ตอนที่ 4ติดใจนิ้วของฉันเหรอ(2)
คนพ่อไม่ได้รู้เลยว่าเจ้าเคนตะที่ว่านี่แกล้งอะไรเธอไว้บ้าง หญิงสาวยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด แต่ไม่อยากฟ้องเรื่องแบบนี้มันน่าอายเกินไปที่โดนจับฟาดก้น แถมยังโดน...
บ้าชิบ ลิลิน คิดถึงเรียวนิ้วของเขาซะได้ เธอหันไปมองหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มนิดหน่อยแล้วสะบัดเขาออกจากห้วงความคิด
"ไม่รู้แหละ ลิลินไม่หิว ลิลินจะไปเรียนแล้ว"
เธอพูดแล้วเดินจากพ่อมาด้วยท่าทีกระเง้ากระงอด ชายหนุ่มบอดี้การ์ดเดินตามเธอมาอย่างรู้หน้าที่
บนรถคันหรู คนขับรถขับอย่างใจเย็น โดยมีลิลินนั่งเบาะหลังและเคนตะนั่งข้างๆ ระหว่างทางไม่มีการพูดจาใดๆของพวกเขา ลิลินสงบปากสงบคำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เคนตะรู้สึกพอใจกับผลงานของตัวเองที่สามารถทำให้เธอพูดน้อยลงและพยศน้อยลง แต่เขาเรียบเฉยเกินกว่าที่จะแสดงออกมาทางสีหน้า เพราะเคนตะ คือเคนตะเจ้าชายไร้อารมณ์
เมื่อส่งถึงโรงเรียน เคนตะก็เดินเข้าไปส่งที่ปากประตูทางเข้าเหมือนเดิม ลิลินรู้สึกรุ่มร้อนในอก
ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่เขาทำเมื่อคืนทุกอย่างมันคือ เฟิร์ส สำหรับเธอ ยิ่งคิดเธอยิ่งหงุดหงิด นี่เขาไม่สนใจเลยหรอ เขาทั้งปล้นจูบแรก และ...ครั้งแรกของเธอนะ'
ลิลินคิดเองหน้าแดงฉ่าเอง เขากำลังทำให้เธอเป็นบ้า เด็กสาววัยเพียง 18 ปี ที่กำลังสับสนกับท่าทีของคนมีประสบการณ์มากกว่าตัวโตคนนี้ เธอร้อนรนและร้อนใจเป็นที่สุด
"นี่ตาลุง ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ"
หญิงสาวถามคนใส่สูทสีดำอย่างเอาเรื่องน้ำเสียงยังเหวี่ยงวีนเหมือนเดิม แก้มป่องๆ และสีหน้ากระเง้ากระงอดนั่นทำเอาเคนตะอดเอ็นดูไม่ได้
คนตัวโตแค่นขำและตอบอย่างใจเย็น
"หึ อยากให้พูดอะไร" เขาถามยียวนในน้ำเสียงเรียบๆ คือเป็นคนที่กวนตีนหน้าตายสินะ ลิลินคิดในใจ
ยิ่งคิดยิ่งโมโห แต่ไม่อยากจะพูดออกมาเพราะมันน่าอายเกินไป เธอรู้สึกสับสนและอยากรู้ว่าเจ้าของใบหน้าหล่อเหลากำลังคิดกับเธอแบบไหน มองหน้าหรือมองตาเขาไม่สามารถรู้ได้เลย สีหน้าเขาเรียบเฉยจนน่าตกใจ
"หรือว่าเธอติดใจนิ้วของฉัน"
อยู่ๆเขาก็ถามยียวนหน้าตายขึ้นมาอีกครั้ง เล่นเอาคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ความรู้สึกวาบหวามเกิดขึ้นมาเองอีกแล้ว หญิงสาวคิดว่าเขาเพียงแต่อยากแกล้งเธอเท่านั้น
และเธอจะไม่เล่นตามเกมเขาอีกแล้ว เธอสะบัดตูดเดินเข้าโรงเรียนอย่างไม่พูดอะไร
ร่างใหญ่มองตามเธอไปจนลับสายตา เมื่อเธอลับตาไป เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอคิดว่าฉันจะอดทนได้นานแค่ไหนกัน ลิลินอดทนตรงนี้คงไม่ได้หมายความว่าอดทนต่อนิสัยของเธอ แต่มันคงเป็นการอดทนต่อร่างกายอันยั่วเย้าของเธอ แค่มองเธออารมณ์กำหนัดของเขาก็พลุ่งพล่าน
ยิ่งมาทำท่าทางแบบอยากให้เขาพูดถึงเรื่องเมื่อคืนมันยิ่งทำให้เขาแทบจะคุมเจ้าเคนตะน้อยไม่อยู่ ไม่ได้ เธอยังเด็ก เขาพูดกับตัวเองซ้ำๆ แล้วเดินขึ้นรถของ อุดรวิจิตรไป
"แก ทำไมทำหน้าแบบนั้น" ฮันนี่เพื่อนของลิลินถามอย่างกระตือรือร้น
"เซ็งๆ เบื่อๆ" เธอตอบอย่างเหนื่อยหน่ายหลังจากที่เห็นหน้าเพื่อน
"งั้นเย็นนี้แอบหนีไปเที่ยวกันมั้ย ฉันแอบนัดบอร์ดพวกผู้ต่างโรงเรียนไว้" ท่าทีกระตือรือร้นของฮันนี่เล่นเอาลิลินตื่นเต้นไปด้วยทั้งอย่างนั้น
"จะไปยังไงก่อน โดนตามแจแบบนี้" ลิลินถอนหายใจกับสถานการณ์ของตัวเอง
"แอบโดดคาบสุดท้ายกันมั้ย" อยู่ๆฮันนี่ก็คิดได้
"น่าสน "ใบหน้าของลิลินผุดรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาอีกครั้ง
