14 งานแรกของคลับ
ทันใดนั้น ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวของแทนไทอย่างชัดเจน ข้าวโอ๊ต! คืนนั้นที่บาร์ ข้าวโอ๊ตเคยพูดถึง The Velvet Room ความจริงที่น่าตกใจกำลังจะถูกเปิดเผยทีละน้อย
“นึกออกแล้ว” แทนไทเอ่ยขึ้นช้าๆ สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาทันที
“แล้วคุณรู้จักข้าวโอ๊ตไหม” แทนไทถาม น้ำเสียงเย็นชาลงกว่าเดิม
“รู้สิ! ทำไมจะไม่รู้ ฉันเป็นคนสอนงานเค้าเองกับมือ” อาร์มตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก แต่ในแววตาของเขาไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
“หมายความว่า...” แทนไทพูดค้างไว้ในลำคอ ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังถาโถมเข้าใส่
“ข้าวโอ๊ตอยากจะออกจากคลับของเราไป ก็เลยต้องหาคนมาแทนน่ะ แล้วคนนั้นก็เป็นนายไง” อาร์มอธิบายอย่างใจเย็น ราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องดินฟ้าอากาศ
“ไอ้โอ๊ต...มึง!!!” แทนไทกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ เลือดในกายเดือดพล่านด้วยความโกรธ เขารู้สึกเหมือนถูกเพื่อนสนิทหลอกให้กลายมาเป็นตัวแทน
“ก่อนที่นายจะไปเอาคืนเพื่อน ก็จงทำหน้าที่ของตัวเองก่อนเถอะ” อาร์มพูดอย่างราบเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยคำเตือนที่หนักแน่นในน้ำเสียง เขาไม่ได้ต้องการให้แทนไทก่อปัญหาตอนนี้ เพราะสถานการณ์มันซับซ้อนกว่าที่คิดมากนัก
แทนไทมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย ความโกรธแค้นเพื่อนเริ่มปะปนกับความสับสน อาร์มเห็นแววตาของแทนไท จึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริงบางอย่าง
“ฉันรู้ว่านายโกรธเพื่อนของนาย แต่ตอนนี้ข้าวโอ๊ตมันก็กลายมาเป็นลูกค้าวีไอพีของคลับเราไปแล้ว และผู้ให้บริการก็คือคุณชมพู่นั่นแหละ” อาร์มหยุดชั่วครู่ ดวงตาของเขาฉายแววบางอย่างที่แทนไทอ่านไม่ออก
“แต่สิ่งที่ข้าวโอ๊ตต้องการมากกว่านั้นก็คือมะลิ...” คำพูดของอาร์มทำให้แทนไทแทบหยุดหายใจ ภาพมะลิในคืนนั้นวนเวียนเข้ามาในหัวอีกครั้ง
“แต่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม เพราะกลัวการมีเซ็กซ์ ทางคลับก็เลยต้องหาคนมาช่วยเรื่องนี้ แล้วก็ได้คนที่เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กซ์อย่างนายไง” อาร์มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึกใดๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้
แทนไทตัวแข็งทื่อ ความจริงอันน่ารังเกียจถาโถมเข้าใส่ เขาไม่เข้าใจว่าแม่แบบไหนกันถึงเอาลูกสาวมาขายได้ลงคอ...
“แม่แบบไหนกัน...เอาลูกสาวของตัวเองมาขายได้” แทนไทถามเสียงสั่น ใบหน้าซีดเผือด
อาร์มมองแทนไทด้วยแววตาที่เจือความเห็นใจเล็กน้อย
“ลูกคุณชมพู่...เธอไม่ได้เกิดจากความต้องการหรอก” อาร์มพูดแค่นั้น...แล้วเลือกที่จะเงียบไป
คำพูดสุดท้ายของอาร์มทิ้งให้แทนไทจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความสับสนและเจ็บปวด อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้กันแน่? และความจริงที่ถูกซ่อนไว้มันจะโหดร้ายได้มากแค่ไหน? แทนไทจะต้องค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง...ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม
“ก็ได้!!! แล้วผมต้องรับกี่งาน” แทนไทเอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บปวด เสียงของเขาแหบพร่า ราวกับต้องใช้แรงทั้งหมดในการพูด
“ก็จนกว่าคุณชมพู่จะพอใจ” อาร์มตอบสั้นๆ แบบเข้าใจง่าย แต่คำตอบนั้นกลับหนักอึ้งเกินกว่าที่แทนไทจะจินตนาการได้ว่ามันจะยาวนานแค่ไหน ความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง The Velvet Room แห่งนี้ มันซับซ้อนและดำมืดเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก...และเขาจะต้องหาคำตอบให้ได้
แทนไททรุดตัวลงนั่งบนโซฟา พลางหลับตาลงอย่างช้าๆ เขาต้องการเวลาทำใจ… จนเวลาผ่านไปหลายนาที ความเงียบเข้าปกคลุมห้องจนรู้สึกอึดอัด ก่อนที่แทนไทจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่กลับมาเผชิญความจริง
“โอเค ผมพร้อมแล้ว คุณบอกรายละเอียดของงานมาเลย” แทนไทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว
“ดีย์!!!” อาร์มยิ้มกว้างอย่างพอใจ
“ฉันจะได้ไม่เสียเวลา เพราะฉันก็มีลูกค้าที่รออยู่เหมือนกัน”
หลังจากอาร์มอธิบายเรื่องขอบเขตเกี่ยวกับงานบริการของคลับอย่างละเอียด แทนไทก็ฟังอย่างตั้งใจทุกถ้อยคำ เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่างานที่นี่มันลึกซึ้งกว่าที่เขาคิดไว้มาก ไม่ใช่แค่เรื่องทางกาย แต่เป็นเรื่องของการเข้าถึงจิตใจ พออาร์มอธิบายจบ แทนไทก็เอ่ยถามบ้าง
“ขอถามหน่อยสิ คุณชมพู่...เธอเป็นคนยังไงเหรอ?” แทนไทถามด้วยความสงสัย ความอยากรู้เกี่ยวกับผู้หญิงเจ้าของคลับแห่งนี้ท่วมท้นในใจอาร์มถอนหายใจแผ่วเบา สายตาของเขาดูเหม่อลอยไปชั่วขณะ
“เอาจริง ๆ คุณชมพู่เธอเป็นผู้หญิงที่ซับซ้อนนะ เธอต้องการจะช่วยเหลือผู้หญิงที่ผิดหวังจากเรื่องความรัก...เหมือนที่เธอเคยเป็น คนที่ถูกสามีทอดทิ้ง เหงา และอยากมีใครสักคน” เขาหยุดเล็กน้อย
“คุณชมพู่เธอผ่านอะไรมาเยอะ เธอเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงพวกนี้ดีกว่าใคร”
“แล้วคุณล่ะ...ทำไมถึงมาทำงานแบบนี้?” แทนไทกล้าถามออกไป
อาร์มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เหตุผลของแต่ละคนก็ต่างกันไป เมื่อก่อนฉันแค่ต้องการเซ็กซ์ แต่เดี๋ยวนี้ฉันต้องการเงิน” เขาเหลือบมองแทนไทแล้วเอ่ยถาม
“แล้วนายล่ะ”
‘ผมต้องการอยากรู้ว่า คนที่ผมนอนด้วยเมื่อคืน เธอเป็นน้องสาวของผมจริง ๆ หรือเปล่า และที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะเอาเส้นผมของเธอไปตรวจ DNA’ แทนไทอยากจะพูดตามที่ใจคิด แต่เขาก็กลืนคำพูดลงคอไป ความลับนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย ก่อนจะเอ่ยถามอย่างอื่นแทน
“ผมขอเจอมะลิหน่อยได้มั้ย”
“ฉันไม่ใช่ผู้ปกครองของมะลิ นายทำตามข้อตกลงของคุณชมพู่ซะ แล้วนายก็จะได้เจอเธอเอง” อาร์มตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แล้วที่คุณบอกว่ามะลิเป็นลูกค้าวีไอพีของที่นี่ล่ะ มันคืออะไรกันแน่” แทนไทถามย้ำ ความสงสัยเกี่ยวกับมะลิยังคงเป็นเรื่องที่ค้างคาในใจเขาที่สุด
“อันนั้นมันก็คือบททดสอบอย่างหนึ่ง เอาเป็นว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเฉลยก็ต่อเมื่อนายทำตามข้อตกลง โอเค๊!!” อาร์มกล่าวเน้นย้ำ แววตาของเขาฉายแววบางอย่างที่แทนไทอ่านไม่ออก
“ก็ได้ งั้นผมขอเริ่มงานเลย มันจะได้จบๆ” แทนไทตอบอย่างหมดหนทาง เขารู้สึกเหมือนติดอยู่ในกับดักที่มองไม่เห็นทางออก
“นายก็ต้องฝึกฝน งานบริการกับฉันก่อนไง ก่อนที่นายจะรับงาน อย่าใจร้อนสิ” อาร์มยิ้มเล็กน้อย ราวกับกำลังสนุกกับสถานการณ์นี้
จากนั้นอาร์มก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการแนะนำงานให้กับแทนไท ถึงการดูแลลูกค้าภายในคลับ อาร์มสอนแทนไททุกอย่าง ตั้งแต่การแต่งกาย การวางตัว การพูดคุย การรับฟัง ไปจนถึงภาษากายที่สามารถสื่อความหมายได้ลึกซึ้งกว่าคำพูด แทนไทเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เขามีพรสวรรค์ในการเข้าถึงจิตใจคน และความเบื่อหน่ายที่เคยมีก็ถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเข้าใจ “โลกใบใหม่” ใบนี้
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสองทุ่มตรง ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา คุณชมพู่ก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ประดับบนใบหน้า รอยยิ้มที่แทนไทเริ่มรู้สึกว่ามันแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะหยั่งถึง
“คุณแทนไท...งานแรกของคุณมาแล้วค่ะ”
คำพูดของคุณชมพู่ทำให้หัวใจของแทนไทเต้นระรัว ทั้งตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน นี่คือจุดเริ่มต้นของการค้นหาความจริง เขารีบหยิบแคตตาล็อกขึ้นมาดู ชื่อลูกค้าคือ คุณกัญจนา หญิงวัยกลางคนที่มีใบหน้าสวยและดูใจดี แต่ในแววตาของเธอนั้น แทนไทสัมผัสได้ถึงความเศร้าสร้อยที่แฝงอยู่ลึกๆ
“คุณกัญจนา...เธอเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ผิดหวังในเรื่องของความรัก” คุณชมพู่เริ่มเล่าข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ารายนี้ เสียงของเธอเรียบเฉย ทว่าแฝงไว้ด้วยความรู้ลึกในทุกรายละเอียด
“เธอเพิ่งหย่ากับสามีเมื่อไม่นานมานี้” แทนไทเงยหน้าขึ้นมองคุณชมพู่ ข้อมูลที่ได้รับยิ่งทำให้เขาตระหนักว่างานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องฉาบฉวย
“แล้วผมต้องทำยังไง?” แทนไทถาม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับบทบาทใหม่
คุณชมพู่ยิ้ม ดวงตาของเธอเปล่งประกายอย่างมีเลศนัย
“ทำในสิ่งที่คุณทำกับมะลิไง...แต่คราวนี้คุณต้องใช้เสน่ห์ทั้งหมดที่คุณมี เพื่อทำให้คุณกัญจนารู้สึกว่าคุณเป็นคนพิเศษที่สุดสำหรับเธอ”
คำพูดของคุณชมพู่ดังก้องในโสตประสาทของแทนไท แต่เขาก็ต้องเก็บงำมันไว้ แทนไทพยักหน้าช้าๆ ความจริงที่เขาต้องการค้นหา...มันคุ้มค่าที่จะแลกด้วยสิ่งนี้ บททดสอบแรกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว และเขาจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ “เสน่ห์” ที่มีทั้งหมดมากแค่ไหนก็ตาม
คุณชมพู่หยุดดื่มน้ำที่นายอาร์มยื่นให้ ก่อนจะเล่าเรื่องส่วนตัวคร่าว ๆ ของลูกค้าให้แก่แทนไท เพื่อให้เขาเข้าใจสภาพจิตใจของลูกค้า และบริการเธอได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
“คุณกัญจนามีลูกสองคนค่ะ เป็นลูกชายทั้งคู่ ตอนนี้ทั้งคู่โตแล้วและไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศกับสามีเก่าของเธอ” แทนไทนิ่งฟังอย่างตั้งใจ
“หลังการหย่าร้าง ชีวิตคุณกัญจนาก็เปลี่ยนไปมากค่ะ” คุณชมพู่เว้นจังหวะ
“จากที่เคยมีครอบครัว มีลูกอยู่เคียงข้าง ตอนนี้เธอกลับต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ ลูกๆ ก็ห่างไกล สามีก็ไม่มี เธอจึงรู้สึกโดดเดี่ยวและเหงามาก”
แทนไทพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ความรู้สึกเหงาที่ถูกทิ้งไว้กับความสำเร็จที่จับต้องได้ มันคงเป็นความว่างเปล่าที่ยิ่งใหญ่
“เธอต้องการคนมาเติมเต็มความว่างเปล่านั้น” คุณชมพู่ประสานมือบนตัก มองตรงมาที่แทนไท
“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง... เพื่อนชาย” แทนไทเลิกคิ้วเล็กน้อย คุณชมพู่สังเกตเห็นแววตาของเขาจึงอธิบายเสริม
“แต่เธอไม่ได้ต้องการแค่เพื่อนคุยทั่วไปหรอกนะ” เสียงของคุณชมพู่ลดระดับลงเล็กน้อย เผยให้เห็นถึงประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น
“คุณกัญจนาเป็นผู้หญิงที่มีความต้องการสูง ทั้งในด้านอารมณ์และความรู้สึก” คุณชมพู่โน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย สบตาแทนไทอย่างจริงจัง
“เธอต้องการใครสักคนที่จะมาทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ได้ปลดปล่อยความเหงา ความอ้างว้างที่เกาะกินใจ และเธอค่อนข้างจะ... เปิดใจเป็นพิเศษกับคนหนุ่มๆ คุณแทนต้องพยายามเอาใจเธอ”
คำว่า “คนหนุ่มๆ” ทำให้แทนไทเข้าใจได้ทันทีว่างานนี้ไม่ใช่แค่การเป็นเพื่อนคุยธรรมดา แต่มันลึกซึ้งและมีความคาดหวังมากกว่านั้นมาก คุณชมพู่ทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่สื่อความหมาย
“แต่ไม่ต้องห่วงคุณกัญจนา เธอพร้อมจะทุ่มเทให้กับคนที่เธอรู้สึกถูกใจ...อย่างเต็มที่”
