คุณพ่อหนูคือทันตแพทย์

20.0K · จบแล้ว
ปะหนัน
11
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คุณพ่อหนูเป็นทันตแพทย์ ในวันที่ชีวิตกำลังผิดหวังทันตแพทย์หนุ่ม มองไม่เห็นใครนอกจาก เธอ เปรมิกา ผู้หญิงที่คอยอยู่เคียงข้างเขาในทุกความเสียใจ ในเมื่อทุกอย่างมันไม่มีทางเป็นไปได้ คุณหมออยากให้เธอได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่แต่สุดท้ายแค่เธอหายไป เขากลับเป็นฝ่ายเสียใจและทำทุกทางให้ได้เธอคืนมา...แม้มันจะดูไม่มีทางเพราะเธอไม่ได้จากไปแค่คนเดียว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่กลายเป็นความไร้ค่าในวันที่ถูกสามีอย่างคุณหมอผลักไส

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักหมอเศรษฐีแต่งงานก่อนรักสัญญาทางรักมีลูกโรแมนติกดราม่ารักหวานๆ

ตอนที่ 1 คนอยู่ข้าง ๆ

ตอนที่ 1

คนอยู่ข้าง ๆ

“เย็นนี้มีนัดกับใครหรือเปล่าจะชวนไปกินข้าว”

ทันตแพทย์หนุ่มเดินออกจากห้องเพื่อมาพูดกับผู้ช่วยที่เป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของเขาเพราะนอกจากเปรมิกาจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์แล้วเธอยังเป็นเหมือนเลขาส่วนตัวที่คอยจัดแจง ทุกอย่างในชีวิตของเขามาตลอด 3 ปีที่คุณหมอคิรากรตัดสินใจลาออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาเปิดคลินิก

“ได้ค่ะคุณหมอ”

สาวน้อยที่ทำงานที่คลินิกนี้ตั้งแต่เธอยังเรียนอยู่ปีสุดท้ายพร้อมจะทำทุกอย่างตามที่คุณหมอต้องการเพราะว่าถ้าไม่ได้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าป่านนี้เธอคงไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียนจบและมีงานทำที่ดีมีรายได้พอจุนเจือครอบครัวแบบทุกวันนี้

คุณหมอคิรากรฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าที่เขาจะตัดสินใจลาออกจากโรงพยาบาลเพราะเบื่อกับระบบงานมาเปิดคลินิกเป็นของตัวเองในถิ่นทุรกันดารแบบนี้ซึ่งมีแต่คนทัดทาน โดยเฉพาะครอบครัวและคนรักแต่เขาก็เลือกที่จะทำตามความฝันคือการเป็นทันตแพทย์หนุ่มรักษาคนไข้ในราคาถูกโดยเฉพาะถิ่นที่อยู่ห่างไกลความเจริญแบบนี้

“เรียนจบแล้วไม่คิดจะไปหางานทำที่อื่นบ้างหรือไงอยู่คลินิกกับผมแบบนี้รายได้มันก็ไม่ได้มากเท่ากับทำงานที่อื่น”

คิรากรพูดกับสาวน้อยที่นั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามเขาด้วย ความเป็นห่วงเพราะคุณหมอเองก็มีรายได้จากคลินิกไม่มากนักเพราะเลือกที่จะรักษาคนไข้ในราคาถูกเขาจึงอดเป็นห่วงหญิงสาวไม่ได้เพราะเธอยังมีพ่อและแม่ต้องดูแลรายได้จากคลินิกของเขาอาจจะดีสำหรับเธอช่วงนี้แต่มันอาจจะไม่มั่นคงและตลอดไป

“ฉันมองหารายได้เสริมอยู่ค่ะแต่ก็คงไม่ไปทำงานที่ไหนถ้า ไม่มีคุณหมอก็ไม่มีเปรมิกาวันนี้ดังนั้นไม่มีทางค่ะที่ฉันจะหันไปทำงานอื่นนอกจากจะอยู่ข้างๆคุณหมอดูแลคลินิกแห่งนี้ไปด้วยกันจนกว่าคุณหมอจะไล่ฉันออกหรือไม่ก็ไปเปิดคลินิกที่อื่น”

เปรมิกาสาวน้อยพูดเก่งตอนที่เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัย คุณหมอได้ติดต่อให้เธอมาเป็นผู้ช่วยที่คลินิกแห่งนี้ในช่วงเสาร์อาทิตย์ทำให้เธอมีรายได้จนสามารถเรียนจบและยังหาเงินไปช่วยพ่อและแม่ให้ทำเกษตรที่ต่างจังหวัดได้ หญิงสาวจึงสำนึกในบุญคุณและไม่คิดว่าจะไปทำอาชีพอื่นทิ้งคุณหมอให้ต้องอยู่คนเดียว

“อย่าคิดว่าเป็นบุญคุณอะไรกันเลยกว่าที่คลินิกเราจะเปิดมาได้ขนาดนี้ถ้าผมไม่ได้คุณก็คงแย่เหมือนกันเราต่างก็พึ่งพาอาศัยกันวันนี้ผมก็อยากให้คุณมองหาทางเลือกอื่นที่มันจะดีไม่อยากให้มา จมปลักอยู่กับหมอจนจนอย่างผม”

หญิงสาวได้แต่ส่งยิ้มเพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของการมีบุญคุณแต่มันเป็นเรื่องของความผูกพันไปแล้วชีวิตของเธอตั้งแต่เรียนจบมาก็อยู่กับคุณหมอมาโดยตลอดมีเพียงเวลาแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้นที่เธอและเขาต่างแยกกันอยู่นอกนั้นชีวิตทั้งชีวิตก็เจอหน้ากันทั้งวันเพราะคุณหมอจะใช้เวลาในช่วงกลางวันเดินทางไปดูแลคนไข้ตามภูเขาสูงและมีเธอคอยไปด้วยตลอดเปรมิกาจึงคิดว่ามันเป็นความผูกพันที่เธอคงเลือกแล้วที่จะไม่ไปจากเขา

ความผูกพันของคนทั้งคู่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วตลอด 3 ปี ไม่มีวันไหนที่เปรมิกาจะไม่คิดถึงคุณหมอส่วนหมอคิรากรชีวิตของเขาก็มีเปรมิกาคอยอยู่เคียงข้างในทุกเวลาทั้งความทุกข์และความสุขจนเขาเองก็มองเห็นเธอเป็นเหมือนคนหนึ่งในครอบครัวมีทั้งความห่วงใยและความหวังดีให้

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้คุณหมอขอตัวไปรับสายซึ่งก็ไม่ใช่ใครโทรมาแต่คือลินดาแพทย์หญิงซึ่งเป็นคนรัก

ลินดาถึงแม้จะเป็นคนรักแต่เธอไม่เคยมาที่คลินิกแห่งนี้เลยเพราะไม่ชอบความลำบากและไม่เห็นด้วยกับการที่คิรากรตัดสินใจมาเปิดคลินิกที่นี่ ทั้งคู่จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยๆแต่สำหรับทันตแพทย์หนุ่มความฝันของเขาสำคัญและลินดาก็สำคัญเช่นกันเขาจึงพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ให้นานที่สุดถึงแม้จะรู้ว่าสุดท้ายแล้วถ้าเขาต้องการจะแต่งงานกับลินดาก็คงต้องเลิกทำคลินิกที่นี่

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ”

เปรมิการู้สึกเป็นห่วงเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าของคุณหมอหลังจากกลับมาจากการคุยโทรศัพท์กับคนรักแล้ว

“เปรมิกาคุณว่าความฝันกับความรักสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน”

คิรากรถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคุณหมอส่วนเปรมิกาเป็นแค่ผู้ช่วยนักศึกษาจบใหม่แต่เขาก็มักจะมีอะไรมาปรึกษาเธออยู่เสมอโดยเฉพาะเรื่องของลินดา

“ สองสิ่งนี้ก็คงต้องแล้วแต่ว่าเราโฟกัสที่สิ่งไหนมากกว่ากันถ้าสำหรับฉันแล้วความรักสำคัญที่สุดแต่ฉันก็เชื่อมั่นว่าถ้าคนคนนั้นรักเราจริงๆเขาคงจะไม่ทำร้ายเราด้วยการให้เราทิ้งความฝันที่เรารักเช่นกันค่ะ”

“ลินดาจะเลิกกับผม” คนพูดเสียงพึมพำอยู่ในคอเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ก่อนที่จะตั้งสติแล้วพูดต่อ

“เธอให้ผมเลือกว่าจะปิดคลินิกแล้วกลับไปเป็นหมอที่โรงพยาบาลเอกชนหรือว่าจะเลิกกับเธอ”

สองฝ่ามือหนาปิดไปที่หน้าเพื่อปิดซ่อนความอ่อนแอเพราะอย่างไรคิรากรก็ไม่อยากที่จะแสดงความรู้สึกทั้งหมดออกมาให้ เปรมิกาเห็นด้วยอายุของเขาที่มากกว่าเธอเกือบ 10 ปีเขาจึงเลือกที่แสดงเป็นคนเข้มแข็งเป็นผู้ใหญ่แต่เวลานี้ความอ่อนแอมันมากมายเหลือเกินจึงเลือกที่จะก้มหน้าและพยายามกลั้นความเสียใจไว้

“ร้องไห้ออกมาเลยค่ะถ้ามันจะช่วยให้คุณหมอรู้สึกดีบางครั้งเวลานี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่คุณหมอจะคิดหาคำตอบแต่มันคงเป็นแค่เวลาที่คุณหมอจะต้องทบทวนว่าอะไรที่สำคัญกับชีวิตคุณหมอที่สุด”

มือเล็กวางทาบทับลงไปที่มือหนาของผู้ชายที่เคยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง วันนี้เธอพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาในทุกหยดน้ำตาที่คุณหมอคงไม่สามารถเก็บซ่อนมันไว้ได้

เปรมิกาเข้าใจความรู้สึกทุกอย่างเพราะเธอรับรู้เรื่องราวความรักของผู้ชายตรงหน้ามาตลอดถึงแม้ทุกครั้งที่เขาเอาเรื่องราวของคนรักมาเล่าให้เธอฟังจะทำให้เธอเจ็บแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะเข้าใจและไม่ทิ้งเขาไปไหนเพราะความรู้สึกที่เธอมีให้เขามันเป็นเพียงแค่ความรักของเด็กจนโง่ๆคนหนึ่งที่ฝันถึงผู้ชายที่อยู่สูงเกินกว่าเธอจะเอื้อมไปถึงได้

อาหารบนโต๊ะถูกเก็บเหลือไว้แค่เพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นานๆครั้งคุณหมอจะดื่ม เวลาผ่านไปนานแค่ไหนทั้งคู่ต่างไม่รับรู้เพราะตลอดเวลาเปรมิกานั่งเพียงแต่รับฟังความทุกข์ในใจที่คิรากรต้องการระบายให้เธอได้รับรู้ เมื่อรู้ว่าเขาเริ่มรู้สึกดีขึ้นหญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะชวนคุณหมอกลับแต่เมื่อดูจากท่าทางแล้วเขาคงไม่มีสติพอที่จะขับรถและเธอก็คงต้องเป็นคนพาเขากลับขึ้นไปยังห้องนอนที่ทั้งคู่เช่าอพาร์ทเม้นท์ไว้อยู่ข้างกัน