บท
ตั้งค่า

3

“โอ๊ย!” นันทวดีล้มลงหน้าบ้าน ก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“ถ้าแกไม่สำนึก ไม่รู้จักขอโทษ แกก็นอนหนาวอยู่หน้าบ้านนี่แหละ” ประตูถูกปิดลงโครมใหญ่ ทำเอานันทวดีน้ำตาซึม

หลังจากมารดาเสียชีวิต บิดาก็มีภรรยาใหม่ เธอจึงกลายเป็นคนนอกสายตา ไม่เป็นที่ต้องการของบิดาอีก

หมาหัวเน่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง!

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นเพื่อนสาวคนสนิทที่โทร. มา เธอจึงกดรับในทันที

“ทำอะไรอยู่จ๊ะวดี”

“วดีโดนไล่ออกจากบ้าน”

“แล้วตอนนี้วดีอยู่ไหน รุ่งจะไปรับ” รุ่งฤดีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“อยู่หน้าบ้านจ้ะ”

“รออยู่นั่นก่อนนะ เดี๋ยวรุ่งไปรับเอง” รุ่งฤดีรีบขับรถไปรับเพื่อนรักมาที่บ้านในทันที

“เรื่องราวมันเป็นยังไงไหนเล่าให้รุ่งฟังสิ” รุ่งฤดีเอ่ยถามเมื่อพาเพื่อนมาถึงบ้าน

“พ่อเชื่อคำน้าตา ไล่วดีออกจากบ้าน”

“เลวมาก!” รุ่งฤดีรู้สึกโกรธแทนเพื่อน แต่เมื่อเห็นสีหน้าหมองเศร้าของเพื่อนก็นึกสงสารไม่น้อย

“เราไม่รู้จะไปอยู่ไหน ไม่มีอะไรติดตัวเลย มีแค่บัตรประชาชนกับกระเป๋าสตางค์ใบเดียว”

“มาอยู่กับรุ่งก่อน เลิกคิดเรื่องไม่สบายใจได้แล้ว”

“วดีเกรงใจ”

“จะเกรงใจอะไรกันนักหนาเราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่เหรอ”

“ยิ่งเป็นเพื่อนรักยิ่งต้องเกรงใจ”

“พูดแบบนี้รู้สึกน้อยใจจังเลย เป็นเพื่อนกันก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันสิ ถ้าเพื่อนมีความทุกข์แล้วไม่ช่วย นี่เรียกว่าไม่ใช่เพื่อนแท้นะ”

“ขอบใจรุ่งมากนะ รุ่งเป็นเพื่อนที่ดีของวดีจริง ๆ” นันทวดีรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอันมาก ตั้งแต่เล็กจนโตมีแค่รุ่งฤดีที่เป็นเพื่อนแท้ในยามยาก

“วดีเป็นคนดีแล้วก็มีน้ำใจช่วยเหลือรุ่งเหมือนกัน ถือว่าเราช่วยเหลือกันยามยากนะจ๊ะ” เธอเรียนไม่ค่อยเก่ง ก็ได้นันทวดีนี่แหละที่ช่วยติวหนังสือให้สอบผ่านมาได้ทุกวิชา จนใกล้จะเรียนจบแล้ว ถ้าไม่ได้นันทวดีเธอคงสอบไม่ผ่านแน่ ๆ เพื่อนมีน้ำใจกับเธอ เธอเองก็ต้องมีน้ำใจกับเพื่อนเช่นเดียวกัน

“วดีเกรงใจอาของรุ่งด้วย อาพีร์จะว่าอะไรหรือเปล่า”

“อาพีร์ไม่ว่าหรอก วัน ๆ ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน อาพีร์ทำแต่งาน ไม่ก็เดินทางไปโน่นมานี่ รุ่งอยู่บ้านคนเดียวเหงาจะตายไป วดีมาอยู่เป็นเพื่อนน่ะดีแล้ว รุ่งจะได้มีเพื่อนไม่เหงาอีกต่อไป”

“จ้ะ”

“ไม่ต้องคิดมากเรื่องอาพีร์ รุ่งบอกอาพีร์แล้วว่าจะพาวดีมาอยู่ด้วย”

“บอกตอนไหนจ๊ะ” นันทวดีเอ่ยถามอย่างตกใจ

“ก่อนไปรับวดีนั่นแหละ คิดว่าอีแม่เลี้ยงสารพัดพิษคงไม่ยอมให้วดีเข้าบ้านง่าย ๆ แน่ เราก็ไม่ต้องไปง้อ ไล่เรายังกะหมูกะหมา ออกมาจากบ้านก็ออกมาสิ พ่อของวดีก็เหมือนกัน หลงเมียใหม่จนโงหัวไม่ขึ้น อุ๊ย! รุ่งขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าพ่อของวดีเลยนะจ๊ะ” รุ่งฤดีรีบเอ่ยขอโทษเมื่อเห็นว่าใบหน้าของเพื่อนหมองลงไปถนัดตา

“ช่างเถอะ พ่อก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ”

“หิวไหมจ๊ะ รุ่งรู้ว่าวดีเครียด ก็เลยสั่งอาหารอร่อย ๆ มากินกัน”

“นี่ไปสั่งตอนไหน” นันทวดีเอ่ยถามอย่างประหลาดใจอีกรอบ

“ก่อนไปรับวดีไง รุ่งหิวมาก ๆ ยังไม่ได้กินอะไรเลยจ้ะ”

“วดีขอโทษนะ ทำให้รุ่งต้องออกไปรับ เลยไม่ได้กินข้าว”

“ไม่ต้องขอโทษจ้ะ แต่ถ้าอยากไถ่โทษต้องกินข้าวเป็นเพื่อนรุ่งนะจ๊ะ” รุ่งฤดีมักห่วงใยเธอเสมอ

“ส่วนเรื่องอาพีร์ไม่ต้องกังวลไป อาพีร์น่ะอาจจะทำหน้าโหด หน้าดุ หน้ายักษ์เป็นเรื่องปกติ” คนพูดทำหน้าแบบนั้นออกมา ทำให้นันทวดีหลุดขำท่าทีของเพื่อนไม่น้อย

“ในที่สุดก็ยิ้มแล้ว จริง ๆ แล้วอาพีร์ใจดีมากๆ เชียวนะ แต่อย่างว่าแหละ ชอบทำหน้าแบบนี้เลยไม่มีเมียสักที”

“นินทาอะไรอาอยู่หึ!” เสียงของพีรณัฐ ทำเอานันทวดีนั่งตัวเกร็ง เพิ่งจากกันเมื่อไม่นานมานี้ ต้องมาเจอเขาอีกอย่างนั้นเหรอ เธอรู้สึกทำหน้าไม่ถูกเอาเสียเลย แต่จริง ๆ นี่ก็เป็นบ้านของเขา เขาจะเข้าออกเป็นเรื่องปกติ เธอต่างหากที่เป็นแขก ต้องเป็นคนเกรงใจเขาสิ

“อาพีร์มาพอดีเลยค่ะ มากินข้าวด้วยกันสิคะ วันนี้รุ่งสั่งอาหารมาเยอะแยะเลย รุ่งขอให้วดีมาอยู่ด้วยกัน อาพีร์อนุญาตแล้วนะคะ” รุ่งฤดีย้ำผู้เป็นอา พีรณัฐก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่พยักหน้าให้เท่านั้น ก่อนที่ทั้งสามจะนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน

“อาพีร์คะ ตักปลาผัดขิงของโปรดให้วดีหน่อยสิคะ รุ่งตักไม่ถึง เราเป็นเจ้าบ้านก็ต้องดูแลแขกให้ดีใช่ไหมคะ” รุ่งฤดีหันไปเอ่ยกับพีรณัฐด้วยรอยยิ้มน่ารัก

“ไม่เป็นไรจ้ะ เราตักเองได้”

“ตักได้ยังไง อยู่ตั้งไกล” สิ้นประโยคนั้นพีรณัฐก็ตักอาหารให้เพื่อนของหลานสาวในทันที

“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณเขา เผลอสบตากันเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหลบสายตาคมคู่นั้น

“เพื่อนของรุ่งมาอยู่ด้วย อาพีร์ห้ามทำหน้าดุ ทำหน้ายักษ์ แล้วก็ทำหน้าบึ้งนะคะ”

“ปกติอาทำแบบนั้นด้วยเหรอ” พีรณัฐขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ทำบ่อยสิไม่ว่า อาพีร์น่ะชอบทำหน้าดุใส่คนอื่น”

“อย่างนั้นเหรอ”

“ต่อจากนี้ไปต้องยิ้มให้มากๆ นะคะ เดี๋ยวเพื่อนรุ่งหนี ไม่กล้าพักที่นี่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel