ตอนที่ 5 [1/2]
เช้าวันจันทร์สัปดาห์ที่สามสำหรับการฝึกงาน นับดาวยังคงถือเวลาเข้างานเหมือนกับวันก่อนๆ ลิฟท์ที่ถูกกดเรียกจากชั้นบนลงมาค่อยๆเปิด นับดาวขยับขาเดินเข้าไปในลิฟท์โดยที่ไม่รู้ตัวว่าด้านหลังมีใครยืนรออยู่เช่นกัน
เมื่อเธอหันกลับมาเพื่อจะกดชั้น มือเล็กก็ค้างชะงักเมื่อทิวาอยู่ใกล้กับเธอมากอีกครั้ง แต่สำหรับทิวาเขากลับคิดเพียงว่าเป็นเรื่องปกติที่พนักงานทั่วไปยามเจอเขาก็จะต้องเกิดความประหม่า แต่เธอคนนี้คงเป็นนักศึกษาฝึกงานเพราะเธอสวมชุดนักศึกษา
ทิวากลับเป็นฝ่ายยื่นมือไปกดชั้นลิฟท์เสียเอง เขากดให้เธอด้วยเพราะลิฟท์ตัวนี้ใช้เฉพาะชั้นห้าแผนกบัญชีกับชั้นของประธานบริษัทเท่านั้น นับดาวพยายามระงับอาการของตัวเองไว้อย่างเต็มที่ เธอยกมือไหว้เขาก่อนที่จะขยับเข้ามุมห่างจากเขาให้มากที่สุด
“ตั้งใจเรียนรู้ศึกษางานและหวังว่าบริษัทเราจะได้ร่วมงานกับคุณในอนาคต” ทิวาเอ่ยเมื่อลิฟท์มาถึงชั้นห้าและเปิด
“ขอบคุณค่ะ” นับดาวกล่าวแค่นั้นก็เดินห่างออกมา เธอกลับมาหายใจอีกครั้งเมื่อลิฟท์ปิดลงแล้ว กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากตัวเขายังติดตัวเธอมาอยู่เลย
ในวันรุ่งขึ้นนับดาวจึงเปลี่ยนเวลามาฝึกงาน เธอมาช้ากว่าทุกๆวันอีกยี่สิบนาที เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับเขาโดยบังเอิญอีกครั้ง แต่วันนี้วันอังคารเธอกลับเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าลิฟท์แล้ว เมื่อเห็นเขาก่อนเธอจึงหันหลังกลับและเดินหนีออกมาโดยทันที
ทิวายกยิ้มมุมปากอย่างขบขันเมื่อเขาเห็นเงาไหวๆของใคร แต่พอเหลียวไปมองก็เป็นเด็กฝึกงานคนเดียวกับเมื่อวาน
นับดาวรอจนลิฟท์ปิดเธอจึงเดินกลับไปกดเรียกลิฟท์ใหม่ และเมื่อขึ้นไปชั้นห้าก็ได้เห็นทุกคนมาทำงานครบแล้ว เธอไม่ได้มาสาย แต่มาตรงเวลาเป๊ะ
“หนูดาวมาพอดีเลย พี่อยากได้ผู้ช่วย” นับดาวทักทายทุกคนและเดินไปหาพี่จี่หรือพี่ลิ้นจี่
“อะไรเหรอคะ”
“ทางเบื้องบนสั่งให้สืบราคางบประมาณปรับปรุงตลาดนะจ๊ะ” นับดาวพยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจ นับไล่ดูรายชื่อตลาดที่ต้องปรับปรุง
“พี่จี่ค่ะ สองที่นี่พึ่งทำไปเมื่อ...” นับดาวทบทวนความจำตอนที่เธอจัดการกับเอกสารทางบัญชี
“อย่างงั้นเหรอจ่ะ จะเป็นไปได้ยังไงก็ทางฝ่ายที่รับผิดชอบส่งเรื่องเข้ามา ทางบริษัทมีนโยบายรีโนเวททุกๆเจ็ดปี” นับดาวจึงขอตัวเข้าไปในห้องเอกสาร เธอเห็นรายชื่อตลาดสองที่นี้จากเอกสารเมื่อสองปีก่อน แฟ้มถูกดึงออกมาและเอาไปตรวจสอบอีกครั้ง “แย่จริงเลย” ลิ้นจี่เปรยออกมาเมื่อดูเอกสารแล้ว “เอางี้ดาวเช็คของอีกแปดที่ให้พี่ก่อน เดี๋ยวสองที่นี่พี่เข้าไปคุยกับพี่ปริญก่อน”
นับดาวทำตามนั้น และไม่ถึงยี่สิบนาทีลิ้นจี่และปริญญาก็เดินออกจากห้องกระจก “หยิบกระเป๋าจ่ะน้องหนู” ปริญญาเอ่ยกับนับดาวที่กำลังก้มหน้าทำงานที่ได้รับมอบหมาย
“หยิบกระเป๋า ไปไหนคะ”
“ไปตลาด” นับดาวเข้าใจโดยทันที บัญชีทำงานตามเอกสาร ไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องไปตรวจหน้างาน แต่บัญชีที่นี่เห็นจะไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว “ไปหาหลักฐานกัน”
“พวกพี่แยกแยะวัสดุเป็นเหรอคะ” ปริญญาและลิ้นจี่มองหน้ากันก่อนที่จะส่ายหน้า นับดาวยิ้มขบขัน การที่ตลาดทรุดและเสียหายเร็วแน่นอนว่าต้องเกิดการโกงในเรื่องการสั่งของคุณภาพไม่ตรงกับราคาแน่ๆ เพราะถ้ามีการตุกติกสิ่งที่มองไม่เห็นย่อมตรวจสอบยาก
“เอาน่าไปดูกันก่อน” นับดาวทำตามอย่างว่าง่าย และทั้งสามก็ออกเดินทาง ลักษณะภายนอกดูไม่ออกเลยว่าต้องมีการรีโนเวท แต่เมื่อเข้าไปข้างใน พื้นไม่น่าจะทรุดแตกเร็วขนาดนี้ถ้านับจากเวลาที่พึ่งทำไป และช่องแผงขายของก็เกิดการร้าวเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดแล้วในตอนนี้ แต่จะว่าไปผู้ดูแลตลาดที่นี่ก็ทำหน้าที่ได้ดีในเรื่องความสะอาดอย่างถูกสุขลักษณะในทุกจุด นับดาวเดินไปสำรวจห้องน้ำที่พึ่งทำ อย่างที่คิดไว้ ผนังแตกร้าวเร็วเกินไป น่าจะโกงปูน โกงหิน โกงทรายแน่ๆ
“ที่นี่สะอาด แผงถูกเช่าเต็ม คนเดินก็เยอะมาก”
“ผู้ดูแลคนนี้พึ่งมาทำงานได้แค่ปีนิดๆเองค่ะ” นับดาวโล่งใจ เพราะไม่งั้นก็จะมีการย้อนแย้งกันว่าคนที่ทำงานดีขนาดนี้ทำไมถึงโกงกันได้
“พวกเรากินมื้อเที่ยงกันที่นี่แหละ และค่อยไปดูอีกที่หนึ่ง” ตกบ่ายแก่ๆทั้งสามก็กลับถึงออฟฟิศ ขณะที่กำลังเดินไปยังลิฟท์ ลิฟท์ก็เปิดกว้างพร้อมกับที่ประธานเดินออกมา ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พวกนับดาวที่ยืนอยู่ไม่ได้สังเกตว่าตรงโถงห่างออกไปที่รับแขกมีใครนั่งอยู่
“สวัสดีค่ะท่านประธาน” ปริญญาทักทายทิวา
“ไปไหนกันมาเหรอครับ” ทิวาทักทายอย่างเป็นกันเอง สายตาเลื่อนไปเห็นนับดาวที่ค่อยๆขยับไปยังตำแหน่งที่ให้สายตาของทิวาไม่ต้องสังเกตุเห็นว่าเธอยืนอยู่ นับดาวกะจะให้ร่างสูงของปริญญาและลิ้นจี่บังเธอจากสายตาเขา
“ตลาดค่ะ” ปริญญาบอกสั้นๆ ทิวาเลิกคิ้วเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาต้องสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามในตอนนี้
“ทิวาค่ะ” พร้อมรักเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาทิวาเสียเอง เมื่อมองอยู่นานแล้ว แต่ทิวาก็ยังไม่สามารถปลีกตัวมาจากคนสามคนนี้ได้ เธอคาดเดาได้เองว่าคงเป็นพนักงานของเขา
“ขอโทษครับ” ทิวากล่าวออกไปอย่างนึกได้ว่าตัวลงมาข้างล่างก็เพื่อที่จะลงมารับพร้อมรัก “เราขึ้นไปคุยกันข้างบนกันดีกว่า” ทิวาร้องบอกกับพร้อมรัก
“พร้อมเอาของมาด้วยค่ะ...อืม...” พร้อมรักแหงนคอ “เธอ!...” พร้อมรักชี้ไปที่นับดาวที่ยืนหลบหลังปริญญาสำเร็จแล้ว “ช่วยไปเอาของตรงโน้นและเอาไปให้ฉันด้วยนะ” คำสั่งนั้นทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ถึงกับเงียบงัน ปริญญาแสดงสีหน้าไม่พอใจในทันที แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรเมื่อนับดาวขานรับในคอและเดินไปยังที่นั่งที่พร้อมรักนั่งก่อนหน้านี้
“เราขึ้นไปกันเถอะค่ะ” พร้อมรักคล้องแขนทิวาเข้าไปในลิฟท์ ทิวาเรียกปริญญาและลิ้นจี่ให้ตามมาด้วย ทั้งสองหันไปมองนับดาวก่อน ลิ้นจี่จึงดันให้ปริญญาเข้าไปคนเดียวส่วนตัวเองเดินไปช่วยนับดาว
“ผู้หญิงอะไรหน้าตาก็ดี แต่ท่าทางและมารยาทแย่มาก” ลิ้นจี่เปรยออกมาเมื่อเดินมาช่วยหิ้วถุงอะไรก็ไม่รู้มากมาย
