EP1
มะลิหอบตำราเรียนเดินเข้ามาในบ้าน ท่าทางร่าเริง วันนี้เป็นวันที่เธอสอบเป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้ก็จะหยุด เธอจะได้พักผ่อนอีกหลายวันกว่าจะถึงกำหนดฝึกงานที่เหลือ แล้วทำเรื่องสำเร็จการศึกษา มะลิเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เธอเป็นดาวคณะศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยมีชื่อของเมืองไทย เรียนดี และกิจกรรมเด่น ทว่า....ยังโสด ไม่ใช่ว่าไม่มีใครจีบเธอ แต่เธอไม่เคยชายตามองใครเลย เธอสนใจก็แต่ นนท์ รุ่นพี่คณะคนหนึ่ง..ซึ่งเขาเองก็มีคู่อยู่แล้ว และเธอทำได้แต่เพียงเฝ้ามองเท่านั้น
ปริ๊น! ปริ๊น!
เสียงบีบแตรจากรถคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าบ้าน เธอหันกลับไปพร้อมกับเจ้าของรถที่กำลังเปิดประตูรถลงมา เขาสวมแจ๊คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าหนังขัดมัน และพอเขาหันมามองหน้าเธอ หัวใจของหญิงสาวแทบหยุดเต้น
“สวัสดีครับ”
เขาค้อมศีรษะให้กับเธอ พร้อมถอดแว่นกันแดดสุดเท่ห์จากใบหน้าหล่อคมของเขา มะลิไม่อยากจะเชื่อเลยว่า...นอกจากพี่นนท์ นักกีฬารุ่นพี่ของคณะว่าหล่อแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงนี้ ผมสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าสลักเสลาราวเทพบุตรกรีกหลุดออกมาจากรูปปั้นแล้วมายืนตรงหน้าเธอ
“เอ่อ ค่ะ สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวยกมือไหว้โดยอัตโนมัติ ท่าทางเงอะงะ ขัดเขิน
“ผมเป็นคนที่โทร.มาแจ้งว่าจะเช่าบ้านหลังนี้ครับ”
เขาชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ติดกับบ้านของเธอ มะลิชะงัก นึกในใจว่าในที่สุดบ้านที่เธออยู่มาตั้งแต่เด็กก็มีคนมาอยู่เสียแล้ว
เดิมที ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินผืนเดียวกัน มีนางจรัญย่าของเธอเป็นเจ้าของ พ่อของมะลิ เป็นคนไทยแท้ชื่อกรุณ ส่วนแม่ชื่อเมย่า เป็นลูกครึ่งอังกฤษ เมื่อพ่อแต่งงานกับแม่ จึงสร้างบ้านแยกออกมาจากบ้านใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด เหมือนบ้านหลังหนึ่ง แต่พอย่าเสียชีวิตลง จึงยกมรดกเป็นที่ดินแปลงนี้ให้พ่อทั้งหมด
กรุณพาครอบครัวย้ายมาอยู่บ้านย่า เพราะหลังใหญ่กว่า มีพื้นที่มากกว่า ส่วนบ้านหลังเดิมก็ปล่อยเช่า..และเพิ่งจะมีชายหนุ่มคนนี้ เป็นผู้เช่ารายแรก
“อ้อ..ค่ะ คุณแม่แจ้งไว้แล้วว่าเพื่อนคุณพ่อจะมาขอเช่าที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจะมาวันนี้”
มะลิเดินไปวางหนังสือที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใกล้รั้ว แล้วเดินออกจากรั้วไปเปิดประตูรั้วบ้านให้เขา ขณะเดียวก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาที่บ้าน
“คุณพ่อมาพอดี”
อังเดรมองตามรถที่ขับเข้าไปจอดในบ้านยิ้มๆ แล้วหันมามองหญิงสาว
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
หญิงสาวพยักหน้า ในระหว่างที่รอกรุณเดินมาคุยกับ
อังเดรที่หน้าบ้าน หญิงสาวก็แทบจะตีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะขอตัวเข้าไปในบ้าน หรือจะยืนอยู่ตรงนี้ดี ใจของเธอสั่นๆ หวิวๆ เธอบอกตัวเองว่า เขามีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ
ก็ไหนว่า คนเช่าบ้านเรือนเล็ก เป็นเพื่อนของพ่อ เธอก็นึกว่าเป็นฝรั่งแก่ๆ เสียอีก
“มะลิ รู้จักคุณอาอังเดร เพื่อนของพ่อซิ ปีนี้เขาจะมาตรวจสอบบัญชีที่บริษัทในเมืองไทย”
มะลิยักมือไหว้อังเดรอีกครั้ง
“ลูกสาวผมเอง ชื่อมะลิ กำลังจะจบมหาวิทยาลัยปีนี้ รอฝึกงานเสร็จก่อน เออ..จะไปฝึกงานที่บริษัทไหนนะ มะลิ”
“NYT ค่ะคุณพ่อ”
อังเดรเลิกคิ้วแล้วยิ้มๆ ขณะที่กรุณหัวเราะร่วน
“มีอะไรหรือคะคุณพ่อ”
“ก็บริษัทนั่น มันบริษัทในเครือของอังเดรเขาน่ะซิ”
มะลิเบิกตาโต จ้องอังเดรด้วยความตกตะลึง นี่เธอเจอเขาที่บ้านยังไม่พอ ไปฝึกงานยังต้องเจอเขาอีกเหรอ ตายแล้ว....แค่นี้หัวใจของเธอก็เต้นระรัวไม่หยุดอยู่แล้ว
“ยินดีครับ..ผมยังไม่เข้าไปบริษัทเลย คนไทยเขาว่ายังไงนะครับ ที่เรื่องบังเอิญแบบนี้เกิดขึ้น”
มะลิทำหน้างงๆ กรุณก็งงด้วย
“นับเป็นวาสนาต่อกัน...ใช่ไหมครับ”
“อื้ม...จะว่ายังงั้นก็ได้ เอาๆ คุณเข้าไปดูบ้านก่อน ผมให้แม่บ้านไปทำความสะอวดไว้แล้ว ถ้ายังไง ๖ โมงเย็นวันนี้ ผมเชิญคุณมารับประทานอาหารที่บ้านผมนะครับ จะได้แนะนำภรรยาผมให้รู้จักกันไว้ นี่ครับกุญแจ” กรุณยืนกุญแจให้
“ขอบคุณครับ”
เขารับกุญแจแล้วยิ้มให้กรุณและมะลิ ก่อนจะขึ้นรถขับเข้าไปที่บ้านเช่า มะลิมองตามอังเดรไปด้วยความสนใจ
“เป็นไงยัยหนู มองเขาเหมือนแปลกใจยังงั้นล่ะ”
“ก็แปลกใจจริงๆ นี่คะ ลิคิดว่า เพื่อนคุณพ่อจะอายุมากกว่านี้เสียอีก”
“อังเดรก็อายุไม่น้อยหรอก อ่อนกว่าพ่อไม่ถึง ๑๐ ปีหรอก แต่เขาดูเด็กกว่าอายุเท่านั้น”
“คะ?....คุณอาอังเดร อายุ ๔๐ แล้วเหรอคะเนี่ย”
มะลิอุทานด้วยความตกใจ เธอนึกว่าเขาอายุ ๓๐ เศษ เสียอีก โอ้...ตายแล้ว เธอเคยเห็นแต่ฝรั่งที่หน้าแก่กว่าอายุ เพิ่งจะเคยเห็นฝรั่งที่หน้าเด็กกว่าอายุก็คราวนี้แหละ
