คุณเลขาจำเป็น

34.0K · อัพเดทล่าสุด
MyBebby
26
บท
57
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ตึก ตึก ตึก “สายแล้วยัยริสะเอ๊ย” ฉันก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้รีบวิ่งไปที่เครื่องแทบจะไม่ทันอยู่แล้ว หากว่าฉันพลาดงานที่สิงคโปร์ครั้งนี้ล่ะก็มีหวังได้ไส้แห้งไปอีกหลายเดือนแน่ๆ ตึ่ง! “โอ๊ยยยย” ฉันร้องโอดครวญเสียงดังที่ตัวเองชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง “รีบไปกันเถอะครับนายน้อย ตอนนี้จวนจะได้เวลาแล้ว” ชายคนหนึ่งวัยกลางคนพูดขึ้นกับบุคคลที่ฉันชนเขาจนข้าวของกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น “เป็นอะไรหรือเปล่า” ฉันถามเขาทว่านายนั่นเอาแต่เงียบไม่ตอบอะไร “รีบไปเถอะครับนายน้อย เรากำลังจะสายจริงๆ” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นอีกพร้อมกับพยุงชายร่างสูงใส่แมสปิดปากแถมใส่หมวกเพื่อปกปิดตัวตนของเขาที่ทำให้ฉันเห็นหน้าเขาไม่ชัดนักก่อนที่ตัวเองจะก้มหัวขอโทษชายคนนั้นทว่าทุกอย่างก็เอาแต่เงียบเมื่อนายคนนั้นไม่พูดอะไรเลยสักคำพร้อมกับท่าทางหยิ่งๆ นั่นอีก “นี่! ขอโทษสักคำไม่เป็นหรือยังไงกัน คิดว่าตัวเองดูเท่มากหรือไงย๊ะ!” “…” “หรือว่าเป็นใบ้…” “ขอโทษนะครับพอดีว่าเราต้องรีบไปจริงๆ” ชายวัยกลางคนยังพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินตามเจ้าของตัวเองไปอีกทาง แม้ว่าจะหัวเสียไปบ้างที่ตัวเองโดนกระทำแบบนั้นและความคิดทุกอย่างเริ่มเข้ามาในหัวก่อนที่จะสลัดทุกอย่างออกไปก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้ฉันต้องวิ่งใส่เกียร์หมาเพื่อไปขึ้นเครื่องให้เร็วที่สุดเท่าที่ตัวเองจะไปได้ “ฝากไว้ก่อนเถอะ!! อย่าได้เจอกันอีกเลย”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานผู้ชายอบอุ่นเลขามาเฟียพลิกชีวิตแก้แค้นรักต้องห้ามโรแมนติก

เริ่ม

Start

Kito Talks

“นายน้อยครับ…”

“ผมรู้อยู่แล้วน่า ผมต้องไปคุยงานกับท่านทูตแถมยังต้องไปสัมภาษณ์กับทางนิตยสารอีก” ผมพูดล้อเลียนผู้ช่วยของตัวเองที่ย้ำเตือนงานของผมเป็นรอบที่ร้อยจนผมจำได้ขึ้นใจไปหมดแล้วน่ะ

“ครับ ว่าแต่วันนี้คุณจะไปบาร์โฮสต์อีกหรือเปล่าครับ”

“ไม่ล่ะ ผมเห็นแต่สาวๆ หน้าตาซ้ำๆ จนเบื่อไปหมดแล้ว ผมจะเปลี่ยนเป็นไปเดินเล่นกันดีกว่า”

“ครับ นายน้อย ผมจะได้เตรียมรถไว้ให้”

“ไม่ต้องหรอก เดินไปง่ายดีอีกอย่างผมอยากเดินชมเมืองด้วยน่ะ นานๆ ทีผมจะได้พักผ่อนกับเขาบ้าง”

“ครับ นายน้อย”

“ว่าแต่คุณหาเลขาให้ผมได้หรือยัง มีคนมาสมัครบ้างมั้ย” ผมถามย้ำกับการ์ดส่วนตัวที่ตามผมเป็นเงาอยู่เช่นนี้

“ยังไม่มีเลยครับ ส่วนคนที่มาสมัครผมคิดว่าพวกเขา…อืมมม นายน้อยไปดูสัมภาษณ์เองดีกว่าครับ” การ์ดคนสำคัญของผมกำลังเดินนำไปยังห้องสัมภาษณ์เห็นแผนก HR กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่

แกร่ก

“บอสคะ บอสจะมาดูการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วยหรอคะ”

“ไม่ได้หรอครับ”

“ไม่ใช่ค่ะ แต่เกรงว่าบอสจะเบื่อเอามากกว่าค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก” ผมเดินไปลากเก้าอี้มานั่งฟังสัมภาษณ์พร้อมกับแผนก HR ทันที ผู้คนเข้ามาสัมภาษณ์กันเยอะแยะแต่ไม่มีใครที่จะสามารถเข้าตาผมได้เลย

“คุณหาใครมาให้ผมเนี๊ยะ” ผมเริ่มพูดขึ้นเมื่อเจอแต่ผู้สมัครที่อยากมาทำงานเล่นๆ มากกว่าที่จะจริงจังจริงๆ

“เลขาไงครับ”

“ไม่มีที่ถูกใจเลยสักคน”

“นายน้อยต้องใจเย็นๆ ก่อนนะครับ”

“จะเย็นได้ไงในเมื่อคุณรับแต่ใครมาสัมภาษณ์กับผมกันแน่”

“เอ่อ บอสคะ พวกเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ นะคะ แต่ความเรียบร้อยของผู้ที่มาสมัครอาจจะยังไม่เข้าตา เดี๋ยวมะลิจะรีบหาเลขาที่ฝีมือดีมาให้บอสเลยค่ะ”

“เอาล่ะๆ ช่างเถอะ แต่ยังไงก็ช่วยเร่งมือกันให้หน่อยนะครับ”

“ได้ค่ะ บอส” ผมเดินออกมาด้วยหน้าตาที่หมดอารมณ์เดินไปดูพนักงานในห้องถัดไปเรื่อยๆ จนมาจบที่ห้องทำงานของตัวเอง

แกร่ก

ผมเปิดขวดไวน์รินใส่แก้วจ้องมองวิวบนตึกสูงพลางนึกถึงผู้หญิงที่ตัวเองเดินชนคนนั้นขึ้นมาทันที แม้ผมจะมองหน้าเธอไม่ชัดนักก็ตามแต่ก็ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่เคยลืมเธอได้เลย

“นายน้อยครับ ผมเตรียมรถไว้ให้แล้ว เราจะไปกันเลยมั้ยครับ”

“อืม”

30 นาทีผ่านไป

ผมใช้เวลาอยู่นานวนทำแต่เรื่องงานซ้ำๆ จนไม่มีเวลาได้พักผ่อนที่ตัวเองต้องไปที่นั่นที่นี่ไปเรื่อยเปื่อยกว่าจะมองเห็นอายุของตัวเองที่มากขึ้นในทุกวันกว่าจะรู้ตัวอีกทีผมก็อายุปาเข้าไปสามสิบแล้วและงานที่ผมทำมันก็มากพอที่จะให้ผมได้มีเวลาได้พักบ้าง

“เราไปคลับกันเถอะ”

“ครับ นายน้อย”

End

Kito Talks

ณ ประเทศสิงคโปร์

“ริสะ ใช่มั้ย บอสรออยู่ในห้องแล้ว” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“ค่ะ”

แกร่ก

“ริสะ ผมมีเรื่องนึงอยากให้คุณช่วยหน่อย”

“อะไรหรอคะ บอส”

“ผมสงสัยว่าผู้ชายคนนี้จะมีส่วนร่วมในการเป็นมาเฟียรายใหญ่ของญี่ปุ่น”

“แล้วเราจะแน่ชัดได้ยังไงคะ”

“เขาจะมีรอยสักมังกรอยู่ที่ตัว แก๊งนี้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ริสะต้องระวังตัวด้วย ผมคิดว่าเราจะเข้าถึงเขาค่อนข้างยาก แต่ตามสืบเรื่องราวมาแค่นั้นก็พอที่เหลือผมจัดการเอง”

“โอเคค่ะบอส แล้วนี่เป็นรูปภาพของเขาหรอคะ” ฉันกวาดสายตามองไปยังรูปภาพที่โดนแอบถ่ายก่อนจะขอบางส่วนเพื่อเอาไปสืบค้นต่อไป

“หมดเรื่องแล้ว ริสะกลับได้เลยนะ”

“ขอบคุณค่ะบอส ริสะจะรีบสืบมาให้บอสให้เร็วที่สุดเลยค่ะ” ฉันก้มหัวให้หัวหน้าก่อนจะรีบออกไปนอกห้อง แอบกรี๊ดกับตัวเองเบาๆ ที่ได้งานนี้มาทำก่อนจะรีบบินกลับไทยเพื่อที่จะสืบเรื่องราวนี้ต่อ

“ในที่สุด ฉันก็ได้งานนี้ ว่าแต่ฉันจะเริ่มจากตรงไหนดีนะ” เอาเข้าจริงพอมาคิดๆ ดูแล้วข้อมูลที่ฉันได้มาค่อนข้างน้อยจนไม่รู้จะเริ่มตั้งแต่ตอนไหน

เฮ้ออ~

กว่าจะได้แต่ละงานนี่มันก็ใช้เวลาเยอะเหมือนกันนะ ฉันจ้องมองรูปบนมือที่ได้มาลองกลับหัวซ้ายขวาอยู่นานก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีรอยสักรูปมังกรนั่นสักที

ติ๊ด ติ๊ด

ข้อความจากใครบางคนเด้งเข้ามาบนโทรศัพท์ก่อนที่ฉันจะกดดู สายรายงานว่าเขาจะเข้าไปที่คลับแห่งนึงในวันเสาร์นี้ยิ่งเหมือนเปิดโอกาสให้ตัวฉันได้เข้าใกล้กับเขามากขึ้นจนต้องรีบตีตั๋วบินกลับไทยให้เร็วที่สุด