CHAPTER5
คล้อยหลังธิปติพัศไปอาบน้ำปรียาดานอนมองเพดานห้องตาปริบพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ตลอดเวลา เธอนอนมองเพดานอยู่แบบนั้นจนหนังตาเธอเริ่มหย่อนจะหลับเต็มทนแต่ก็พยายามฝืนตัวเองไว้เพื่อรอใครอีกคนที่ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมงก็ไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำสักที
จะให้ไปเคาะประตูเรียกปรียาดาก็ไม่กล้าทำได้เพียงนอนรอเขาอยู่อย่างนี้
แกร่ก
ในจังหวะที่ดวงตากลมจะปิดสนิทเสียงสวรรค์ที่เธอรอคอยก็ถูกเปิดด้วยฝีมือของคนที่เธอรอ ปรียาดาไม่ได้ลืมตามองธิปติพัศเธอยังคงนอนหลับตาอยู่อย่างนั้น
ธิปติพัศที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้าห้องน้ำเขามองมาทางปรียาดาที่กำลังหลับตาพริ้มพลางคิดว่าเขาแช่น้ำนานขนาดนั้นเลยหรือไงออกมาอีกทีปรียาดาถึงได้หลับไปแล้ว
ธิปติพัศยืนมองปรียาดาอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปแต่งตัวในห้องแต่งตัวที่อยู่อีกด้านหนึ่งของเตียงนอนเขาใช้เวลาแต่งตัวไม่นานก็เดินมาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ปรียาดา
เขาลังเลอยู่นานมากว่าจะทำยังไงกับหญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่ดี จะย้ายตัวเองไปนอนที่อื่น หรือนอนตรงนี้แบบไม่แตะต้องกัน แต่คำพูดที่เขาพูดกับปรียาดาก่อนไปอาบน้ำก็แวบเข้ามาในโสตประสาทและใช่คนอย่างธิปติพัศไม่เคยผิดคำพูดกับใครแม้แต่เรื่องไร้สาระพวกนี้ก็ตามแต่
ธิปติพัศยกศีรษะปรียาดาหนุนแขนตัวเองและซุกหน้าเข้าหาลำคอขาวของหญิงสาว กลิ่นกายหอมจากเรือนร่างบางลอยมาแตะจมูก ชายหนุ่มสูดดมกลิ่นของเธอเข้าไปเต็มปอด กลิ่นแป้งเด็กจากปรียาดาไม่เคยจางหายและไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนมันก็ยังคงกลิ่นนี้เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ธิปติพัศเหมือนคนโดนมนต์สะกดเขาจมอยู่กับกลิ่นหอมบนเรือนร่างของปรียาดา เขาสูดดมกลิ่นกายจากตัวเธออย่างคนหื่นกระหายทั้งที่พยายามหักห้ามใจและบอกตัวเองให้หยุดแต่เขากลับทำไม่ได้ ธิปติพัศเหมือนคนเดินอยู่ในเขาวงกตไร้ซึ่งทางออก เขาลุ่มหลงและมัวเมาไปกับเรือนร่างนี้เสียแล้ว
แรงซุกไซร้ของชายหนุ่มส่งผลให้คนที่กำลังนอนหลับอยู่รู้สึกตัว พอเห็นว่าปรียาดาตื่นธิปติพัศไม่รอช้ารีบจับหญิงสาวพลิกตัวนอนหงายและพาตัวเองขึ้นคร่อมร่างของหญิงสาวไว้ทันที
"อื้อ พี่ภีม" ปรียาดายอมรับว่าตกใจมากเมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมาคร่อมตัวเธอไว้พร้อมทั้งจับแขนของเธอทั้งสองข้างขึงไว้กับที่นอน ถึงจะยังไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ปรียาดาก็ไม่กล้าจะโวยวาย
แต่งงานกันมาสองอาทิตย์แล้วเข้าหอสักครั้งยังไม่เคย และถ้าเกิดพี่ภีมของเธอจะทำอะไรเธอขึ้นมาจริง ๆ เธอก็ไม่คิดจะขัดขืนออกจะยินดีด้วยซ้ำ เธออยากให้พี่ภีมเป็นของเธอ อยากให้ร่างกายของเราเป็นของกันและกัน และทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะเธอรักเขา รักเขามากเขาจริง ๆ
"ปันครับ" ธิปติพัศเรียกชื่อหญิงสาวเสียงนิ่งจ้องหน้าเธอตาเป็นประกาย
"คะ" ด้านปรียาดาที่ตื่นเต็มตาแล้วและกำลังรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ กับท่าทีของธิปติพัศ เธอมองหน้าเขาไม่แพ้กันและรอฟังว่าเขาจะพูดว่าอะไร
"พี่ขอมีอะไรกับปันได้ไหม" ธิปติพัศเอ่ยขอโต้ง ๆ เขาไม่ได้รู้สึกเขินอายหรือประหม่าที่จะขอมีอะไรกับผู้หญิงใต้ร่างต่างจากปรียาดาที่ทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะวางสีหน้าแบบไหนดี
"มะ มันจะเจ็บไหมคะ" คำถามแสนซื่อถูกเปล่งออกมา ธิปติพัศหัวเราะออกมาอย่างนึกขัน "ปะ ปันไม่เคย" เพราะที่ผ่านมาปรียาดาที่เคยต้องใจกับชายใดเลยสักคน เธอรอแค่พี่ภีมและรักแค่เขามาตลอด
ต่างจากธิปติพัศที่ผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนและมันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ที่ผู้หญิงเพรียบพร้อมอย่างปรียาดาจะไม่เคยผ่านมือชายใด แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ธิปติพัศจะให้ความสนใจเพราะไม่ว่าเธอจะผ่านมือใครหรือไม่เคยผ่านมือใครเขาก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเธอไปมากกว่านี้อยู่แล้ว
และการที่เขาจะมีอะไรกันกับภรรยาในทะเบียนก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด มันเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ต่างทำกัน
แค่มีอะไรกัน
ไม่จำเป็นต้องรักกัน
เขาไม่ซีเรียสอยู่แล้ว
