะถูกอีกฝ่ายมากลั่นแกล้งให้อับอายเรื่องใบหน้าอยู่เสมอ
“ฉันไม่ได้คิดมากเลย อยากพูดอะไรก็พูดไป แค่รำคาญเท่านั้น” ณิชาบอกเขาให้วางใจเรื่องนี้
“แล้วรายงานส่วนของเธอทำถึงไหนแล้ว อย่าลืมส่งไฟล์มาให้ฉันเข้าเล่มนะ อาจารย์ฉวีให้ส่งก่อนสอบไม่อย่างนั้นเอฟเลยนะ” เขาเตือนเธอเรื่องรายงานที่เลือกจับคู่กันทำ
“อืม ใกล้จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันส่งไฟล์ให้นะ” เธอตอบเขาแล้วยิ้มให้
กวียิ้มตอบแล้วยื่นลูกอมรูปหัวใจให้เธอ เขายิ้มกว้างแล้วส่งสายตาหวานและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลให้กับเธอ “ฉันให้ ซื้อมาเยอะเลยอมไม่หมด” เขาบอกแล้วยิ้มมองไปทางอื่นกลบเกลื่อนความเขิน
ณิชารับไว้แล้วเก็บใส่กระเป๋า ของที่เขาให้เธอกินไม่ลงอยากเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกมากกว่า
“ทำไมไม่กินล่ะ ไม่ชอบเหรอ”
“ค่อยเอากลับไปกินที่ห้องน่ะ” เธอรีบบอกเมื่อเขาทำสีหน้าเหมือนผิดหวัง ถ้าไม่คิดไปเองกวีก็คงมีใจให้เธอเหมือนอย่างที่เธอกำลังรู้สึกต่อเขา
หลังเลิกคลาสสุดท้ายในวันนั้น กวีมารอเธอที่หน้าห้องเรียนทำให้ณิชาเป็นจุดสนใจที่มีหนุ่มหล่อมาเฝ้าหลังเลิกเรียนทุกวันในช่วงหลังมานี้ ทำให้ณิชายิ่งรู้สึกภูมิใจและมอบใจให้กับกวีไปอย่างไม่เผื่อเอาไว้
“วันนี้ให้ฉันไปส่งนะ” เขาอาสาไปส่งเธอ ณิชาพยักหน้ารับแล้วเดินเคียงข้างไปกับเขาท่ามกลางสายตาที่อิจฉาของเพื่อนๆ ที่มองมา และพีรดากับอริสาที่มองตามด้วยความหมั่นไส้
“ระวังเถอะ หน้าแบบนี้จะโดนหลอกฟัน ป่องตอนเรียนนี่อายกว่าหน้าสิวอีกนะจ๊ะณิ” อริสาบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“ฟันแล้วทิ้งไม่เท่าไร กลัวแต่จะฟันไม่ลงเพราะหน้าผีนะสิริสา” พีรดาหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
กวีจับมือของณิชาแล้วจูงมือเธอเดินออกไปจากตรงนั้นโดนไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งเดินพ้นตึกเรียนมาที่ลานจอดรถเขาก็หันมาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใยและไม่พอใจที่เธอถูกดูถูก
“ณิทนได้ยังไงกับปากของสองคนนั้น”
“ณิชินแล้วล่ะวี เรากลับกันเถอะ” เธอบอกเขาให้ใจเย็นลง
ท่าทางที่เดือดเนื้อร้อนใจแทนเธอ และการจับมือเธอออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอับอายนั้นทำให้เธอซาบซึ้งใจมาก
“แต่ผมไม่อยากให้ณิยอม ดูพวกนั้นทำกับณิสิ” เขายังคงอารมณ์ร้อนไม่หยุด แสดงความห่วงใยที่มีต่อเธอจนณิชารับรู้ได้และคิดว่าอีกฝ่ายนั้นมีใจให้ตนแน่
“วีคะ เราไปร้านคาเฟ่เปิดใหม่ที่เส้นหลังมอดีไหมคะ จะได้ใจเย็นลง” เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สดใส
กวีมองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยตุ่มสิวนั้นแล้วแสดงแววตาที่อ่อนโยนกับเธอแล้วพยักหน้ารับ “ไปสิ แต่ว่าวันนี้ผมเลี้ยงนะ”
“ทำไมล่ะคะ หารกันก็ได้นี่”
“ครั้งหน้าณิจะได้เลี้ยงผมไง” เขาพูดเป็นนัยว่าอยากไปร้านนั้นกับเธออีก ทำให้ณิชายิ้มกว้างไม่หุบ หน้าเห่อร้อนด้วยความเขินอายกับคำพูดที่มีความนัยนั้น
************************
