บท
ตั้งค่า

๖ กินอิ่มทุกวันคืน 4

“จะเจ็บไหม” เธอถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอไม่เคยทำมาก่อนและเหมือนเขาจะทราบเป็นอย่างดีจากอาการสั่นสะท้านของคนใต้ร่าง ยกยิ้มมุมปากแล้วลูบศีรษะมนเหมือนเป็นการปลอบปะโลม จากนั้นค่อยโน้มลงมาจูบที่ปากนุ่มอีกครั้ง

“ไม่หรอก ฉันจะอ่อนโยนกับเธอให้มากที่สุด” พูดจบก็เอานิ้วออกแล้วแรกกายเข้าไปแทน ขนาดของเขาไม่ได้เล็กทั้งช่องทางของเธอก็ค่อนข้างแคบ ทำให้หญิงสาวเผลอร้องด้วยความเจ็บทั้งยังอ้อนวอนให้หยุด

“เจ็บ เจ็บค่ะ...พอเถอะนะ” เหมือนคำขอของเธอจะไม่ได้ผล เขายังคงดันกายเข้ามาเหมือนเดิมโดยที่มือหนาจับทรวงอกทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ขย้ำอย่างมันมือพร้อมใช้นิ้วสะกิดที่ปลายยอดจนเป็นแข็งเป็นไต เขี่ยไปมาแล้วเฝ้ามองใบหน้าหวานยามเหยเกด้วยความสุขล้นอุรา

ไม่มีคำขอร้องให้หยุดนอกจากเสียงครางหวานจากคนใต้ร่าง ร่างหนาได้เข้าไปจนสุดแล้วแช่ค้างเอาไว้อย่างนั้น รอให้เธอปรับตัวได้จึงเริ่มเคลื่อนกายอย่างเชื่องช้า ก่อนเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนในหูมีเพียงเสียงของเนื้อกระทบกัน ไม่ใช่ฝนตกหรือฟ้าผ่าอีกต่อไป

ท้องฟ้ายังคงร้องคำรามกลบเสียงครวญครางของชายหญิงที่กอดเกี่ยวกันบนเตียงได้เป็นอย่างดี มือหนาแหวกขาเรียวให้แยกออกจากกันกว้างกว่าเดิม กระแทกกายเข้าไปไม่ออมแรง ยิ่งใกล้ถึงฝั่งฝันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ยินเสียงกระทบมากเท่านั้น

จนกระทั่งลำตัวของเธอคล้ายลอยอยู่บนปุยเมฆแล้วตกลงบนเตียงในเวลาต่อมา ดวงตาเห็นใบหน้าคมที่แสนเลือนลาง รับรู้ได้เพียงว่าเขากระแทกใส่ตนเน้นหนักในครั้งสุดแล้วโน้มกายลงมาจุมพิตที่ปากอวบอิ่ม

แต่นั่นไม่ใช่รอบสุดท้ายเพราะแค่ได้เริ่มก็เหมือนเสพติดไปเสียแล้ว ฟ้าฝนเป็นใจร้องกระหน่ำตลอดค่ำคืน ส่วนเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยมสอนหล่อนจนเกือบรุ่งสางกระทั่งในหยุดตกร่างบางก็ยังครางไม่ได้หยุดจนเสียงแหบ

ช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนานเหลือเกินในความคิดของเธอ...

ตื่นขึ้นมาในเช้าของวันจันทร์ที่ต้องไปทำงาน หล่อนนอนตะแคงมองหน้าต่างที่มีม่านปิดแสงทำให้ห้องตกอยู่ในความมืดแม้จะเป็นรุ่งอรุณก็ตาม แสงตะวันไม่อาจสาดส่องเข้ามาได้แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้สายกว่าปกติที่ตนต้องลุกจากเตียง

เมื่อคืนกว่าเขาจะปล่อยให้หล่อนได้หลับก็ย่างเข้าวันใหม่และฝนหยุดตกไปแล้ว ประสบการณ์ที่ได้รับค่อนข้างแปลกใหม่แต่กลับย่นระห่างของเราสองคนให้ใกล้กันมากกว่าเดิม เธอสวมเสื้อตัวใหญ่ของเขาโดยมีมือหนากอดที่เอวเอาไว้ไม่ยอมให้ห่างกัน

ฟังเสียงลมหายใจที่ดังข้างหูก็ใจเต้นรัวขึ้นมา ยิ่งภาพเมื่อคืนตามมาหลอกหลอนก็อยากรีบลุกจากเตียง ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสามีที่ไม่ใช่แค่ทางนิตินัยอย่างเดียว แต่เป็นสามีทางพฤตินัยด้วย

“จะไปไหนแต่เช้า” จังหวะที่กำลังยกแขนเขาออกจากเอว กลับถูกสามีดึงเข้าไปกอดเหมือนเดิมพร้อมถามเสียงงัวเงียไม่ยอมลืมตาด้วยซ้ำ

“ทำงาน...” เสียงอู้อี้อยู่ในลำคอแต่เขากลับได้ยินชัดเจน

“วันนี้วันอาทิตย์” ร่างหนาตอบทันทีกลับโดนเธอพูดเสียงดังเหมือนต้องการเตือนสติคนที่หลงลืมวันไปเสียแล้ว

“วันจันทร์ต่างหาก!” ค่อยเปิดเปลือกตาแล้วมองนาฬิกาข้างฝาผนัง พบว่ายังเป็นเวลาเช้าจึงไม่ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ กอดร่างแบบบางเอาไว้ถึงตอนนี้ตัวเองจะตัวเปลือยล่อนจ้อนเพราะเสื้อที่เขาใส่นอนอยู่บนตัวภรรยา

“เพิ่งหกโมงครึ่งเอง อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาเข้างาน แล้วอำเภอก็อยู่ใกล้แค่นี้จะรีบไปไหน” ดูท่าเขาคงไม่คิดจะปล่อยเธอง่ายๆ จึงต้องใช้ลูกไม้กันสักหน่อย

“หิว”

“หิวเหมือนกัน” ปากอวบอิ่มยกยิ้มทันที คิดว่าอย่างไรเขาก็คงจะปล่อยหล่อนแล้ว

“หิว หิวแล้วทำไม อื้อ” แต่มือหนากลับสอดเข้ามาในเสื้อยืดแล้วจับทรวงอกนุ่ม ทั้งยังใช้นิ้วขยี้ยอดถันจนชูชันอีกต่างหาก เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจพยายามจับมือเขาเอาไว้สลับกับครางเสียงแผ่วกับอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า

“หิวหอมต่างหาก” หลังจบประโยคนั้นหญิงสาวก็ถูกเขารบกวนในช่วงเช้า ละเลียดชิมความหวานจนเธอครางไม่ได้ศัพท์อยู่ใต้ร่างหนา

กว่าจะยอมปล่อยหอมนวลเป็นอิสระก็เกือบไปทำงานแล้ว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel