บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 พวกคนต่ำช้า

ณ เรือนท้ายจวนตระกูลเส้า

บนพื้นเรือนที่เต็มไปด้วยฝุ่นมีร่างของสตรีผู้หนึ่ง ที่หลายเดือนก่อนหน้ายังเป็นคุณหนูผู้งดงามของตระกูลอันร่ำรวย แต่บัดนี้กลับกลายเป็นคนซูบผอม บนร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกทรมาน

“ไป๋เล่อฉิง” หลังจากถูกสู่ขอและตบแต่งกับบุรุษที่นางตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ผ่านไปเพียงสามวันสินเดิมหลายสิบหีบของนาง ยามนี้มิใช่ของนางอีกต่อไป เพราะครอบครัวของสามีอย่างเส้าเหยี่ยนเสียงยึดไปทั้งหมด

ส่วนตัวของไป๋เล่อฉิงจากตำแหน่งฮูหยินน้อยในเรือนใหญ่ ก็ถูกส่งตัวมาอยู่ยังเรือนท้ายจวนที่ผุพังกับสาวใช้ที่ติดตามมา ข้าวปลาอาหารได้รับเพียงวันละหนึ่งมื้อ สาวใช้อย่างจิ่งฟางที่สงสารเจ้านายของตน จึงไปแอบขโมยอาหารในห้องครัวจนถูกจับได้ และถูกลงโทษโบยจนตายต่อหน้าของไป๋เล่อฉิง

“ท่านพี่ข้าขอร้องได้โปรดปล่อยจิ่งฟางไปเถิด นางแค่สงสารข้าถึงได้ทำเรื่องผิด ๆ เช่นนี้”

“คะ คะ คุณหนูอย่าทำเช่นนั้นเพื่อบ่าวเลยเจ้าค่ะ”

“เห็นหรือไม่ สาวใช้ของเจ้านางยังไม่ยอมร้องขอชีวิต โบยต่อไป!”

“ไม่นะ จิ่งฟาง ๆ ฮือ ๆ ข้าขอโทษ ฮือ ๆ ๆ”

“เจียหงให้คนลากไป๋เล่อฉิงไปขังไว้เช่นเดิม อย่าลืมลงโทษนางเพิ่มวันนี้แม้แต่น้ำสักหยดก็อย่าให้นางได้ดื่ม”

“ทราบแล้วขอรับคุณชายใหญ่”

ร่างของไป๋เล่อฉิงถูกบ่าวไพร่ลากกลับไปด้านในเรือน นางได้แต่มองสาวใช้ถูกโบยจนกระอักเลือดด้วยน้ำตานองหน้า ความเสียใจที่ได้พบเจอคงต้องโทษนางที่ไม่ดูคนให้ลึกซึ้ง เพียงแค่คำพูดหวานหูก็หลงเชื่อจนหมดใจเสียได้

ด้วยความรู้สึกผิดไป๋เล่อฉิงที่ต้องอยู่เพียงลำพังในเรือนท้ายจวนแห่งนี้ เริ่มมีอาการเหม่อลอยเอาแต่คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุให้สาวใช้ต้องตาย อาหารที่มีเพียงหนึ่งมื้อก็ไม่คิดแตะต้อง ปล่อยให้มันเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งแต่นางก็หาได้สนใจไม่

เนื่องจากความเสียใจจึงไม่ยินดียินร้ายแม้วันนี้ตระกูลเส้าจะมีงานมงคล ซึ่งคุณชายใหญ่เส้าได้ตบแต่งสตรีอันเป็นที่รักเข้าจวนอย่างชื่นมื่น แม้แต่ในยามเข้าหอคู่ข้าวใหม่ปลามันก็ยังพูดถึงไป๋เล่อฉิงไม่หยุด

“อ๊ะ อื้อ อาเสียงท่านยังดุดันไม่เปลี่ยนเลยนะ”

“ซี้ด อ่าส์ เพราะข้ารู้ว่าเจ้าชอบหากทำเบา ๆ จะถึงใจเจ้าได้อย่างไร”

“อ้ายยย หวังว่าท่านจะไม่ทำเรื่องนี้กับนางเล่อฉิงนะอาเสียง”

“อืม สตรีจืดชืดขี้อายแม้แต่ยามจับมือข้าทำไม่ลงหรอก มีแต่เจ้าเท่านั้นที่ทำให้ข้ารู้สึกได้ปลดปล่อยอย่างแท้จริง”

“พรุ่งนี้หลังจากยกน้ำแล้วเราไปเยี่ยมนางสักหน่อยดีไหม อ๊ะ ๆ ๆ”

“ได้ตามที่เจ้าต้องการแต่ตอนนี้เลิกพูดถึงนางก่อนเถิด ข้าอยากได้ยินเสียงครวญครางของเจ้ามากกว่า”

ลูกสะใภ้คนใหม่ของตระกูลเส้ามิใช่ใครที่ไหน แต่นางเป็นถึงสหายสนิทของไป๋เล่อฉิงนั่นก็คือหลัวอี้หรู บิดาของนางคือรองเสนาบดีกรมขุนนาง ผู้เป็นมือขวาของใต้เท้าเส้าในการทำเรื่องฉ้อโกงอย่างลับ ๆ มานานนับสิบปี เพื่อสนับสนุนองค์ชายรองแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท

กลางยามเฉินวันถัดมาหลังจากเส้าเหยี่ยนเสียงพาฮูหยินไปยกน้ำชาให้บิดามารดาของตนเสร็จ ทั้งสองคนพร้อมบ่าวไพร่ก็มุ่งหน้าไปยังเรือนท้ายจวน แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้กลิ่นเหม็นสาบทำพวกเขาแทบอาเจียน

“อี๋ เหตุใดที่นี่ถึงได้มีกลิ่นเหม็นนักล่ะ จิวเมี่ยวเจ้าไปเปิดประตูให้ข้าเดี๋ยวนี้”

“เจ้าค่ะฮูหยิน”

แอ๊ดดด จิวเมี่ยวสาวใช้คนสนิทของหลัวอี้หรูทำตามคำสั่ง ภาพที่ทุกคนได้เห็นยามที่บานประตูเรือนนั้นเปิดกว้าง คือร่างของสตรีที่แทบไม่หลงเหลือเค้าโครงเดิมให้เห็น

ไป๋เล่อฉิงทำเพียงปลายสายตามองผู้มาเยือน ไม่มีเสียงใดหลุดออกจากปากของนางแม้แต่คำเดียว มีเพียงหลัวอี้หรูที่เอ่ยถ้อยคำเยาะเย้ยถากถาง ตอกย้ำความผิดพลาดในการตัดสินใจของไป๋เล่อฉิง

“โธ่ อาเสียงเจ้าไม่สงสารเล่อฉิงบ้างหรือ ไม่เห็นต้องทำกับนางเพื่อข้าถึงเพียงนี้ก็ได้”

“หึ ก็แค่สตรีน่าโง่คนหนึ่งจะมาเทียบกับเจ้าได้อย่างไร”

“เพราะเหตุใด...พวกเจ้าถึงต้องหักหลังข้าเช่นนี้”

“หึ ไป๋เล่อฉิงเจ้ามันโง่เองที่ไม่เชื่อคำทัดทานของคนที่หวังดี แค่ข้าพูดคำหวาน ๆ ไม่กี่คำหรือทำตัวน่าสงสารเจ้าก็ยอมทำให้ทุกอย่าง ช่างเป็นสุนัขที่เชื่องสำหรับข้าจริง ๆ”

“เล่อฉิงเจ้ามันก็แค่สมบัติเดินได้ที่อาเสียงกับข้าไว้หยิบใช้เท่านั้น เจ้าคิดว่าอาเสียงจะรักเจ้าจริง ๆ น่ะหรือ ข้าจะบอกอะไรให้นะคนที่อาเสียงรัก และทุกคนในตระกูลเส้ายอมรับตั้งแต่แรกมีเพียงข้า “หลัวอี้หรู” ส่วนเจ้าจงเป็นฮูหยินที่ป่วยตายจากโรคประหลาดไปเถิด ฮ่า ๆ ๆ”

แต่ความสุขที่ตระกูลเส้ากำลังยินดีปรีดาอยู่นั้นกลับต้องมลายหายไป เมื่อหลักฐานการกระทำความผิดของใต้เท้าเส้าแห่งกรมขุนนาง ถูกคนลึกลับส่งให้กับรองเสนาบดีกรมตุลาการ ภายหลังฮ่องเต้ได้ทรงทอดพระเนตรจึงมีราชโองการเร่งด่วน ให้จับกุมคนตระกูลเส้าและผู้ที่มีส่วนร่วมทั้งหมดไปรับโทษ

ฝูอวิ้นมู่รองเสนาบดีกรมตุลาการได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ โดยข้างกายของเขายังมีสหายผู้หนึ่งที่ไม่ยอมรับสตรีใดเข้าจวน แม้แต่ตำแหน่งอนุภรรยายังไม่ยอมให้สตรีใดได้หมายปอง

“อาหลงสิ่งที่เจ้าทำในวันนี้คงมิใช่ทำเพราะคุณหนูสี่ไป๋ใช่หรือไม่?”

โจวเหวินหลงบุรุษรูปงามทายาทตระกูลโจวผู้มั่งคั่ง แต่นิสัยใจคอกลับมีน้อยคนนักที่จะได้รู้ว่าเขาเป็นคนเช่นไร น้ำเสียงเรียบนิ่งที่เปล่งออกมายิ่งตอกย้ำให้ฝูอวิ้นมู่มั่นใจ ว่าที่ผ่านมาสหายของตนส่งคนไปรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง เพียงเพื่อสตรีผู้หนึ่งที่สหายมีใจผูกสมัครรักใคร่อย่างเงียบ ๆ มาหลายปี

“ทำตามหน้าที่ของเจ้าไปอามู่ หากมีคนตายในจวนแห่งนี้เจ้าคงรู้นะว่าควรเขียนรายงานว่าอย่างไร”

“นี่! ฮ้าย ข้ารู้แล้ว ๆ เจ้าไปตามหานางในดวงใจของเจ้าเถิด”

“หึ รู้ก็ดีแล้ว”

การลงมือที่รวดเร็วของกรมตุลาการส่งผลให้คนกระทำผิดไม่ทันได้ตั้งตัว แม้มีใจอยากหลบหนีก็ไม่มีทางใดให้ทำได้อีกแล้ว มีเพียงกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่อยู่ในเรือนท้ายจวนซึ่งห่างจากเรือนหลักหลายจั้ง ทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับตระกูลเส้าในยามนี้

ส่วนคนที่วิ่งตามหาสตรีในดวงใจจนมาถึงเรือนท้ายจวน เขาทันได้ยินคำพูดที่เหยียบย่ำทำร้ายจิตใจของนางพอดี ดาบในมือที่ถูกกำไว้แน่นบัดนี้มันได้ออกจากฝัก และสังหารสองสามีภรรยาที่ทำร้ายสตรีของตนอย่างโหดเหี้ยม

“ฮ่า ๆ ฮะ...” ฉัวะ! อ่ะ ฉึก! ตุบ ตุบ

“ฮึก ข้าช่างโง่เขลาอย่างที่พวกเจ้าพูดจริง ๆ หากมีชาติหน้าข้าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพวกเจ้าอีก อึก เฮือก! ตุบ”

ก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะสิ้นสุดลง ไป๋เล่อฉิงกลับเห็นเงาอันเลือนลางของบุรุษผู้หนึ่ง ใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด แต่ดวงตาของนางฝืนเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว แม้ว่านี่จะเป็นการช่วยเหลือที่นางไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด แต่ภายในใจนางได้ภาวนาเอาไว้ว่าจะขอตอบแทนเขาในชาติหน้าก็แล้วกัน

‘ฉิงเอ๋อร์!’
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel