CHAPTER7
เช้าของอีกวัน
คนที่ยังนอนหลับตวัดวงแขนเรียวเล็กหมายจะโอบกอดคนเป็นสามีแต่ทว่าเธอกลับพบแต่ความว่างเปล่า ไม่ว่าเธอจะควานมือไปทางไหนตรงไหนเธอก็สัมผัสไม่โดนตัวของเขาเลย
ปรียาดาลืมตาตื่นเพื่อมองให้แน่ใจว่าสามีของเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนี้แล้วจริง ๆ เธอแหงนหน้ามองนาฬิกาบนฝาผนังก็ยิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันเช้าขนาดนี้คนเป็นสามีรีบตื่นไปไหนกันและยิ่งไปกว่านั้นทำไมเขาถึงไม่ปลุกเธอเลย
"เฮ้อ" เจอแบบนี้ปรียาดาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนจะพาตัวเองเข้าห้องน้ำชำระล้างกายเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วออกจากห้องลงมายังด้านล่าง ในใจคิดว่าสามีกำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ห้องรับแขกแน่ ๆ "พี่ภีมล่ะคะ" แต่เมื่อเอ่ยถามแม่บ้าน
"คุณผู้ชายออกไปทำงานแล้วค่ะ" คำตอบที่ได้รับทำเอาปรียาดาเบ้หน้า ความรู้สึกมากมายประเดประดังเข้ามาเธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอควรรู้สึกยังไงดี
เมื่อคืนมีความสุขด้วยกันแท้ ๆ แต่พอเช้ามาเขากลับหายไปเสียดื้อ ๆ โดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ และตัวเธอเองก็คงไม่น้อยใจหนักขนาดนี้ถ้าธิปติพัศบอกเธอบ้างว่าเขาไปไหน
"คุณปันจะให้แยมตั้งโต๊ะเลยไหมคะ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่ยกข้าวต้มกับน้ำส้มไปให้ปันที่สวนก็พอ" โต๊ะอาหารกว้างใหญ่ขนาดนั้นจะให้เธอนั่งทานข้าวคนเดียวลงได้อย่างไร เธอเลยเลือกที่จะออกไปทานข้าวที่สวนหย่อมข้างบ้านเผื่อต้นไม้ ดอกไม้ในสวนจะช่วยทำให้จิตใจเช้านี้ของเธอเบิกบานขึ้นมาได้บ้าง
คฤหาสน์อธิราชบดินทร์อันกว้างใหญ่แห่งนี้พ่อกับแม่ธิปติพัศยกให้เป็นเรือนหอของเขากับเธอ ส่วนพวกท่านสองคนผัวเมียก็ออกเดินทางเที่ยวรอบโลกตามที่หวังไว้มานาน และบัดนี้คฤหาสน์ที่กว้างใหญ่แห่งนี้กลับมีเพียงปรียาดาและหัวใจที่เหงา ๆ ของเธอเท่านั้นมองไปทางไหนก็เจอแต่ความว่างเปล่าไม่ต่างกับอยู่คนเดียวเลยสักนิด
ครืดด
เสียงมือถือที่แผดเสียงร้องดังขึ้นมาทำให้ปรียาดาหลุดออกจากภวังค์ เธอก้มมองมือถือที่แผดเสียงร้องดังไม่หยุดก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรมาหา
"คุณแม่" กรอกเสียงสดใสให้ปลายสายที่เป็นมารดาได้ยิน
"ทำอะไรอยู่คะน้องปัน" คุณนายม่านฟ้าเอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความคิดถึง ยี่สิบห้าปีไม่เคยห่างกันสักวินาทีเดียวแต่ทว่าตอนนี้ลูกสาวเพียงคนเดียวกำลังออกเดินทางท่องโลกกว้าง โลกที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและขวากหนาม ตลอดทางเดินที่เต็มไปด้วยถนนลูกรัง
"ปันกำลังทานข้าวอยู่ค่ะคุณแม่ คุณแม่ทานข้าวหรือยังคะ"
"เรียบร้อยจ้ะ แม่คิดถึงน้องปันจังเลยลูก"
"ปันก็คิดถึงคุณแม่เหมือนกันค่ะ"
"พี่ภีมเขาดูแลหนูดีรึเปล่า" คำถามของคนเป็นแม่ทำปรียาดาชะงักเล็กน้อย
เขาจะดูแลเธอได้ยังไงกันขนาดเวลาเขายังไม่มีให้เธอเลย
"พี่ภีมดูแลหนูดีมากค่ะ" แต่เพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงเธอจำเป็นต้องพูดปดออกไป
"ได้ยินแบบนี้แม่ก็สบายใจ หนูก็อย่าดื้อกับพี่เขาล่ะ"
"รับทราบค่ะคุณนายม่านฟ้า" หญิงสาวเย้าแหย่คนเป็นแม่อย่างไม่จริงจังมากนักกลบความรู้สึกภายในใจ
"เดี๋ยวเหอะ ทะเล้นนักนะ" คุยกับแม่อีกสองสามประโยคท่านก็วางสายไปเนื่องจากมีธุระต้องไปทำกับคนเป็นพ่อ
"เฮ้อ" พอกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้งปรียาดาถอนหายใจออกมาเบา ๆ เธอเขี่ยข้าวในชามเล่นพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
หมดไปอีกหนึ่งวันอย่างไร้ประโยชน์
ตลอดหลายเดือนที่อยู่บ้านของธิปติพัศปรียาดารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ไร้ค่าและเปล่าประโยชน์มาก ๆ ใช้ชีวิตให้หมดไปวัน ๆ อย่างไร้ประโยชน์ นั่งกินนอนกินเพียงเท่านั้น ไม่มีอะไรให้เธอจับให้เธอทำ จะเข้าครัวก็โดนห้าม จะปลูกต้นไม้ก็ไม่ได้ จะช่วยงานสามีก็ไม่ได้อีก สิ่งเดียวที่เธอช่วยธิติพัศได้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องบนเตียง เหมือนเธอมีค่าอยู่แค่นั้น จนบางครั้งก็เธอก็อดน้อยใจในตัวเองไม่ได้
"ให้ปันไปช่วยพี่ภีมทำงานด้วยดีไหมคะ ตอนอยู่ที่บ้านปันช่วยงานคุณพ่อทำงานบ่อย ๆ ปันทำงานเป็นหลายอย่างเลยนะคะ มันน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้พี่ภีมได้บ้าง" มือหนาที่กำลังตักข้าวเข้าปากพอได้หญิงคำพูดของหญิงสาวก็วางช้อนลงกระแทกกับจานข้าวจนเกิดเสียงดัง สบสายตาดุดันขึ้นจ้องดวงหน้าหวาน
"พี่ทำคนเดียวได้งานมันไม่ได้เหนักหนาอะไร" หลายครั้งหลายคราที่ขอเขาไปทำงานด้วยทุกครั้งก็จะเป็นการปฏิเสธจากเขาเสมอ พร้อมกับความไม่พอใจที่ธิปตพัศมีให้เธอเสมอมา
"ปันอยากช่วยหนิค่ะ" ปรียาดาเอ่ยเสียงเศร้าเธอเบื่อชีวิตตอนนี้เต็มแกแล้ว เธออยากมีอะไรทำ
"แค่ไม่สร้างปัญหาให้พี่ต้องหนักใจแค่นี้ปันก็ช่วยพี่ได้เยอะแล้วครับ"
".........." ปรียาดาวสะอึกพูดไม่ออกกับคำพูดของเขา แต่ธิปติพัศกลับไม่ได้สนใจเขาก้หน้าทานข้าวของตัวเองราวกับไม่มีอะไรทั้งที่ในใจของปรียาดาบีบรัดกันจนปวดหนึบ
"พี่ไปทำงานก่อนนะครับ" มื้ออาหารจบลงคนเป็นสามีเตรียมจะไปทำงานธิปติพัศเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนเป็นภรรยาจุมพิตที่หน้าผากมนของเธออย่างเบา ลูบศีรษะทุยเบา ๆ ราวกับปลอบประโลม
"พี่จำได้ว่าปันชอบทำขนม ถ้าปันเบื่อลองเปิดร้านทำขนมขายดูไหม เดี๋ยวพี่จะไปดูทำเลร้านให้ พี่จะจัดการทุกอย่างให้เอง" ดวงตากลมโตแหงนของคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ปรียาดาโดนคนตรงหน้าตบหัวแล้วลูบหลังครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เธอก็ไม่เคยหลาบจำ เพียงเขาพูดดี ทำดีด้วยเธอก็แทบจะลืมคำพูดแย่ ๆ ที่เขาพ่นใส่ก่อนหน้า
กลับมาสดใสดังเดิมเสมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย
"จริงเหรอคะ" อดถามเขาด้วยความตื่นเต้นไม่ได้ที่เขายังจำความชอบของเธอได้ดี
ในวัยเด็กปรียาดาชอบทำขนมมาก ๆ และเธอก็มีความฝันอยากจะมีร้านขนมเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดความฝันของเธอก็ไม่เคยเกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีใครสนับสนุนในความฝันของเธอ พ่อกับแม่อยากให้เธอเป็นนักธุรกิจมากกว่าเป็นแม่ค้าขายขนมที่ได้กำไรแค่วันไม่กี่บาท
"พี่ภีมจะเปิดร้านขายขนมให้ปันจริง ๆ เหรอคะ" พอธิปติพัศบอกว่าจะเปิดร้านขนมให้ หัวใจที่เคยเหี่ยวเฉาก็กลับมาสดใสอีกครั้ง
"จริงสิครับ ระหว่างนี้ปันก็หัดทำขนมไปพลาง ๆ นะ ตอนเปิดร้านจริงจะได้คล่อง"
"ขอบคุณนะคะพี่ภีม ปันรักพี่ภีมที่สุดในโลกเลย" ปรียาดากระโดดกอดธิปติพัศเต็มแรงแล้วหอมแก้มเขาซ้ำ ๆ พร่ำบอกรักให้เขาฟัง
เธอรักเขามาก รักมากจริง ๆ
