ตอนที่สอง เร็วเข้าสิข้าอยากสุขสันต์แล้ว
ตอนที่สอง
เร็วเข้าสิข้าอยากสุขสันต์แล้ว
หลัวจิ้งเห็นเช่นนั้นจึงยกกระบองไม้ทุบพื้นดัง โครม! สร้างเสียงดังสั่นสะเทือนเพื่อข่มขวัญหญิงสาว พลางหรี่ตาเย็นชาแล้วก้าวเข้ามาใกล้
“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดกับผู้ใด ช่างไม่เคยตาย!”
แทนที่จะแสดงท่าหวาดกลัว แต่คุณหนูสกุลเมิ่งกลับหันมองตาขวางแล้วตอบโต้ฉะฉาน
“เหตุใดจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าคือ โจรป่าที่คิดปล้นขบวนเดินทางของข้า แล้วอย่างไร? ปล้นก็ปล้นแล้ว ทรัพย์สินก็มีเท่าที่เห็น ส่วนข้า...
อืม...พวกเจ้าคงต้องเล่นสนุกจนสมใจสินะ
ได้...แต่ก่อนอื่นพวกเจ้าควรต้องตามใจข้าสักหน่อย ถึงอย่างไรข้าก็เป็นคุณหนูสูงศักดิ์ เสียความบริสุทธิ์ทั้งทีควรหาสถานที่ดีกว่านี้
อ้อ...ข้าจะบอกอีกอย่าง หากพวกเจ้าทะนุถนอมเอาใจข้าสักหน่อยรับรองว่าจะคล้อยตามไม่ดิ้นรนให้ขัดใจ เช่นนี้ดีหรือไม่”
เสียงนกกาที่บินวนบนกิ่งไม้คล้ายเงียบลงไปชั่วขณะด้วยเหล่าโจรต่างไม่คาดคิดว่าจะได้การตอบรับอย่างเข้าใจจากผู้เป็นเหยื่อซึ่งยังคงเชิดหน้าไม่ได้มีอาการสั่นกลัวหรือโวยวายใดทั้งสิ้น
“เจ้า…ไม่กลัวพวกข้าเลยหรือ?” ซ่งเถาซึ่งถอยไปยืนอยู่ด้านหลังอดสงสัยไม่ได้จึงยื่นหน้ามาถามแต่กับโดนตอกกลับ
“เหตุใดต้องกลัว ขอเพียงเจ้าอาบน้ำให้สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าย่อมไม่น่ากลัวเท่าใด”
รองหัวหน้าโจรหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายอีกครั้งขณะลูกสมุนต่างพากันกลั้นขำ
ยังไม่ทันตัดสินใจอย่างไร คุณหนูคนงามก็หันมาเรียกร้องต่อทันทีทั้งสะบัดเท้าขึ้นมาให้เห็นเรียวขาขาวผ่องอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย
“หากจะให้ข้าเดินไป คงไม่ไหวด้วยรองเท้าบอบบางคงไม่อาจทานทน อีกอย่างข้าไม่เคยเดินบนดินที่แข็ง กระด้างเพียงนี้มาก่อน หรือจะโยนข้าขึ้นมาแล้วโยกจนอาเจียนข้าก็ไม่ยอมไปด้วยหรอกนะ
เอาเป็นว่า พวกเจ้าบังคับรถม้าไปที่ค่ายโจรก็แล้วกัน ข้าจะได้นั่งให้สบายหน่อย
อ้อ...สาวใช้ของข้าก็ควรขึ้นมาด้วย หากปล่อยนางเหน็ดเหนื่อยจะไม่อาจรองรับพวกเจ้าได้หลายคน เข้าใจหรือไม่”
ถ้อยคำที่กล่าวอย่างเฉยชาราวเป็นเรื่องสามัญธรรมดาทั้งหญิงสาวยังสะบัดหน้าแล้วเดินขึ้นไปบนรถม้าอย่างงามสง่าทำให้ ‘หลัวจิ้ง’ ที่ยังยืนถือกระบองอยู่ถึงกับบ่นพึมพำ
“นี่เราปล้นชิงเพื่อจับนางมาบำเรอกามหรือมาเป็นเจ้านายสาวกันแน่?
พี่ใหญ่...หรือว่าเราจะจัดการนางที่นี่เสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว” เสียงนี้ย่อมดังจนคุณหนูที่กำลังก้าวขึ้นรถม้าได้ยิน หัวใจของนางจึงเต้นระทึกจนก้าวเท้าผิดแทบตกลงมา
“ช่างเถอะ ผู้ว่าจ้างบอกแค่ให้จับตัวนางไปย่ำยีให้เสื่อมเสีย ในเมื่อนางไม่ขัดขืนและยินยอมโดยดีย่อมไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเปลืองแรง
อีกอย่างกลับไปที่เรือนย่อมไม่เปรอะเปื้อน แล้วยังซ้ำได้หลายครา เช่นนี้ดีกว่ามิใช่หรือ” หัวหน้าโจรร้ายเห็นว่าคุณหนูคนงามทำใจและเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ดีเกินคาดจึงออกคำสั่งให้โจรคนหนึ่งบังคับรถม้าส่วนกลุ่มโจรต่างขนทรัพย์สินที่ปล้นได้แล้วควบม้ากลับรังโจรอย่างเอิกเกริก
ด้านใน เมิ่งเจียวเจียวใช้เวลานั่งปลุกปลอบตนเองอยู่ในรถม้าด้วยยังไม่หายตื่นตระหนกกับการตัดสินใจเสี่ยงตายเมื่อครู่
โชคดีที่หัวหน้าผู้นั้นยังยอมทำตาม
