บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 แท็กซี่

“เอ่อ..ชะใช่ครับ” เกริกฤทธิ์ตอบกลับแบบงงๆกับคำถามที่สิงหวัตส่งมาให้แต่ก็เออออตามเจ้านาย

“สโมสรใหญ่และดังขนาดนั้นจิวไม่กล้าไปสมัครหรอกค่ะ กลัวว่าจะไม่มีความสามารถพอที่ผ่านจนได้เข้าไปทำงาน สโมสรดังแบบนั้นคนสมัครต้องเยอะแน่ๆค่ะ”

แรกๆที่ได้ยินลูกค้าหนุ่มบอกถึงเรื่องงาน จิวลดารู้สึกดีใจเพราะเป็นตำแหน่งงานที่เธออยากได้ เนื่องจากเธอเรียนสายประชาสัมพันธ์มา แต่พอนึกถึงองค์กรที่สองหนุ่มสังกัดอยู่ จิวลดาก็เกรงว่าเธอจะไม่ผ่านการสมัคร สโมสรใหญ่ระดับประเทศแบบนี้คงมีแต่คนแย่งกันอยากเข้ามาทำงาน

“ถ้าเธอสนใจเดี๋ยวฉันกับพี่เกริกจะช่วย ใช่มั้ยครับผู้จัดการ” เป็นอีกครั้งที่เกริกฤทธิ์ต้องงุนงงกับการกระทำของคนตรงหน้า แต่ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้รอถามชายหนุ่มตอนกลับ

“ครับ ใช่ครับถ้าจิวสนใจเดี๋ยวพี่กับสิงห์จะช่วยดูให้”

“เอ่อ”

“ฉันว่ามันเป็นงานที่น่าสนใจนะ และน่าจะเหมาะกับเธอ อีกอย่างมันก็เป็นงานช่วงกลางวันเท่านั้น เธออาจจะต้องอยู่เลยเวลางานบ้างถ้าหากว่าที่สโมสรมีแข่งแล้วทางเราเป็นเจ้าภาพ”

สิงหวัตยังคงกระตุ้นให้หญิงสาวสนใจเมื่อเห็นท่าทางลังเลของอีกฝ่าย จิวลดายืนนิ่งมองหน้าสิงหวัตสลับกับเกริกฤทธิ์ด้วยท่าทีครุ่นคิด

“งั้นจิวจะลองไปสมัครดูค่ะ แล้วเขาเปิดรับสมัครเมื่อไหร่คะ” เสียงหวานไม่มั่นใจนั้นถามกลับชายหนุ่มทั้งสองที่เสนองานให้เธอ

“ถ้าหากว่าเธอสนใจพรุ่งนี้เข้าไปสมัครที่สโมสรได้เลย” สิงหวัตวางแก้วในมือลงบนโต๊ะแล้วบอกหญิงสาวพร้อมส่งสายตาที่ดูอบอุ่นไปให้จนคนถูกมองรู้สึกวูบวาบ

จิวลดารู้สึกแปลกใจอยู่บ้างที่ผู้ชายคนที่บอกว่าเป็นเพียงนักกีฬาของสโมสร ดูท่าทางมีอำนาจมากกว่าคนที่เป็นผู้จัดการสโมสร ถึงแม้เธอจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องของฟุตบอลมากนัก แต่ก็พอจะรู้ว่าผู้จัดการทีมคือคนที่นักเตะต้องฟังและให้ความเคารพ แต่ท่าทางของคนที่ชื่อสิงหวัตที่เธอพึ่งรู้จักเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้ ดูท่าทางการแต่งกายและการพูดแล้วเหมือนคนที่เป็นนักธุรกิจมากกว่านักกีฬา และยังดูเหมือนมีอำนาจมากกว่าผู้จัดการที่ชื่อเกริกฤทธิ์เสียอีก

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้จิวจะลองเข้าไปสมัครดูค่ะ”

เมื่อเห็นความตั้งใจของคนที่อยากช่วยหางานให้เธอ ซึ่งดูจริงจังแม้จะพึ่งรู้จักกัน จิวลดาจึงตอบตกลงที่จะไปสมัครงานตามที่คนทั้งคู่บอก อย่างน้อยลองดูก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ถ้าได้ก็เป็นโอกาสที่เธอจะได้เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อเป็นใบเบิกทางให้เธอหาเงินได้มากกว่างานเสริ์ฟที่ทำอยู่ตอนนี้ หนี้สินของครอบครัวที่มีก็จะได้เบาบางเร็วขึ้น แต่ถ้าหากไม่ได้เธอก็แค่ทำงานเสริ์ฟที่นี่ต่อไปและอาจต้องหางานทำเพิ่มเพื่อหาเงินมาใช้หนี้นอกระบบที่ใกล้จะถึงเวลาชดใช้ คิดแล้วหญิงสาวก็เผลอถอนหายใจออกมาจนสิงหวัตที่ลอบมองอยู่สังเกตได้

“บอกเบอร์ของเธอมาสิ”

สิงหวัตบอกจิวลดาพร้อมหยิบสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังที่ยังไม่เปิดขายในประเทศไทยแต่ชายหนุ่มบินไปซื้อถึงต่างประเทศขึ้นมาเพื่อจะบันทึกเบอร์หญิงสาว เมื่ออีกฝ่ายตกลงที่จะไปสมัครงานที่สโมสรของเขาในตำแหน่งที่เขาพึ่งเปิดรับสมัครตอนเข้ามานั่งในร้านแห่งนี้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน คนถูกขอเบอร์เอียงหน้ามองชายหนุ่มด้วยท่าทีแปลกใจ

“ขอเบอร์เผื่อว่าพรุ่งนี้เธอไปถึงที่สโมสรแล้วต้องการความช่วยเหลือจะได้โทรหาฉัน บอกมาก่อนเดี๋ยวฉันโชว์เบอร์ไปหา” สิงหวัตยกข้ออ้างมาเพื่อจะได้เบอร์ติดต่อของหญิงสาวอย่างแยบยล

เสียงโทรศัพท์ที่สั่นในกระเป๋าเอี๊ยมแบบครึ่งตัวทำให้ จิวลดาล้วงไปจับแต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาดู

“ฉันโชว์เบอร์ไปแล้วนะถ้ามีอะไรโทรหาได้ตลอดเวลา” สิงหวัตบอกกับจิวลดาเมื่อเห็นเธอทำท่าล้วงไปจับโทรศัพท์ที่มีไฟสว่างวาบในกระเป๋าเอี๊ยม

“แล้วนี่น้องเลิกงานกี่โมง” เกริกฤทธิ์ที่นั่งเงียบมานานถามเด็กสาว

“ร้านปิดสี่ทุ่มค่ะกว่าจะเก็บร้านเสร็จก็ประมาณห้าทุ่มกว่าค่ะ”

“งั้นแสดงว่าอีกสิบนาทีร้านก็ปิดล่ะสิ แล้วกลับยังไงล่ะ” เกริกฤทธิ์ยังคงถามหญิงสาวต่อและก็เป็นคำถามที่เจ้านายหนุ่มของเขาถูกใจอยู่ลึกๆเพราะเป็นคำถามที่สิงหวัตต้องการรู้ ชายหนุ่มส่งสายตาไปหาเกริกฤทธิ์เป็นเชิงว่าถูกใจในคำถามของผู้จัดการหนุ่ม

“เอ่อ หนูกลับแท็กซี่ค่ะ”

“งั้นเธอเช็คบิลเลยละกันเดี๋ยวฉันก็จะกลับกันแล้ว”

สิงหวัตบอกจิวลดาก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตนเองและควักบัตรเครดิตยื่นให้หญิงสาว จิวลดาจึงรับมาแล้วรีบไปจัดการค่าใช้จ่ายให้ชายหนุ่ม

“ชัช เอารถมาส่งที่Lake View Restaurant หน่อย” โทรศัพท์เครื่องหรูถูกสิงหวัตหยิบออกมาต่อสายหาเลขาคนสนิทเพื่อให้นำรถมาส่งให้เขา

“อ่าว แล้วไม่กลับด้วยกันเหรอครับ” เกริกฤทธิ์ถามขึ้นเมื่อชายหนุ่มวางสายเรียบร้อยแล้ว

“พอดีคืนนี้ผมอยากเป็นแท็กซี่ครับ” สิงหวัตตอบเกริกฤทธิ์ด้วยท่าทีเหมือนหนุ่มนักรักพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel