5
อองเดรรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ มีแต่เรื่องประหลาด
ทำไมกัน ทั้งที่เป็นบริษัทเอกชนชื่อดังด้านสินค้าแบรนด์เนม เจ้าของมีชื่อเสียงโด่งดังร่ำรวยระดับแถวหน้าประเทศไทย ดำเนินการด้วยกิจการครอบครัว ทำไมถึงได้ทำงานเหมือนระบบทาส
เขาคิดว่าโลกใบนี้เลิกทาสไปนานแล้วเสียอีก แถมทาสที่ว่าก็ไม่ใช่พนักงาน เป็นหนึ่งใน CEO ลูกสาวเจ้าของบริษัท
เช้านี้เขาเข้าไปจัดการความเรียบร้อยของรถยนต์ยุโรปหรูกับคนขับรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบความเรียบร้อยของกล้องหน้ารถและอุปกรณ์ในรถยนต์ เลยขออาสาไปรับเจ้านายสาวด้วยตนเอง เขายินดีจะทำหน้าที่แทนเมสเซนเจอร์ ยินดีขับรถแทนนายสารถีของบ้านอย่างเต็มใจ
ดันมีเรื่องแปลกเข้าไปอีก ทันทีที่มาถึงคฤหาสน์กว้างขวางหลักร้อยล้านใจกลางกรุง คุณลุงวัยใกล้เกษียณงานเดินเข้ามาหาเขา พูดจาประหลาด ๆ เหมือนจะทิ้งภาระหน้าที่ทุกอย่าง ไม่อยากทำงานซะแล้ว
“ฝากด้วยนะครับ ฝากดูแลคุณเฌอด้วยนะ ตัวลุงคงไม่ไหวเหมือนคนหนุ่ม หลานก็ยังเล็ก”
นั่นเหมือนคำสั่งเสีย! อองเดรทำได้แค่คิด ยิ้มตอบอย่างเต็มใจ
“ครับ ไม่มีปัญหา ผมจัดการให้ไม่ต้องห่วง”
“กล้องในรถ... ลุงไปติดเพิ่มมา คุณกดบันทึกได้ผ่านมือถือ คุณลองทำดูนะ มันสำคัญมาก ๆ คุณดูแลคุณเฌอดี ๆ นะครับ เธอเป็นคนน่ารัก เธอเป็นคนดีครับ” สิ้นคำ คุณลุงในชุดคนขับรถสุภาพก็เดินไป
อองเดรไม่ทันได้อ้าปากถามอะไรต่อ ได้เพียงมองแผ่นหลังของชายวัยหกสิบในเชิ้ตสีขาวจนลับตา ค่อยหันไปสำรวจสถานที่โดยรอบ ทั้งลานจอดรถยนต์ซึ่งมีรถจอดอยู่กว่าสิบคัน ประตูคฤหาสน์สุดหรูอลังการ ดู ๆ ไปแล้วบ้านของคุณหญิงออกจะเหมือนวัง
‘เจ้าของบ้านหลังนี้รวยมาก รวยจริง ไม่ไก่กา’
ชายหนุ่มคิดในใจ ขณะที่เขาคงไม่มีเวลาสอดแนมบ้านคุณหญิงนาน เมื่อในอีกสักพักหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่เดินออกมาส่งลูกสาวหน้าบ้าน ต่างคนกอดลากันด้วยรอยยิ้มอย่างครอบครัวอบอุ่นกลมเกลียว
----------------------------------
เมอร์เซเดสเบนซ์ติดฟิล์มกระจกหนาทึบเคลื่อนมาจอดหน้าประตูไม้สักทองบานใหญ่ ลูกสาวคนเดียวของบ้านรีบชะโงกคอมองหาคุณลุงสารถีที่ไม่มาเปิดประตูให้เธอเหมือนทุกวัน
“วันนี้นั่งข้างหลังกับพี่เขานะลูก ทำไมต้องไปนั่งกับลุงเปี๊ยก”
“ลูกอยากนั่งหน้า ลูกร้อนค่ะ ลูกหอบ”
“ไม่เอาน่ะลูก นั่งหน้านั่งหลังมันไปเกี่ยวอะไรกับโรคหอบหืดคะ ลูกนั่งข้างหลังกับพี่เขานะ อย่าทำให้พี่เอ็มเขาลำบากใจ เขาอุตส่าห์มาทานข้าวกับหนูแต่เช้านะลูก” เสียงหวานว่าพลางจัดแจงเดรสสีขาว ผูกโบสีดำอันใหญ่กลางอกให้พอดีกับปกเสื้อเหนือกระดุมเม็ดบน
เฌอเอมรู้ตัวว่าเธอหนีไม่พ้นศัตรูที่ยืนรออยู่ข้างกายในเช้านี้แน่ คุณหญิงแม่ยังเลื่อนมือมาปัดปอยผมสีน้ำสลวยดัดผมเป็นลอนตามแฟชั่นให้เข้าที่ กวาดสายตาดูว่าเสื้อผ้าของเธอเรียบร้อยดี
“แม่จะให้ลุงเขาเอารถไปดูแอร์พรุ่งนี้นะ ถ้ามันยังไม่เย็นอีกก็เอาเบนซ์อีกคันไปใช้ รถบ้านเรามีตั้งหลายคัน” น้ำเสียงเอาแต่ใจเบี่ยงเบนลูกสาวให้หันมาทางคุณแม่ ยังคงออกคำสั่งไม่เลิก “ไปนั่งข้างหลังกับพี่เอ็มเขา เดินระวังกระโปรงด้วยนะคะลูก”
“ไปได้แล้วน้องเฌอ เดี๋ยวไปสายนะครับ” พูดจบ เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาลายสก็อตก็รีบเปิดประตูรถยนต์ ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณลุงสารถี คุณพ่อในเชิ้ตหล่อเหลาเตรียมตัวไปทำงานก็เข้ามาล่ำลา
“... คนสวยของป๊าไปทำงานดี ๆ นะลูกนะ มีอะไรโทรหาอาป๊าล่ะ”
“ค่ะป๊า ลูกถึงที่ทำงานแล้วไลน์หา” ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงก่อนที่เธอจะยิ้มกลบเกลื่อน ยอมทำตามคำขอของผู้ใหญ่อย่างไม่เต็มใจ แต่เธอยังแปลกใจว่าทำไมคุณลุงไม่มาเปิดประตูให้เธอนั่งด้วยกันด้านหน้า ไม่รู้ว่าเธอทำให้คุณลุงตกที่นั่งลำบากหรือเปล่า
กว่าจะพบว่าคนขับรถไม่ใช่คนที่เธอคิด แถมเธอถูกจับยัดเข้ารถมาโดยไม่ชอบใจเอาเสียเลย รถยนต์สีดำสนิทก็เคลื่อนตัวพ้นประตูรั้วหน้าบ้านไปแล้ว
“น้องเฌอรับเลขาฯ ใหม่ไม่เห็นบอกพี่สักคำ รับต่างด้าวมาทำงานน่ะ มันรู้เรื่องเหรอ”
“เรื่องของฉัน อยากนั่งรถบ้านไอยเรศนักก็นั่งไปเงียบ ๆ ไม่งั้นฉันจะสั่งให้คนขับรถจอด” ทั้งน้ำเสียงและแววตาก้าวร้าว ใบหน้าสดสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนโทนส้มแดงดูนิ่งเฉยทว่าแอบแฝงความโกรธเกรี้ยวอยู่ภายใน ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีหวานที่เม้มปิดสนิทแน่น ชายหนุ่มข้างกายยังคอยมองอย่างนึกขัน
เฌอเอมไม่ค่อยทำกิริยาไม่งามบ่อยนัก กับว่าที่คู่หมั้นของเธอกลับตั้งตัวเป็นศัตรูอย่างโจ่งแจ้ง ต่อให้เขาจะรูปหล่อบ้านรวยมีการศึกษาไม่น้อยหน้าเธอ บรรดาสาว ๆ รายล้อมหน้าหลัง ซ้ำยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัท ทายาทแบรนด์เนมสินค้าจำพวกกระเป๋านำเข้า เป็นลูกเขยคนโปรดของคุณหญิงวริศรา แต่งงานกันไป บริษัท IMR มีแต่ได้ผลกำไรทางการค้ามากขึ้น
“อ้าว... ไม่ใช่ลุงเปี๊ยกนี่ ท่าทางจะเป็นพนักงานใหม่ ดูฉลาดอยู่”
“ขอบคุณครับ” เสียงเข้มตอบอย่างมีมารยาท คนขับรถจำเป็นไม่ได้สนใจผู้โดยสาร มือขยับพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่ถนนหลักซึ่งการจราจรแน่นขนัด อองเดรยังสัมผัสได้ถึงกระแสโทสะอาฆาตอย่างร้ายแรง
“น้องเฌอ พี่ไม่ถือสาเรื่องเมื่อวันก่อน คนอื่นยังเป็นคนอื่นอยู่วันยังค่ำ ยังไงบ้านเราก็ต้องแต่งกัน”
“ป๊าบอกว่าหมั้น แค่หมั้น... ค่อยพิจารณาดูอีกทีว่าใครเหมาะสมกับฉัน”
“สุดท้ายเราก็ตามใจหญิงแม่อยู่ดี คุณหญิงพูดคำไหนคำนั้น เราน่ะ เป็นนกน้อยในกรงทองของคุณหญิงแม่ ต้องเชื่อฟังแม่นะรู้มั้ย”
“ตลกสิ้นดี นกน้อยในกรงทองบ้าบอคอแตกอะไร” เธอแค่นหัวเราะพลันหันไปประจันหน้ากับอีกฝ่าย “ฉันนี่แหละ... อเมริกันพิทบูล” สิ้นคำขู่ฟ่อ ไรฟันขาวสวยที่เห็นเขี้ยวคมตรงมุมปากทำเอาอีกคนหัวเราะตาม
ในเมื่อมันก็น่าแปลก ก่อนหน้านี้เธอเคยอยู่ในโอวาทคุณหญิงแม่ทุกอย่าง วันดีคืนดีลูกคุณหนูแสนเรียบร้อยน่ารักเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาเฉย ๆ หลายคนเพิ่งเห็นกับตาว่าเธอเปลี่ยนไปแค่ไหนในเวลาไม่นาน
“เป็นคนดี ๆ ไม่ชอบจะเป็นหมา อ้อ... หมาจนตรอกหรือ ไหนดูซิว่ากัดเจ็บรึเปล่า” ไม่พูดเปล่า ชายร่างกำยำพลันพุ่งเข้าหาเหยื่อข้างกายที่พยายามปัดป้องตัวเอง แต่แรงน้อยนิดของเธอหรือจะสู้แรงหื่นกระหายของผู้ชายตัวโต ทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยง ซุกปลายจมูกหากลิ่นหอมอ่อนจากเส้นผมนุ่มสลวย จนเฮือกสุดท้าย
พลั่ก!
หน้าผากแข็ง ๆ กลายเป็นประโยชน์ที่สุด หมาบ้าที่ว่ายังไม่จบการต่อสู้ เข้าไปฝังคมเขี้ยวบนต้นแขนเป็นล่ำสันผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด เธอหลับตาปี๋ใช้แรงกรามกัดอย่างไม่คิดชีวิต นั่นคงมากพอทำให้อีกฝ่ายดิ้นพล่าน มอบอิสรภาพให้เธอสักชั่วขณะหนึ่ง ขณะที่เธอคงไม่ลืมหรอกว่าไอ้วัชระมันเป็นพวกซาดิสม์!
