บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

คำสั่งของระพีวิชญ์ถึงจะทำความลำบากใจให้คุณทับทิมไม่น้อย แต่กระบวนการเฟ้นหา “สุดยอดเลขา” ก็ ‘ต้อง’ กระทำขึ้นทันที และอีกสิ่งหนึ่งที่...ทันที...เหมือนกันก็คือ

“หาเลขาใหม่!”

เสียงผู้สื่อข่าวหัวเห็ดรายงานข่าวด่วน เพิงส้มตำริมถนนไม่ห่างจากบริษัทถูกสถาปนาขึ้นเป็นสำนักข่าวไทยชั่วคราว

“หา! อีกแล้วเรอะ” หญิงสาววัยปลายๆรุ่น (คือวัยรุ่นเหมือนกันแต่รุ่นตอนปลายๆ ) อุทานแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยดังลั่น ทำเอาผู้สมรู้ร่วมคิดในขบวนการ ‘ นินทานาย’ ทั้งหลาย พากันสะดุ้งแทบตกเก้าอี้ไปตามๆ กัน

“นี่! นังจิ้มลิ้มพริ้มเพรา หล่อนจะตะโกนหาสวรรค์วิมานอะไรยะ แก้วหูฉันแทบร้าวแน่ะ”

“เออ...ฉันขอโทษ ก็มันตกใจนี่หว่า”

“ตกใจอะไรนักหนายะ” หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการส่งสายตาปรามหญิงร่างเจ้าเนื้อตรงหน้าอย่างหมั่นไส้นิดๆ หากแม่จิ้มลิ้มที่ตัวเล็กกว่าช้างพังนิดเดียวกลับไม่สะดุ้งสะเทือน นั่งจีบปากจีบคอพูดต่อไป แถมอีกมือยังยึดน่องไก่ย่างที่ถูกแทะไปบางส่วนไว้ไม่ยอมปล่อย

“แหม...ไม่ต๊กกะใจยังไงไหว ภายในเวลาแค่ 2 เดือน ท่านลอร์ด เอ้ย! คุณระพีเจ้านายคนใหม่ของพวกเราน่ะ เปลี่ยนเลขาฯ ไปทั้งหมด...1...2...3...4...ฮ้า!”

แม่พังแป้นแผดเสียงสิบแปดหลอดอีกครั้ง คราวนี้ใช่แต่ผู้ร่วมขบวนการเท่านั้น หากคนในร้านก็แทบพลัดตกเก้าอี้ไปด้วย

“ว้ายๆ อะ...อะไรอีกยะยัยจิ้มลิ้ม ร้องยังกะหมูถูกน้ำร้อนลวก” คนถูกน้ำร้อนลวกหันไปค้อนเพื่อนปะหลับปะเหลือก ก่อนสาธยายต่อ

“สิบ...สิบเอ็ดคน รวมคุณวัลภาอีกคนก็...ครบโหลพอดี!”

“2 เดือนเปลี่ยนเลขา 1 โหล ทำยังกับเปลี่ยน กกน.แน่ะ” แล้วเพื่อนร่วมวงก้ผลัดกันออกความเห็น...

“น่าสงสารคุณวัลภานะ เพิ่งทำงานได้ 3 วันเองไม่ใช่เหรอ”

“นั่นสิ เมื่อเช้าฉันเห็นถูกหามออกมาจากห้องบิ๊กบอส หน้างี้ซี้ดซีด”

“ก็เฮี้ยบออกจะตาย ใครจะไปเอาใจพี่แกถูกวะ”

“หน้าตาก็ออกล้อหล่อ แต่ทำไมพี่แกถึงดุได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้นะ”

“คุณระพีน่ะ ปีศาจชัดๆ”

“แล้วนี่แล้วนี่คุณทับทิมจะไปหาที่ไหนกัน เลขาที่มีคุณสมบัติเป็นซูเปอร์เกิร์ลขนาดนั้น...”

ผู้ร่วมขบวนการทั้งหลายต่างพยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วยเต็มที่ แต่ไม่มีใครทันสังเกตว่ามีใครอีกคนหนึ่ง ‘แอบฟัง’ เอ้ย! ได้ยินบทสนทนานั้นเข้าโดยบังเอิญ

หากใครเดินผ่านเพิงส้มตำกลางเก่ากลางใหม่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงๆ สุดหรูหลายตึกในย่านเศรษฐกิจที่แสนพลุกพล่านแห่งนั้นในเวลานี้ คงต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้พบกับหญิงสาวอายุไม่น่าจะเกิน 20 ต้นๆคนหนึ่ง ที่หน้าตาท่าทางรวมไปถึงการแต่งเนื้อแต่งตัวดูจะไม่ได้เข้ากับบรรยากาศรอบกายแม้แต่น้อย ใบหน้างามที่ถูกแต่งอย่างโฉบเฉี่ยวออกจะ “ล้ำ” มากกว่า “ทัน” สมัยที่ตอนนี้ดูเหยเกเพราะความเผ็ด กับผิวขาวนวลเพราะอยู่กับอากาศหนาวเย็นมานาน ตอนนี้ออกขาวอมชมพูนิดๆ แดงหน่อยๆ เพราะไม่ชินกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวราวกับอยู่ในเตาอบไก่แบบนี้ หรืออาจเป็นเพราะเมนูเด็ด “ส้มตำปูปลาร้า” รสแซ่บที่เมื่อแรกสั่งก็ทำเอาคนเป็นเจ้าของร้านส้มตำถึงกับเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ

ก็สั่งเข้าไปได้ไง้...ส้มตำปูปลาร้าใส่พริกตั้งยี่สิบเม็ด หน้าตาคนสั่งก็ไม่ได้บ่งบอกซักนิดว่ามาจากแถบอีสานบ้านเฮาที่นิยมรสชาติ “แซ่บอีหลี” แถมด้วยไก่ย่างหลายไม้ กับข้าวเหนียวอีก 2 กระติ๊บใหญ่ๆ เอวบางร่างน้อยออกปานนั้นใครจะไปรู้ว่าเจ้าหล่อนจะกินจุยังกะยัดกระสอบ

“ป้าคะ ขอน้ำเปล่าอีกขวด ไม่ๆ เอา 2 ขวดใหญ่ๆเลยดีกว่า อ้อ…น้ำแข็งเปล่าอีกเหยือกด้วยนะจ๊ะ ซี้ด...”

แม้เสียงใสๆ จะตะโกนหาน้ำดื่มลั่นร้าน แต่มือก็ไม่หยุด โซ้ย ส้มตำเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พลางสูดปากเพราะเผ็ดไปด้วย

นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ ขวัญฟ้า ทวิชากร ไม่ได้นั่งกินอาหารโปรดรสแซ่บแบบนี้ มีเหมือนกันที่เข้าไปนั่งกินในภัตตาคารไทยสุดหรูในต่างแดน แต่รสชาติมันไม่ได้ถึงใจไทยแลนด์เหมือนนั่งกินข้างถนนแบบนี้นี่นา กินไปปาดเหงื่อไปนั่งดูชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพลินจะตาย ใครว่าอยู่กรุงเทพแล้วน่าเบื่อ สำหรับตัวหล่อนแล้วน่าอยู่ออก ยิ่งเรื่องที่เผอิญได้ยินมาเมื่อกี้ยิ่งน่าสนุกใหญ่ กำลังคิดอยู่เชียวว่ากลับมาเมืองไทยคราวนี้จะมาทำอะไรดี อยู่ดีๆ ก็มีงานสนุกๆ มาท้าทายความสามารถอย่างนี้ น่าลองทำดูซักตั้ง อยากรู้นักว่า “อีตาปีศาจ” คนนั้นจะร้ายกาจขนาดไหนเชียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel