5 ประกาศของรินลดาที่ดึงดูดใจปภาวี
5
ประกาศของรินลดาที่ดึงดูดใจปภาวี
ในขณะที่ปภาวีกำลังไล่ดูประกาศรับสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กจำนวนมากบนเว็บไซต์แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยข้อความและรูปภาพที่หลากหลาย สายตาของเธอสะดุดเข้ากับประกาศหนึ่งที่ดูเรียบง่ายแต่มีรายละเอียดชัดเจน
“รับสมัครพี่เลี้ยงดูแลเด็กหญิงวัย5ขวบ” เป็นประกาศที่รินลดาโพสต์ไว้ เมื่อคลิกเข้าไปอ่าน เธอก็เห็นรายละเอียดที่ค่อนข้างครบถ้วน บอกถึงลักษณะงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ และคุณสมบัติที่ต้องการ
ปภาวีไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับงานพี่เลี้ยงเด็กในตอนแรก เธอเพียงต้องการหารายได้เพื่อประทังชีวิตและรอโอกาสในสายงานที่ใฝ่ฝัน แต่เมื่ออ่านรายละเอียดของประกาศ เธอรู้สึกสนใจเป็นพิเศษตรงที่ว่า
“เด็กหญิงวัย 5 ขวบ” ทำให้ปภาวีรู้สึกว่าน่าจะเป็นช่วงวัยที่สามารถสื่อสารและทำกิจกรรมร่วมกันได้ง่ายกว่าเด็กเล็กมากๆ ที่อาจจะต้องป้อนนมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม
ซึ่งเธอไม่มีประสบการณ์เลย นอกจากนี้รายละเอียดบางส่วนในประกาศยังบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ของผู้ปกครองที่ดูจริงจังกับการหาพี่เลี้ยง ทำให้ปภาวีรู้สึกสบายใจขึ้นระดับหนึ่งว่านี่ไม่ใช่แค่การจ้างงานฉาบฉวย หรือเป็นงานที่ต้องแบกรับภาระที่หนักหนาเกินไป
ข้อความในประกาศไม่ได้เน้นประสบการณ์หรือใบรับรองมากมาย แต่กลับเน้นที่
“ความอ่อนโยน ความรับผิดชอบ และความรักเด็ก” ซึ่งทำให้ปภาวีรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเข้าข่าย เธอเองเป็นคนใจดีและเข้ากับเด็กได้ง่าย เธอชอบเล่นกับเด็กๆ และมักจะได้รับการตอบรับที่ดีจากเด็กๆ เสมอ
เมื่ออ่านประกาศจนจบ ปภาวีตัดสินใจว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีอย่างไม่คาดฝัน เธอจึงตัดสินใจลองส่งข้อความแนะนำตัวและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกลับไป
พร้อมแนบประวัติส่วนตัวและช่องทางการติดต่อของเธอไปในอีเมลอย่างละเอียด เธอไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ลองยื่นใบสมัครดู เผื่อจะได้มีโอกาสสัมภาษณ์ อย่างน้อยก็ถือเป็นประสบการณ์ในการหางานและอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตของเธอก็เป็นได้
ในวันเดียวกันนั้นเอง ก่อนที่ปภาวีจะได้รับอีเมลตอบกลับ รินลดากำลังพยายามทำให้เมษามีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอเห็นเมษาเริ่มซึมลงอีกครั้ง และรู้สึกผิดที่บางครั้งก็ต้องทำงานจนไม่มีเวลาเต็มที่ให้หลานสาว เธอจึงตัดสินใจพักงานไว้ชั่วคราวและพาเมษาไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เป็นห้างที่รดาพี่สาวของเธอชอบพาเมษามาเดินเล่นบ่อยๆ
“เมษาอยากกินอะไรคะวันนี้ เดี๋ยวแม่รินเลี้ยงเอง” รินลดาจับมือเมษาเดินไปตามโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าและผู้คนมากมาย เสียงเพลงเบาๆ คลอเคลียสร้างบรรยากาศที่คึกคัก เมษาเงยหน้ามองป้ายร้านอาหารสีสันสดใสด้วยแววตาเป็นประกาย
“เมษาอยากกินไอติมค่ะ แล้วก็พิซซ่าด้วย!” เมษาตอบเสียงเจื้อยแจ้วพลางชี้ไปที่ร้านพิซซ่าร้านโปรดของเธอ รินลดาเห็นรอยยิ้มสดใสของเมษาที่กลับมาอีกครั้ง ก็รู้สึกโล่งใจและมีความสุขตามไปด้วย
ทั้งสองไปนั่งที่ร้านอาหาร พนักงานนำเมนูมาให้ เมษาตั้งใจเลือกพิซซ่าหน้าโปรดของเธออย่างจริงจัง รินลดาถ่ายรูปเมษาเก็บไว้หลายช็อต ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจอย่างแท้จริงมานานแล้ว
“ถ่ายอีกค่ะแม่ริน! เอาอีกรูป!” เมษาพูดพลางทำท่าทางน่ารักๆ ให้รินลดาถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน
แต่ในขณะที่เมษากำลังมีความสุขกับพิซซ่าชิ้นโปรด และรินลดากำลังป้อนไอศกรีมรสหวานให้เมษาอย่างอ่อนโยน สายตาของรินลดาก็ไปสะดุดกับคู่แม่ลูกคู่หนึ่งที่กำลังเดินจูงมือกันผ่านหน้าร้าน ใบหน้าของคุณแม่เปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข แววตาเต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยนที่เปล่งประกายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ รินลดารู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ เธอรู้ดีว่าเธอรักเมษามากที่สุดในโลก แต่เธอก็ยังไม่สามารถทดแทนแม่ที่แท้จริงของเมษาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ความรู้สึกเหนื่อยล้าและโดดเดี่ยวกลับเข้ามาปกคลุมหัวใจเธออีกครั้งอย่างเงียบๆ
“แม่รินเป็นอะไรคะ ไม่กินไอติมเหรอคะ” เสียงเล็กๆ ของเมษาดึงรินลดากลับมาจากห้วงความคิด รินลดาพยายามปั้นยิ้มให้เมษา
“เปล่าค่ะ แค่แม่รินคิดอะไรเพลินๆ ค่ะ” เธอพูดพลางหยิบช้อนตักไอศกรีมเข้าปาก เมษาหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นไอศกรีมเลอะมุมปากของรินลดา
แม้จะได้เห็นเมษามีความสุข แต่ในใจของรินลดาก็ยังคงมีคำถามและความกังวล เธอรู้ดีว่าเธอต้องการใครสักคนมาช่วยแบ่งเบาภาระนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่เป็นเรื่องของเมษาด้วย เธอต้องการใครสักคนที่จะช่วยเติมเต็มรอยยิ้มของเมษาให้คงอยู่ตลอดไป โดยที่เธอเองก็สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ตอกย้ำการตัดสินใจของรินลดาที่จะประกาศรับพี่เลี้ยงอย่างจริงจัง
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงแจ้งเตือนอีเมลก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างๆ เธอ ปภาวีชะงักมือจากดินสอ สายตาจับจ้องไปที่หน้าจอ เห็นชื่อผู้ส่งเป็นชื่อรินลดา หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่มีบริษัทหรือบุคคลตอบกลับใบสมัครงานของเธออย่างรวดเร็ว
เธอเปิดอ่านอีเมลอย่างกระตือรือร้นและพบว่าเธอได้รับนัดสัมภาษณ์ในวันรุ่งขึ้น ณ บ้านของรินลดาเอง อีเมลระบุเวลาและสถานที่อย่างชัดเจน พร้อมทั้งบอกว่ารินลดารู้สึกสนใจในโปรไฟล์ของเธอและอยากจะพูดคุยด้วยตัวเอง
ปภาวียิ้มออกมาอย่างสดใส รอยยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวย เธอรู้สึกเหมือนความหวังเล็กๆ กำลังก่อตัวขึ้นในใจอีกครั้งหลังจากที่ต้องเผชิญกับความผิดหวังมาหลายวัน
เธอรีบเก็บสมุดวาดภาพและเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ เธอค้นหาข้อมูลเส้นทางไปยังบ้านของรินลดาทันที เพื่อให้แน่ใจว่าจะไปถึงที่หมายได้ตรงเวลา เธอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตของเธอ
ตลอดทั้งคืนปภาวีนอนไม่ค่อยหลับด้วยความตื่นเต้น เธอจินตนาการถึงการสัมภาษณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เธอพยายามเตรียมตัวอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้จะเป็นงานพี่เลี้ยงเด็กแต่เธอก็อยากทำให้ดีที่สุด เธออ่านบทความเกี่ยวกับการดูแลเด็กวัย 5 ขวบ การทำความเข้าใจจิตวิทยาเด็กเล็ก และพยายามนึกถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่สามารถทำร่วมกับเด็กได้ เธอรู้ดีว่านี่อาจจะเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ทางการเงินที่ตึงเครียดของเธอ และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจในชีวิต
เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง ปภาวีตื่นแต่เช้าด้วยความสดใส เธอเลือกชุดที่ดูเรียบร้อยแต่ก็ยังคงความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ เธอแต่งหน้าอ่อนๆ และรวบผมให้ดูทะมัดทะแมง
เธอมั่นใจว่าเธอพร้อมแล้วที่จะไปพบกับรินลดากับเมษาและพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอสามารถเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ดีได้
เธอออกจากห้องพักแต่เช้าเพื่อเผื่อเวลาเดินทางและการจราจรในเมือง เธอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตของเธอ
