บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 สะดุดใจ

เสียงร้องไห้เบาๆพร้อมเสียงพูดคุยโทรศัพท์ที่ดังมาจากห้องจัดเลี้ยงของสโมสรฟุตบอลบางกอกธันเดอร์เอฟซี สะกดให้เท้าที่กำลังเดินผ่านบริเวณหลังห้องจัดเลี้ยงหยุดชะงัก เสียงปลายสายที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินถึงแม้เจ้าของโทรศัพท์จะไม่ได้เปิดสปีกเกอร์โฟน แต่ความเงียบของบริเวณโดยรอบห้องจัดเลี้ยงที่พึ่งร้างผู้คนจากมื้อกลางวันก็ส่งผลให้คนที่กำลังจะเดินผ่านได้ยินการสนทนานั้นอย่างชัดเจน

“จิวขอเวลาภายในสิ้นเดือนนี้ได้มั้ยคะ จิวจะพยายามหาเงินมาจ่ายคืนให้เจ๊ค่ะ” เสียงสะอื้นไห้ปนความเศร้าพยายามเอ่ยขอร้องคนปลายสายที่กำลังแผดเผาวาจาใส่เธอ

“นี่หล่อนขอเลื่อนฉันมากี่ครั้งแล้ว ฉันไม่ใช่มูลนิธิที่จะให้พวกเธอยืมเงินแล้วไม่ต้องใช้คืน ฉันให้เวลาอีกแค่หนึ่งอาทิตย์ถ้าเธอและแม่ของเธอหาเงินมาคืนฉันไม่ได้ฉันจะให้คนไปพังบ้านพวกเธอจนไม่เหลือชิ้นดีเลยคอยดู”

คำพูดที่ไร้ความเมตตาและการข่มขู่ของเจ้าหนี้นอกระบบทำให้จิวลดาหญิงสาววัยยี่สิบห้าปีนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นหลังจากที่วางสายกับอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว จิวลดาสมัครมาทำงานเป็นพนักงานเสริ์ฟของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง เนื่องจากวุฒิปริญญาตรีที่เธอมียังไม่สามารถนำพาเธอให้หางานที่ตรงสายและเหมาะกับเธออย่างที่เคยทำได้

วันนี้ทางร้านที่จิวลดาทำงานได้รับงานจัดเลี้ยงนอกสถานที่ภายในสโมสรบางกอกธันเดอร์เอฟซี สโมสรไทยลีกอันดับหนึ่งของไทยที่มีสิงหวัต คหเวชกุล ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีเป็นผู้บริหารและเจ้าของสโมสร

สิงหวัตคือหนึ่งในนักฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยมของสโมสรใหญ่แห่งหนึ่งในพรีเมียร์ลีก ด้วยความที่มีลูกเล่นที่แพรวพราวจึงทำให้เข้าตาแมวมองของสโมสรทางฝั่งยุโรป ก่อนที่ชายหนุ่มจะตกลงเซ็นสัญญาไปค้าแข้งอยู่ที่ยุโรปตั้งแต่อายุยี่สิบห้าปี ฝีเท้าที่ไม่เป็นรองใครในสโมสรดังที่ชายหนุ่มไปค้าแข้ง ทำให้สิงหวัตคือนักเตะที่มีค่าตัวพุ่งสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของสโมสรแต่เมื่อถึงเวลา สิงหวัตก็ต้องกลับมาทำตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้กับบิดาในการสานต่อธุรกิจของครอบครัว โดยบิดาของสิงหวัตได้เทคโอเวอร์สโมสรบางกอกธันเดอร์เอฟซี สโมสรอันดับหนึ่งในไทยลีกเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกชายที่ยอมกลับมาสานต่อธุรกิจด้านน้ำมันของครอบครัวควบคู่ไปกับการบริหารงานด้านฟุตบอลที่ชายหนุ่มชอบ

ทางฝั่งจิวลดาที่กำลังมืดแปดด้านเพราะอับจนหนทางที่จะหาเงินสองแสนมาใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้นอกระบบที่เธอและแม่ไปหยิบยืมเพื่อมารักษาพ่อที่ต้องฟอกไตทุกอาทิตย์ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจรักษาชีวิตพ่อของเธอเอาไว้ได้ และเนื่องจากต้องทำงานหาเงินมาส่งตัวเองเรียนเพราะไม่อยากรบกวนพ่อกับแม่ที่ค่อนข้างลำบาก ที่ผ่านมาจิวลดาจึงเรียนบ้างดรอปบ้างทำให้หญิงสาวจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

พอเรียนจบหญิงสาวก็ได้งานทำเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ทำได้ไม่นานอาการพ่อของเธอก็ทรุดลง จิวลดาจึงต้องลาออกงานมาช่วยดูแลพ่อและคอยพาไปโรงพยาบาลจนกระทั่งพ่อของเธอจากไป เหลือไว้แต่หนี้ก้อนใหญ่ที่เธอกับผู้เป็นแม่ต้องหามาชดใช้ แต่หญิงสาวไม่เคยเสียใจที่ต้องลำบากเพราะผู้มีพระคุณ จิวลดาเต็มใจทำแม้สุดท้ายแล้วจะไม่อาจยื้อชีวิตพ่อของเธอไว้ได้ แต่เธอก็ได้ทำหน้าที่ลูกอย่างสุดกำลัง

“พอจะมีอะไรให้ผมทานบ้างมั้ยครับ พอดีผมหิว”

เสียงที่ดังขึ้นเรียกสติของหญิงให้สาวกลับมาดังเดิม ชายหนุ่มรูปร่างสูงสมาร์ทหุ่นนักกีฬาที่อยู่ในชุดเสื้อยึดกางเกงยีนส์แล้วสวมทับด้วยสูทสลิมฟิตเหมือนที่นักธุรกิจทั้งหลายชอบใส่เวลาออกงานที่ไม่เป็นทางการกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

“เอ่อ..พอดีห้องนี้จัดไว้สำหรับอาหารกลางวันนักกีฬาของสโมสร คุณเป็นนักกีฬาของที่นี่เหรอคะ”

เพราะไม่แน่ใจในท่าทีของคนตรงหน้า เนื่องจากนักกีฬาส่วนใหญ่ก็ทานกันไปหมดแล้ว จิวลดากำลังจะเก็บไลน์บุฟเฟ่ต์และห่ออาหารที่เหลือไว้ให้คนจัดงานจึงไม่กล้าที่จะแบ่งปันอาหารให้คนอื่นโดยพลการ เพราะหากเจ้าของงานหรือเจ้านายเธอมาเห็น เธอต้องโดนดุที่ปล่อยผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาทานอาหารในห้องนี้ ในสโมสรแห่งนี้มีสต๊าฟและผู้มาเยือนหลากหลาย จิวลดาจึงไม่รู้ว่าใครมีสิทธิ์ทานอาหารในมื้อกลางวันนี้บ้างนอกจากนักกีฬาของสโมสร

“ผมเป็นนักกีฬาของที่นี่”

สิงหวัตพอจะเดาออกในสิ่งที่หญิงสาวกังวลจึงรีบพูดแนะนำตนเองแบบผิวเผินให้คนตรงหน้าวางใจ

“คุณเป็นนักกีฬาของที่นี่?”

จิวลดาเลิกคิ้วมองหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่แน่ใจเพราะนักกีฬาที่พึ่งทานอาหารเสร็จไปแล้วส่วนมากใส่ชุดนักฟุตบอลกันทั้งทีม แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนี้แต่งตัวดูภูมิฐานกว่า แม้ชุดที่สวมใส่จะไม่สามารถปกปิดร่างกายกำยำและแข็งแกร่งนั้นได้ ซึ่งดูเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาดูเหมือนนักกีฬา

“พอดีผมพึ่งมาจากข้างนอกเลยยังไม่ได้เปลี่ยนชุด คิดว่าถ้าพอได้ทานข้าวสักนิดคงมีแรงไปเปลี่ยนชุดลงซ้อมกับทีม”

สิงหวัตรู้ว่าหญิงสาวสงสัยในตัวเขาแต่ชายหนุ่มก็สามารถตอบทุกข้อสงสัยให้กับเธอได้

“อ๋อค่ะ..งั้นเดี๋ยวคุณทานอะไรได้บ้างคะพอดีอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์บางอย่างก็หมดแล้วแต่บางอย่างก็ยังมีเยอะอยู่ ฉันกำลังจะห่อไว้ให้คนจัดงานพอดีค่ะ ยังไงคุณเลือกทานก่อนก็ได้ เดี๋ยวคุณทานเสร็จฉันค่อยเก็บ” จิวลดาบอกกับคนร่างสูงที่ยืนไม่ห่างเธอมากนัก

“คุณตักให้ผมหน่อยได้มั้ย ผมขี้เกียจเดินดูว่ามีอะไรทานบ้าง ผมทานได้หมดเอากับข้าวแค่สองอย่างก็พอ เดี๋ยวผมต้องรีบไปลงซ้อมกับเพื่อนในทีม”

สิงหวัตบอกกับจิวลดาพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ จริงๆแล้วชายหนุ่มพึ่งทานอาหารมาจากข้างนอกก่อนจะเข้ามาที่สโมสร

วันนี้สิงหวัตให้ผู้จัดการสโมสรสั่งอาหารจากร้านข้างนอกมาเลี้ยงทัพนักเตะเป็นกรณีพิเศษที่สามารถเอาชนะในการเป็นทีมเยือนคู่แข่งได้เมื่อสองวันก่อน แต่เนื่องจากยังมีโปรมแกรมแข่งที่สำคัญอีกหลายโปรแกรม ชายหนุ่มจึงให้เลี้ยงอาหารมื้อพิเศษช่วงกลางวันไปก่อนแล้วจะจัดเลี้ยงให้อย่างเต็มที่อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล

“เอ่อ…ก็ได้ค่ะ” จิวลดาลังเลอยู่สักครู่ก่อนจะเดินไปตักอาหารให้ชายหนุ่มตามที่เขาขอ เพราะถ้าหากยังยืนคุยกันไปมาแบบนี้เธอก็คงไม่ได้เก็บไลน์บุฟเฟ่ต์สักที

สิงหวัตนั่งรอไม่นานอาหารสองอย่างพร้อมข้าวสวยจานโตและผลไม้ก็ถูกยกมาวางตรงหน้าเขา

“ขอบคุณครับ”

สิงหวัตเอ่ยขอบคุณหญิงสาวที่คอยบริการเขา ชายหนุ่มลอบสังเกตผู้หญิงที่พึ่งนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องนี้เมื่อหลายนาทีก่อน เสียงสะอื้นไห้ของเธอฟังดูช่างรวดร้าวในความรู้สึกของคนฟังจนดึงให้เขาต้องเดินเลี้ยวเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงนี้ แล้วก็ได้เห็นคนตรงหน้าซึ่งเป็นเจ้าของเสียงร้องไห้นั้นนั่งอยู่คนเดียวในห้อง ชายหนุ่มแอบมองเธออยู่นานกว่าที่จะตัดสินใจเข้ามาทักทาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel