บท
ตั้งค่า

บทที่7. ห่างเหิน

ดารัณเม้มปากแน่น ทำไมเขาเรียกตัวเองแบบนั้น ‘ผม’ ฟังดูช่างแสนห่างเหิน แต่เขาก็บอกแล้วว่าอยากเรียกร้องเอาอะไรกับเขา หัวใจทีเคยเปี่ยมไปด้วยความรักกลับแตกสลายอย่างปวดร้าว หากการบอกลาอาจเจ็บเพียงครั้งเดียวแล้วค่อยๆ ด้วยการรักษาแผลใจ ทว่าการเจ็บป่วยของญาติผู้ใหญ่ที่เธอรักและเคารพทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธได้ “ค่ะ มิ้นต์ทราบดี”

หญิงสาวถอยห่างออกมาครึ่งก้าวก็พ้นมือของเขา “พี่ธันเข้าไปคุยกับคุณหมอเรื่องการรักษาเถอะค่ะ มิ้นต์จะกลับบ้านไปเรียนให้คุณพ่อทราบก่อน ส่วนเรื่องที่เหลือมิ้นต์จัดการเองค่ะ”

ดารัณหมุนตัวแล้วก้าวเร็วๆ ออกมา รถของเธออยู่บ้านของคุณหญิงเพ็ญแข ตอนออกมาออกมาพร้อมกับคนอื่นๆ แต่จะให้เข้าบ้านเขาไปเอารถคงไม่ใช่ตอนนี้ หญิงสาวเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์โทรบอกคนขับรถที่บ้านให้มารับเธอก่อนจะไปรับรถที่อยู่บ้านคุณหญิงเพ็ญแข

“คุณหนูมิ้นต์หน้าตาซีดเซียวเชียวครับ คุณหญิงไม่สบายหรือคุณหนูไม่สบายครับเนี้ย”

ลุงชัยคนขับรถเก่าแก่ชวนคุยหลังจากรีบเอารถมารับคุณหนูของบ้าน ซึ่งบังเอิญว่าคุณผู้ชายใช้ให้เขามาทำธุระนอกบ้านพอดีจึงมาถึงเร็วในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะลุง” ดารัณส่ายหน้าไปมา “ลุงไปเอารถให้หนูมิ้นต์หน่อยนะคะ เดี๋ยวมิ้นต์เอารถคันนี้กลับไปใช้ก่อน”

“ครับคุณหนู”

ดารัณนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ ด้วยความที่เธอทำงานหลายด้านทั้งเป็นเลขาให้คุณหญิงเพ็ญแข ดูแลฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้โรงพยาบาลและงานในบริษัทของครอบครัว เพียงเธอสงบสติอารมณ์ได้เธอก็จัดการลำดับสิ่งที่ต้องทำ แม้จะเคยคิดมาเสมอว่าจะจัดงานแต่งงานให้ตัวเองอย่างไร แต่ไม่เคยคิดว่าต้องแต่งแบบรวบรัดไม่มีพิธี ไม่มีแขกในงานอย่างไร เธอเองก็ไม่ชอบงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยคนไม่รู้จักแต่ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเลย อย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนสนิทของเธอ ‘ลักษณ์นารา’ หญิงสาวหัวเราะขืนๆ แล้วเธอต้องหาชุดแต่งงานไหม? ในเมื่อมันเป็นเพียงงานแต่งงานกำมะลอเท่านั้น

ผ่านวันอันแสนยุ่งเหยิง ดารัณไม่คิดว่าจะผ่านเรื่องราวดั่งฝันนั้นมาได้ เธอหลับไปเพราะยาแก้ปวดศีรษะแต่ ดารัณก็ตื่นด้วยมาพร้อมอาการปวดศีรษะหนึบๆ หญิงสาวต้องลุกขึ้นจากเตียงจัดการตัวเองแล้วรีบลงไปที่ห้องอาหารก่อนที่พ่อของเธอจะไปทำงานเสียก่อน

คุณสมภพนั่งอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมกับอาหารเช้าและมี ‘ช่อแก้ว’ ค่อยดูแล ช่อแก้วอายุมากกว่าเธอแค่ 4 ปีเคยเป็นพนักงานในบริษัทของคุณพ่อ เธอเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกับดารัณเมื่อราวสองปีที่แล้ว แน่นอนว่าช่อแก้วเข้ามาอยู่ในฐานะ ‘ภรรยาใหม่’ ของพ่อนั้นแหละ ทว่าทั้งสองอยู่กันเงียบๆ พ่อเองก็ไม่ได้พาช่อแก้วออกงานไปไหนนอกจากไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหลบเสียงคนนินทาบ้าง ช่อแก้วเป็นผู้หญิงประเภทที่เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีปากมีเสียทำให้คบหากับพ่อของเธอได้นานกว่าคนอื่นที่เคยเข้ามาข้องแวะกับพ่อหม้ายที่ยังหล่อและรวยอย่างพ่อเธอ

“คุณมิ้นต์จะทานอาหารเช้าพร้อมกันไหมคะ” ช่อแก้วถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจซึ่งจะเป็นแบบนี้เสมอไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังคุณสมภพ

“มิ้นต์ขอกาแฟค่ะ” ดารัณหันไปยิ้มให้แล้วเดินไปนั่งข้างบิดา เมื่อไม่มีใครอยู่แล้วเธอจึงเอ่ยปากพูดออกมา “คุณพ่อขา มิ้นต์จะแต่งงานนะคะ”

“ฮือ อะไรนะ” คุณสมภพเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์แล้วขมวดคิ้ว

“อาทิตย์หน้ามิ้นต์จะแต่งงานค่ะ”

“เดี๋ยวๆ ทำไมมันเร็วนักล่ะ พูดเหมือนจะไปเที่ยว” บิดาพับหนังสือพิมพ์แล้วจ้องหน้าลูกสาว เรื่องการหมั้นหมายนั้นก็ตั้งหลายปีจนเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่จริงจังอะไรแล้ว

“หมั้นมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่เร็วหรอกค่ะ” ดารัณยิ้มกลบเกลื่อน

“ลูกสาวพ่อจะแต่งงานทั้งที มันก็ต้องให้สมเกียรติกันหน่อยซิ”

“พ่อก็” ดารัณแสร้งเป็นหัวเราะ “ให้มิ้นต์แต่งเถอะค่ะ มิ้นต์ไม่อยากได้งานแต่งงานใหญ่โตอะไร มิ้นต์อยากได้คำอวยพรจากพ่อเท่านั้นเอง พ่อก็รู้ว่ามิ้นต์ไม่ชอบคนเยอะๆ มิ้นต์คุยกับพี่ธันแล้วด้วย เราอยากให้มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้น”

“มันจะดีหรือลูก มิ้นต์ก็มีหน้ามีตาในสังคม แต่งกันเงียบๆ เขาจะนินทาว่าเราท้องก่อนแต่งเอานะ”

หญิงสาวหัวเราะร่วน “โธ่พ่อค่ะ คนจะนินทาทำยังไงเขาก็นินทาเราอยู่ดีล่ะค่ะ”

“มันก็ดีนะ พ่อก็ไม่ชอบคนเยอะแยะ ใครมาบ้างก็ไม่รู้ บางทีเราก็ไม่รู้จัก”

“ตกลงตามนี้นะคะพ่อ” ดารัณเข้าไปกอดบิดา “อีกหน่อยมิ้นต์แต่งงานไปอยู่บ้านผู้ชายแล้ว พ่อก็ไม่มีมิ้นต์เป็นก้างขวางคอแล้วนะคะ”

“พูดอะไรแบบนั้นเด็กคนนี้” คุณสมภพเขกหัวลูกสาวเบาๆ

“พ่อไม่สงสารคุณช่อแก้วบ้างหรือคะ”

“พ่อแต่งงานหนเดียวก็พอแล้ว”

“ขี้โกงนะคะ” ดารัณหัวเราะเสียงใส “พ่อก็ยังไม่แก่ คุณช่อแก้วก็ยังสาว น่าจะมีลูกด้วยกันนะ มีเด็กเล็กๆ ในบ้านจะได้ไม่เหงาไงคะ”

“มิ้นต์คิดแบบนั้นเหรอลูก” คราวนี้คนเป็นพ่อจ้องมองใบหน้าลูกสาวอย่างจริงจัง

“มิ้นต์ไม่ใช่เด็กแล้ว เรื่องแบบนี้เข้าใจได้ค่ะ ขอแค่คนนั้นรักพ่อจริงก็พอ” หญิงสาวยิ้มให้ “มิ้นต์เชื่อว่าแม่เองก็เข้าใจพ่อค่ะ”

คุณสมภพลูบผมยาวของลูกสาวอย่างเอ็นดู “ขอบใจลูกมากนะมิ้นต์”

“ด้วยความยินดีค่ะคุณพ่อ” ดารัณยิ้มกว้างเป็นจังหวะที่ช่อแก้วยกถาดกาแฟเข้ามา “รีบตัดสินใจนะคะคุณพ่อ”

“ยัยลูกคนนี้นี่ จะแต่งงานอยู่แล้วยังทำตัวเป็นเด็กอยู่อีก”

“คุณมิ้นต์จะแต่งงานหรือคะ” ช่อแก้วถามอย่างแปลกใจแต่เมื่อสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอก็พลอยยิ้มออกมาด้วย “ยินดีด้วยค่ะ”

“คุณช่อแก้วไปด้วยนะคะ” ดารัณยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ “มิ้นต์จัดงานเล็กๆ เชิญแค่คนในครอบครัว”

“คนในครอบครัว” ช่อแก้วทวนคำแล้วหันไปทางคุณสมภพที่นั่งหัวโต๊ะ เขาพยักหน้าและยิ้มให้ทำให้เธอยิ้มกว้างออกมา ในที่สุดลูกสาวคนเดียวของคนที่เธอรักก็ยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแล้ว

ดารัณยิ้มให้คนทั้งสองแต่แอบซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใน การแต่งงานที่วางแผนการหย่าไว้พร้อมกันช่างเป็นเรื่องตลกจนอยากจะร้องไห้จริงๆ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ความเจ็บปวดนี้และเธอพร้อมจะแบกสิ่งนี้ไว้บนบ่าเล็กๆ ของเธอเอง.

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel