EP2
ท่ามกลางผู้คนมากมายในชั่วโมงเร่งด่วน มะลิแทรกตัวขึ้นไปยืนเบียดอยู่บนรถไฟฟ้าใต้ดินอย่างฉิวเฉียด เธอพลิกดูนาฬิกาข้อมือก็ใจเต้นระทึก เพราะเหลือเพียงเพียง ๑๐ นาทีเท่านั้น ที่เธอจะต้องไปรายงานตัวกับหัวหน้าแผนกที่เธอเข้าฝึกงาน หญิงสาวนึกโทษตัวเองที่ไปสอดรู้สอดเห็นอะไรบางอย่างของคนข้างบ้าน จนทำให้เธอนอนไม่หลับ แล้วก็ตื่นสายจนได้
หญิงสาวลงจากรถไฟใต้ดินได้ก็รีบขึ้นมาต่อวินมอเตอร์ไซด์หน้าสถานีรถไฟฟ้าด้วยความรวดเร็ว จนกระทั่งถึงหน้าบริษัทด้วยอาการหอบเล็กน้อย และในระหว่างรอลิฟท์นั้น พนักงานหลายคนที่เตร็ดเตร่อยู่บริเวณนั้น ทักทายใครบางคนอยู่ มะลิยืนตัวลีบอยู่ข้างใครคนหนึ่ง
ประตูลิฟท์เปิดออก มะลิแทรกตัวเข้าไปในลิฟท์อย่างรวดเร็ว ขณะที่ใครหลายคน หลีกทางให้กับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับเลขานุการคนหนึ่ง ก่อนจะเลิกคิ้วมองเธอด้วยความแปลกใจ ขณะที่เลขานุการสาวของเขามองหน้าเธอด้วยสายตาตำหนิ
เธอเอื้อมมือกดลิฟท์ชั้นบริหารแล้วปรายตามองหญิงสาวหมิ่นๆ มะลิค่อยๆ ขยับตัวออกมาเพื่อกดลิฟท์ชั้นของตัวเอง
“ไปคุยกับอาที่ห้องก่อน”
อังเดรคว้ามือเธอไว้แล้วหันมายิ้มกับมะลิ ส่วนเลขานุการสาวหันกลับมามองเธอด้วยสายตาจิกกัดและไม่พอใจอย่างรุนแรง
ลิฟท์เปิดออก อังเดรเชิญให้มะลิออกมาก่อน แล้วพาเดินไปที่ห้องทำงานองเขา โดยมีเลขานุการเดินตามหลัง
“คุณรออยู่ข้างนอกก่อน”
เขาหันมาสั่งเธอ ก่อนจะปิดประตูแล้วพามะลิเข้าไปเพียงลำพัง
ทันทีที่ประตูปิดลง สาวๆ ในออฟฟิศที่ทำงานกันอยู่ก็กรูเข้ามาหา เลขานุการสาวสวย
“จรรยา นั่นคุณอังเดรคว้าเด็กกะโปโลที่ไหนมาน่ะ”
“เด็กฝึกงาน แผนกไหนก็ไม่รู้”
เลขานุการตอบแล้วเดินอย่างงอนๆ ไปที่โต๊ะทำงานตัวเองที่อยู่ด้านหน้าห้องอังเดรแล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างโมโห หลายคนอมยิ้ม.. เพราะรู้ว่า จรรยาเล็งอังเดรไว้ตั้งแต่เขาเข้ามาตรวจสอบงานที่นี่ และไม่ใช่แค่จรรยา แต่ยังมีอีกหลายคนก็เล็งชายหนุ่มไว้เช่นนั้น
“คุณอังเดรเขาอาจจะเรียกมาอบรมก็ได้ เพราะน่าจะมาทำงานสาย เด็กฝึกงานต้องรายงานตัวก่อน ๙ โมงเช้า แต่นี่มัน ๙ โมงครึ่งแล้ว” สาวๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์
“บางทีเขาอาจจะเรียกเด็กคนนั้นมากันตัวเขาไว้กระมัง กลัวพวกไก่แก่แม่ปลาช่อนน่ะ”
น้ำเสียงเสียดสีเย้ยมาไกลๆ จากมุมหนึ่งของห้อง จรรยาหันขวับไปมอง “สมศรี” พนักงานซึ่งมีอาวุโสที่สุดมองลอดแว่นคืนอย่างไม่เกรงกลัว จนหญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมที่จะต่อปากต่อคำด้วย
กริ๊งงงงง !!!! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแทรก ราวกับระฆังหมดยกให้แยกย้าย
“สวัสดีค่ะ หน้าห้องคุณอังเดรค่ะ”
******
“นั่งก่อนซิมะลิ”
“ค่ะ”
มะลินั่งตัวลีบอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม รู้สึกเหมือนตัวเองตัวลีบเล็กลงทุกที ห้องทำงานของเขากว้างขวาง มีวิวกระจกด้านหลัง เป็นตึกสูงสวยของกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร
“มาทำงานวันแรก มาไม่ทันรายงานตัวใช่ไหม?”
มะลิพยักหน้ารับ รู้สึกอึดอัด เพราะให้หัวหน้าแผนกดุเธอ ก็ยังจะดีกว่ามานั่งตัวลีบอยู่หน้าอังเดร เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบบัญชีจากบริษัทใหญ่
“อาบอกเขาแล้วล่ะว่า อาจะขอมะลิให้มาฝึกงานกับอา”
“อะไรนะคะ”
“ไม่ดีเหรอ?”
เขาทำหน้าสงสัย ที่หญิงสาวตรงหน้าทำท่าประหลาดใจ
“ก็มะลิอยู่ข้างบ้าน ออกมาพร้อมอา แล้วก็กลับพร้อมอา จะได้ไม่ต้องมาทำงานสายไง”
“แต่คุณอาคะ...ลิมาฝึกงานบัญชีนะคะ ไม่ใช่ฝึกงานเลขานุการ”
มะลิแย้งเสียงอ่อยๆ ใจหนึ่งอยากใกล้ชิดเขาเหมือนกัน แต่อีกใจก็กลัวว่า หัวใจของตัวเองจะไขว้เขว
“ก็ไม่ได้ให้มาฝึกงานเลขานุการ ให้มาฝึกงานในแผนกอานี่แหละ อามาที่นี่เพื่อตรวจสอบบัญชีนะครับ”
“เอ่อ...แต่ว่าคุณอาคะ...มันไม่เหมาะมั้งคะ”
“ไม่เหมาะเรื่องอะไร”
“ก็ที่เราจะไปกลับด้วยกันน่ะค่ะ อีกอย่างคุณอาต้องตรวจสาขาด้วยไม่ใช่หรือคะ?”
อังเดรนิ่ง คิดๆ แล้วยิ้มกว้าง
“เอาอย่างนี้ก็แล้ว เวลามาทำงาน เรามาด้วยกัน แต่เวลาเลิกงาน ถ้าอาไม่ติดธุระข้างนอกค่อยกลับด้วยกัน ดีไหม?”
มะลิยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง กระทั่งอังเดรกดอินเตอร์คอมเรียกพนักงาน
“เรียกคุณสมศรีมาหาผมด้วย”
