ตอนที่3. ฝาดลิ้น
“อ่า...รู้สึกฝาดๆ ลิ้นจัง”
“ดื่มแบบนั้นจะไปรู้รสอะไร” เขาหัวเราะอารมณ์ดี ทั้งที่วันนี้เคร่งเครียดมาทั้งวัน เขาเติมไวน์ให้เธอและของตัวเองก่อนพูดต่อ
“หมุนวนแก้วไวน์ เพื่อให้ไวน์ขยายวงกว้างขึ้น ทำแบบนี้จะเพิ่มการสัมผัสกับอากาศของไวน์ ทำให้กลิ่นของไวน์เข้มข้นขึ้น ต้องหมุนไวน์โดยจับแก้วที่ฐานหรือก้าน”
เขาพูดพลางสาธิตให้เธอดู
“ดมไวน์ในขณะที่คุณหมุนวน เพื่อให้ได้กลิ่นหอม กลิ่นทั่วไปของไวน์ จะมีกลิ่นของผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร และดอกไม้ต่างๆไวน์จะดีที่สุดเมื่อจิบและลิ้มรส เมื่อเทียบกับการกลืนลงไป จิบไวน์ขนาดเล็กถึงปานกลาง และอมไว้ตรงกลางลิ้นก่อนกลืน วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่ซับซ้อนของไวน์...”
“ยากจัง” เธอเบ้ปากก่อนยกดื่มรวดเดียวหมด “อ๊า! ไม่อร่อย”
โจวเจียอีมองหญิงแลบลิ้นสีชมพูออกมา ท่าทางเหมือนแมวน้อยทำให้เขาหลุดหัวเราะอย่างไม่เคยทำมาก่อน เสียงทุ่มต่ำของเขาทำให้เธอกำหมัดชกไปที่แผ่นอกอีกฝ่าย แต่เพราะมึนเมาอยู่จึงไม่แรงนัก
ชายหนุ่มคว้าข้อมือเธอแล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยก็ดึงเธอมานั่งบนตักได้อย่างง่ายดาย และก่อนที่หญิงสาวจะรู้ตัว เขาก็จัดการถอดแว่นตาของเธอออก ฝ่ามือใหญ่ลูบแก้มเนียนเบาๆ แต่ธีรยาเห็นแววตาคู่นั้นเหมือนมีลูกไฟอยู่จึงผงะถอยหนี ทว่าเขาใช้มือเพียงข้างเดียวประคองท้ายทอยเธอไว้และใช้มืออีกข้างยกแก้วไวน์ที่เหลือดื่มแล้วประกบริมฝีปากที่เผยอขึ้นอยู่ก่อน
ไวน์แดงไหลเข้าปากของธีรยา ดวงตากลมเบิกกว้างราวกับต้องมนตร์จากดวงตาสีน้ำตาล ลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ มอบรสหวามที่เธอไม่เคยสัมผัส การจูบตอบแบบเงอะงะทำเอาชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาผละจากริมฝีปากอิ่มสวยแล้วเอ่ยถาม
“จูบแรก?”
เหมือนจะสางเมาในทันที เธอไม่รู้จะตอบยังไงจึงได้แต่กัดริมฝีปากรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา ก็ชีวิตเธอมีแค่เรียนกับเรียน เรียนจบก็ทำงานและทำงาน คนที่แอบชอบก็เป็นแค่คนที่แอบชอบไม่เคยได้ใกล้ชิด อย่างมากก็แค่จับมือโอบไหล่แต่ก็เป็นแบบพี่น้อง แต่นี่...ผู้ชายที่เจอกันไม่กี่นาที...
เขายื่นนิ้วโป้งมาแตะริมฝีปากอิ่มสวย
“อย่ากัด”
“คะ?”
คราวนี้เขายื่นหน้ามาใกล้ สบตากับดวงตาเหมือนกระต่ายของเธอก่อนกดริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง แรงขบเม้มเบาๆ เรียกร้องให้เธอเปิดกลีบปากให้เขาแทรกเรียวลิ้นเข้าไปกวาดชิมความหวานในโพรงปากสาว ลมหายใจอุ่นร้อนเจือกลิ่นไวน์และ...เอ่อ...บุหรี่สินะ ร่างอ่อนนุ่มอ่อนระทวยไปกับสัมผัสที่เขามอบให้
โจวเจียอีจำไม่ได้แล้วจูบผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน เขาไม่ขาดแคลนผู้หญิงบำเรอใคร่ แต่เขาไม่จูบกับผู้หญิงเหล่านั้น เขาอายุสามสิบแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน ผู้หญิงที่คบหาก็เพราะเรื่องของธุรกิจเรียกว่าคนรักคงไม่ได้ เพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับใคร แต่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกต้องการผู้หญิงอย่างที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เป็นความปรารถนาอย่างรุนแรง
กระโปรงร่นขึ้นมาเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขาสวย ฝ่ามือเลื่อนไปลูบต้นขาขาวเนียนปลุกเร้าให้อีกฝ่ายตอบรับความต้องการเช่นเดียวกันเขา ร่างอ่อนนุ่มเอนตัวเข้าหาสองมือเปะปะไปบนแผ่นอกกำยำ เพียงปลายนิ้วแตะจุดอ่อนไหวแม้สัมผัสผ่านกางเกงชั้นในก็ทำให้เธอหลุดเสียงครางแม้ริมฝีปากจะถูกจูบดูดดื่มอยู่ก็ตาม นิ้วกร้านสัมผัสรอยเปียกชื้น เขาถอนริมฝีปากแล้วยิ้มร้ายที่มุมปาก
“คุณเปียกแล้วนี่”
จูบของเขาปล้นสติของเธอไปหมดสิ้น สมองมึนงงอยู่จนกระทั่งเขาช้อนตัวอุ้มร่างบอบบางมาวางบนเตียงแล้วจึงเพิ่งรู้สึกตัว ดวงตากลมจ้องมองร่างสูงโปร่งที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต สายตาของเขาจ้องมองลิ้นน้อยๆที่แลบออกมาเลียริมฝีปากของตน เขาถอดเสื้อโยนลงพื้นตามด้วยปลดเข็มขัด คราวนี้เธอหลุบตาลงไม่กล้ามองอีก เสียงหัวเราะทุ่มต่ำในลำคอทำให้เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาทาบตัวลงมากดทับร่างของเธอสองมือลูบไล้เรือนร่างปลุกเร้าเลือดในกายให้เดือดพล่าน ชุดเดรสถูกถอดไปอย่างง่ายดาย เสียงลมหายใจสูดลึกทำให้เธอไม่มั่นใจว่าเขาคิดอย่างไรอยู่ สองมือยกขึ้นปิดหน้าอกที่มีบราเซียลูกไม้สีแดงปกปิด ปกติเธอมีแต่เสื้อผ้าสีเรียบ แต่สำหรับชุดชั้นในนั้นอาจเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเดียวที่เธอให้อนุญาตให้ตัวเองทำได้
