12 ใต้แสงเทียน NC
“คืนนี้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนนะครับ คุณชอบมั้ย”
“ชอบสิคะ”
“คุณชอบไวน์แดงหรือไวน์ขาว”
“ชอบไวน์ขาวค่ะ”
“งั้นชนแก้วครับ”
“เมนูสเต็กเนื้อทานคู่กับไวน์ขาวหรือไวน์แดงก็อร่อยทั้งนั้นครับ” ซึ่งอาหารวันนี้ก็มีมากมายเต็มโต๊ะไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ฟิชแอนด์ชิป คาลามารี กุ้งผัดซอสสไตล์หลุยเซียนา พาสตา สปาเกตตี ไวท์ครีมซอส สเต๊กปลากะพง
“มื้อหน้าคุณพาฉันไปกินขันโตกบ้างสิ มาทางเหนือทั้งที”
“คุณชอบอาหารเหนือเหรอ ได้สิ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจัดให้”
หลังจากมื้อค่ำที่สุดแสนจะโรแมนติกได้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ทั้งสองนั่งชมบรรยากาศข้างนอกอยู่นั้น
“กลับไปรอบนี้เห็นทีผมจะต้องคุยกับคุณแม่ของคุณจริง ๆ จัง ๆ สักทีแล้วล่ะ
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“ก็เรื่องของลูกสาวท่านมาเป็นภรรยาไงครับ”
หล่อนเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง ภาคินัยก็บอกอีกว่า
“ส่วนสู่ขออย่างเป็นทางการผมจะพาคุณแม่ของผมไปอีกทีระหว่างนี้ให้คุณแจ้งคุณแม่ไว้ก่อนคร่าว ๆ นะครับ” แล้วหล่อนก็อึ้งไปอีกรอบ ก้าวขาแทบไม่ออกกระทั่งภาคินัย อ้อมจากโต๊ะอีกฝากหนึ่ง มาจูงมือหล่อนให้เดินเข้าบ้านด้วยกัน...
“เข้าบ้านกันเถอะเจน น้ำค้างเริ่มลง เดี๋ยวคุณจะไม่สบาย”
“อืมห์..ค่ะ” จากนี้ต่อไปคือชีวิตการแต่งงานซินะ ...ต่อไปหล่อนจะมีใครอีกคน เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิต ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่ว่าอนาคต ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หล่อนก็พร้อมจะเผชิญเพราะทั้งหมดทั้งมวลคือการตัดสินใจแล้วของตัวเอง
การตัดสินใจวางชีวิตไว้กับผู้ชายคนหนึ่งอย่างยินยอมพร้อม ใจ วางไว้กับผู้ชายที่แม้จะเฉียบขาดและเคร่งขรึม แต่เมื่อได้สัมผัส ตัวตนของเขาจริงๆ หล่อนก็พบว่าภาคินัย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จับใจยิ่งกว่ารูปสมบัติที่เหลือเฟือของเขาเสียอีก แน่นอนว่า ในนั้นมีความรักที่เขามีต่อหล่อน ...ซึ่งหล่อนก็ได้ฟังแค่จากปากเขา และสัมผัสความรักของเขาได้ด้วยหัวใจของตัวเอง
“เจน ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว คุณอยากมีลูกเลยมั้ย” คําถามของเขาตอบง่ายมาก ถ้ามันไม่ได้มาพร้อมกับประกายตาที่มีอีกสมญา คือร้อน..และแรง ขนาดทำให้แทบละลาย กลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ถ้าไม่มีเขากอดพยุงอยู่ล่ะก็หล่อนคงล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว
คุณพระคุณเจ้า หล่อนรู้ว่าช่วงเวลานี้แสนจะน่าหวาดหวั่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเย้ายวนเหลือเกิน...จริงๆ นะมันทำให้หล่อน รู้สึกว่ากําลังจะกลายเป็นเด็กใจแตก และผู้หญิงอายุยี่สิบสามนี่ เรียกว่าเด็กใจแตกได้ไหม หากหล่อนอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร…ถ้า ริมฝีปากได้รูปเร้าใจของเขาแนบกับปากหล่อนอีกครั้ง แนบลงมา เหมือนกับเมื่อตอนอยู่ที่น้ำตกนั่น…
“คุณภาคย์คะ” หล่อนเรียกเขาเสียงเลื่อนลอย หัวใจสั่นหวิว เป็นกระดิ่งต้องลมไปนานแล้ว
“หืมมม” เขาตอบรับเพียงแค่นี้ ...เพียงแค่นี้จริงๆต่อจากนั้น หล่อนก็ได้ยินเสียงครางชื่อหล่อนราวกับจะขาดใจก่อนที่เขาจะแนบริมฝีปากลงมาหา....
“อื้อ!” เจนจิราร้องครางออกมาเบาๆ ในลำคอเมื่อร่างของเธอถูกมือใหญ่กระตุก จนร่างเล็กเกยทับร่างหนา เขาพลิกกายให้อยู่เหนือร่างอรชร ประกบปากทาบทับกลีบปากนุ่มอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเปิดปากรอรับลิ้นใหญ่ที่ถูกส่งเข้ามาเกาะเกี่ยวพันลิ้นเล็กของเธอแลกรัดอย่างดูดดื่ม
ภาคินัยจูบเธอเหมือนคนกระหายในรสสวาทเต็มกำลัง เร่าร้อนจนร่างเล็กหนาวสั่น หวามไหวไปทั่วอณูผิว เขาอยากจะสัมผัสมันทุกครั้งที่เห็นด้วยซ้ำ ต่างกับผู้หญิงที่ผ่านมาของเขา ที่อย่างมากก็หนึ่งเดือน เร็วสุดก็สามวันเขาก็จะโละทิ้ง เพราะความเบื่อหน่ายเข้ามาครอบงำจิตใจ
ภาคินัยซอกซอนหาความหวานจากกลีบปากบางไปด้วย ในขณะที่มือเริ่มปลดกางเกงชั้นนอกและชั้นในของเธอออกด้วยความชำนิชำนาญ ท่อนล่างเปล่าเปลือยสมความตั้งใจของเขา ตอนนี้ก็เหลือแต่อาภรณ์ท่อนบน ภาคินัยไม่รอช้าที่จะจัดการมัน เขาผละริมฝีปากออกจากเรียวปากบางที่บดเคล้าอยู่นาน เพื่อจัดการกับเสื้อผ้าท่อนบนของเธอให้หลุดออกจากร่าง
อุ้งมือใหญ่ของเขาคว้าจับทรวงอกพุ่มสวยทันทีที่ร่างกายสาวเปล่าเปลือย บีบเคล้นราวกับว่าไม่ได้แตะต้องสัมผัสมันมานาน อกอวบทั้งสองข้างจึงถูกฝ่ามือใหญ่ทั้งเคล้นทั้งคลึง ปลายนิ้วโป้งบดบี้ยอดถันอย่างสนุกมือ ก่อนที่เขาจะครอบงับยอดถันที่ชูช่อเป็นตุ่มสวย ดูดกลืนเยี่ยงทารกที่โหยหิวน้ำนมจากมารดา เสียงครางเล็กๆ ถูกเปล่งออกมา พร้อมกับกายสาวที่สะบัดพลิ้วบนที่นอน เสียววาบไปทั่วกาย
“คุณภาคย์” เสียงหวานครางกระเส่า ทรมานกับความเสียวซ่านที่ไหลอาบไปทั่วร่างวิ่งวนไปตามกระแสเลือด มือนุ่มลูบไล้แผ่นหลังของภาคินัยไปมาจิกบ้างบีบบ้างตามจังหวะ
อุ้งปากหนาที่ยังคงดูดดื่มยอดถันไม่ยอมหยุด เขาละจากเต้าทรวงอวบใหญ่หลังจากที่ดื่มด่ำจนพอใจ เลื่อนริมฝีปากขึ้นไปยังเนินอก ขบเม้มผิวเนื้อละเอียดอ่อนจนเกิดรอยจ้ำ ก่อนจะลากปลายลิ้นไปยังลำคอควานหาความหอมของกลิ่นกายสาวรอบ ๆ จากนั้นปากและลิ้นของเขาเลื่อนขึ้นไปยังใบหู ใช้ปลายลิ้นสะบัดไปมาที่ติ่งหู ระรัวจนเธอครางซี้ด เสียงซี้ดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นครางเบาๆ เมื่อเขานำลิ้นสากใหญ่เข้าไปในส่วนรับฟัง กระดกไปมาเพิ่มความกระสันให้กับสาวร่างเล็กโดยมือแกร่งนวดเฟ้นเต้าอวบไม่ห่าง
มือใหญ่ค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ มาหยุดนิ่งที่ใจกลางร่างสาว พบเจอกับขนปุยนุ่มละมุนมือน่าลูบไล้ ฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาใช้ปลายนิ้วชี้ชำแรกแทรกไปตามร่องกลีบสาวถูไถไปมาจนเธอดิ้นพล่าน เน้นน้ำหนักมือที่จุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกาย เม็ดอัญมณีสีสวยถูกนิ้วใหญ่สะกิดหยอกเย้าไม่ห่าง เร่งเร้าจนเธอกรีดร้องดิ้นทุรนทุราย ส่ายร่างดั่งงูที่เลื้อยไปตามผืนทราย ปากและลิ้นของเขาทำงานอย่างต่อเนื่อง เลื่อนมาประกบกลีบปากสาวที่เผยอร้องครางไม่หยุด พันเกี่ยวลิ้นนุ่มที่ตอบสนองจูบกลับมาด้วยความเร่าร้อนในอารมณ์ ไฟสวาทลุกโชนจนเขาและเธอแทบจะมอดไหม้
