บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 15

ก่อนหน้าพิธีมิสซาสองสัปดาห์ นักเรียนภายในโรงเรียนต่างคร่ำเคร่งกับการสอบปลายภาคที่มาถึง

ไม่เว้นแม้กระทั่งคิมหันต์ ที่เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียน ก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ผลการเรียนออกมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับพ่อของเขา

ความคิดที่เกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจของเซร่ายังวนเวียนเข้ามาอยู่ในความคิดของเขาเสมอ ทำให้คิมหันต์คอยสนใจและเฝ้ามองดูเซร่ามากขึ้น

ช่วงสัปดาห์ของการสอบ นักเรียนทุกคนมีหน้าตาเคร่งเครียด ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนตึงเครียดเพิ่มขึ้น

เซร่าเคยชินกับการทำข้อสอบอยู่ที่บ้านทำให้ไม่เคยรับรู้ถึงบรรยากาศในช่วงการสอบเลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้เธอพลอยเครียดไปด้วย

“โอย..ไม่ไหวแล้ว ฉันขอตัวแปปนึงนะ” เซร่าร้องโอดโอยออกมา

“รีบมาล่ะ เดี๋ยวมีสอบวิชาประวัติศาสตร์ต่อ”

“จ้า” เซร่าพยักหน้าให้เอริโกะ ก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป

เซร่าเดินหลบบรรดานักเรียนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือด้วยหน้าตาคร่ำเคร่งไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเธอมา

หญิงสาวเดินหลบเลี่ยงไปยังด้านหลังของอาคาร เมื่อมองลงไปด้านล่าง ก็จะเห็นแปลงดอกไม้ที่ยังคงเป็นดอกตูมอยู่ และเตรียมตัวจะผลิบานในไม่ช้า

หญิงสาวหยุดยืนมองแปลงดอกไม้ด้านล่างด้วยสีหน้าอ่อนโยน และยื่นหน้าออกไปสูดอากาศให้เข้าปอดเต็มที่ บรรยากาศในการสอบที่เครียดเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจเล็กน้อย

“ไม่สบายรึ?”

เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว จนทำให้เสียหลักจะหล่นไปด้านนอกของตัวอาคาร โชคดีที่คิมหันต์คว้าตัวของหญิงสาวเอาไว้ได้ก่อน และดึงร่างบางของเธอมากอดเอาไว้แนบอก

“คิมหันต์” เซร่าอุทาน

“เป็นอะไรรึเปล่า?” คิมหันต์พิจารณาใบหน้าของหญิงสาวที่ดูซีดเซียวพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“เปล่า ปล่อยฉันนะ” เซร่าปฏิเสธเสียงแข็ง

“แล้วทำไมหน้าซีด?”

แทนที่เขาจะปล่อยตัวเธอกลับรวบตัวไว้แน่นกว่าเดิมเมื่อเห็นหญิงสาวพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุด

“จะให้ฉันหน้าแดงตลอดเหมือนแฟนนายได้ยังไงล่ะ”

เซร่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน และพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม

“ฉันถามก็เพราะเป็นห่วงหรอกนะ กลัวเป็นลมเหมือนวันงานกีฬา ต้องเดือดร้อนฉันพาเธอไปส่งโรงพยาบาลอีก”

คิมหันต์บอกเซร่าอย่างรำคาญที่เห็นเธอดื้อดึงเหมือนเด็ก หญิงสาวหยุดดิ้นทันทีและจ้องมองชายหนุ่มด้วยสายตาวาวโรจน์

“นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันมีคุณเหมคอยดูแลตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่ต้องรบกวน” คุณคิมหันต์” ไปส่งที่โรงพยาบาลอีกครั้งหรอก”

เซร่าเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเน้นเสียงบอกชายหนุ่มสายตาโกรธขึ้ง คำพูดของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดภายในใจยิ่งนัก

“เหมันต์จะช่วยอะไรเธอได้? เมื่อวันงานกีฬาสี คนที่ช่วยเธอน่ะ คือฉันนะ อย่าลืมสิ!”

คิมหันต์เยาะเย้ยหญิงสาวในต้นประโยคก่อนจะบอกกับเซร่าเสียงเข้มในท้ายประโยคและรัดวงแขนแน่นมากขึ้นกว่าเดิม

“งั้นฉันก็ขอขอบใจนายที่อุตส่าห์ช่วยชีวิตอันด้อยค่าของฉันเอาไว้ แต่นายอย่าหวังว่า นายจะได้ช่วยฉันในคราวต่อไป” เซร่าข่มความโกรธเอาไว้ภายในใจและพูดจาเย็นชาใส่ชายหนุ่ม

“เชิญนายเอาเวลาอันมีค่าของนาย ไปคอยดูแลออยเฟ่ย์ให้ดีเถอะ ก่อนที่คนอื่นจะมาแย่งไปน่ะ”

เซร่าเน้นเสียงประชดประชัน ก่อนจะสลัดตัวให้หลุดจากวงแขนของชายหนุ่มอย่างแรง ซึ่งคราวนี้เขายอมปล่อยตัวของเธออย่างง่ายดาย เมื่อได้ยินคำว่า “ชีวิตอันด้อยค่า”

เขารู้สึกตัวว่าเขาได้พูดจาผิดพลาดอีกแล้ว หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มพร้อมกับเดินจากไปด้วยความโกรธ ทิ้งให้เขายืนนิ่งคิดอยู่เพียงลำพังคนเดียว

ในที่สุดการสอบปลายก็ผ่านไปด้วยดี และเข้าสู่ช่วงเวลาปิดเทอม ซึ่งใกล้กับการจัดงานพิธีมิสซาประจำแคว้น

เนื่องจากปีนี้ท่านทูตถูกเชิญให้เป็นผู้กล่าวเปิดงาน ดังนั้นที่สถานทูตญี่ปุ่นจึงเต็มไปด้วยผู้คน เพื่อมาประชุมร่วมกัน และเตรียมการเกี่ยวกับงานพิธี

เซร่าพยายามหาโอกาสที่จะขออนุญาตอออกไปร่วมงานพิธี แต่คุณหญิงมิเชลก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาได้พูดคุยกัน จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่มิเชลกำลังดูคนงานในครัวเตรียมอาหารค่ำอยู่

“แม่คะ งานพิธีมิสซาปีนี้ยิ่งใหญ่มากเลยนะคะ” เซร่าโผเข้ากอดมิเชลด้านหลัง

“ใช่จ้ะ เพราะคุณพ่อต้องเป็นผู้กล่าวเปิดงานนี่จ๊ะ”

“ถ้าอย่างนั้น หนูต้องไปร่วมงานด้วยใช่มั้ยคะ” เซร่ามองมิเชลด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

“ไม่ได้จ้ะ”

“ทำไมล่ะคะ” เซร่ามีสีหน้าเจื่อนลง

“ลูกไม่ควรออกจากบ้านไปไหนทั้งนั้น” มิเชลบอกเสียงดุ

“แต่ว่า....”

“ไม่ได้จ้ะ” มิเชลห้ามเสียงเรียบ ก่อนจะเดินออกจากห้องครัว ตรงไปยังห้องรับแขก

“คุณแม่อะ...” เซร่าเดินตามมาพ้อด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“คุยอะไรกันสองคนแม่ลูก หืม?”

“คุณพ่อ” เซร่ารีบวิ่งโผเข้าไปกอดทันที

“เอ้าๆ เพื่อนลูกมาด้วยน่ะ ไม่อายรึไง” ท่านทูตกระเซ้าอย่างอารมณ์ดี

เซร่าหันไปมองด้านหลังก็พบฮิเดกิ เอริโกะ และเหมันต์ กำลังเดินเข้ามาถึงห้องรับแขกพอดี

“พ่อเห็น 3 คนนี้ยืนอยู่ด้านหน้าสถานทูต เลยชวนเข้ามาทานมื้อค่ำด้วยกันน่ะ”

“ผมมีของมาฝากท่านทูตด้วยครับ” เหมันต์บอกพร้อมกับส่งกล่องที่ถือมาให้ท่านทูต

ท่านทูตมีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะรับกล่องและเปิดออกดู

“โอ้ ไปป์ไม้รากกุหลาบของปีเตอร์สัน (Perterson) รุ่นเชอร์ล็อกโฮมส์นี่นา” ท่านทูตร้องออกมาด้วยความพึงพอใจ เมื่อเห็นสิ่งของในกล่อง

ไปป์ไม้รากกุหลาบของปีเตอร์สัน เป็นยี่ห้อเก่าแก่และมีระดับจากประเทศไอร์แลนด์ ที่สำคัญ “รุ่นเชอร์ล็อก โฮมส์” เป็นรุ่นเน้นย้ำถึงความคลาสสิค สุขุม นุ่มนวล ชาญฉลาด และดูประทับใจในแบบเรียบง่าย เพื่อให้ผู้ใช้สินค้ารุ่นนี้มั่นใจว่า เมื่อใช้แล้วจะส่งเสริมบุคลิกให้สุขุม มีระดับ และไม่ธรรมดา สมกับชื่อนักสืบ “เชอร์ล็อก โฮมส์”

ท่านทูตสนทนากับเหมันต์อย่างถูกคอ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มตั้งใจนำไปป์อันนี้มาให้ตนโดยเฉพาะ

“พวกเธอมาได้ไงน่ะ” เซร่ากระซิบถามฮิเดกิ ขณะที่พ่อของเธอกำลังพูดคุยกับเหมันต์

“ฉันรู้ว่าเธอต้องขออนุญาตท่านทูตไม่สำเร็จน่ะสิ” ฮิเดกิกระซิบตอบ

“ฉันยังไม่ได้ขอคุณพ่อเลย แค่คุณแม่ก็ไม่ยอมให้ไปแล้ว” เซร่ากระฟัดกระเฟียดใส่ชายหนุ่ม

“ฉันเลยไปตามประธานฯ กับเอริโกะมาเป็นกองหนุนไง”

“จะสำเร็จเร้อ...” เซร่าพึมพำอย่างไม่มั่นใจ

“เชื่อฝีมือประธานฯ เถอะน่ะ” ฮิเดกิบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“จริงสิครับ ผมได้ข่าวว่าท่านเป็นประธานเปิดงานพิธีมิสซาปีนี้ใช่มั้ยครับ?” เหมันต์ถามท่านทูตขณะรับประทานอาหารมื้อค่ำร่วมกัน

“ใช่แล้วล่ะ ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 40 ปี ทางแคว้นเลยอยากจัดพิธีให้พิเศษกว่าทุกปีน่ะ”

“แบบนี้ครอบครัวท่านก็ต้องไปร่วมพิธีทุกคนสินะครับ”

“มีแค่ท่านทูตกับฉันเท่านั้นล่ะ” มิเชลรีบบอกทันที

“แล้วมิยา..เอ่อ..เซร่าล่ะครับ” เหมันต์ตัดสินใจเรียกชื่อหญิงสาวเนื่องจากไม่อยากให้ท่านทูตสับสน

“เซร่าไม่ควรออกไปข้างนอกจ้ะ” มิเชลบอกเสียงเรียบ ไม่สนใจสีหน้างอง้ำของลูกสาวที่นั่งตรงกันข้าม

“แต่งานพิธีที่จัดเป็นพิเศษแบบครั้งนี้ น่าจะให้เซร่าไปร่วมงานด้วยนะครับ” เหมันต์แย้ง

“ที่สำคัญ ท่านทูตก็เป็นประธานกล่าวเปิดงานด้วย ถ้าครอบครัวไปไม่ครบ ก็จะกระไรอยู่นะครับ” เหมันต์ยกเหตุผล

“.....แต่ว่า ฉันกับท่านทูตคงยุ่งจนไม่มีเวลาจะคอยดูแลเซร่าน่ะสิ” มิเชลเริ่มคล้อยตาม

“เดี๋ยวผมคอยดูแลให้ครับ ผมรับปากว่าจะคอยดูแลเซร่าเป็นอย่างดี ไม่ให้คลาดสายตาเลยครับ" เหมันต์อาสาตนเองทันที

“แต่..”

“ผมกับเอริโกะ ก็ไปด้วยครับ รับรองจะคอยดูไม่ให้เซร่าไปซนแถวไหนเลยครับ” ฮิเดกิรีบเอ่ยทันที

“คุณคะ..” มิเชลหันไปสบตากับท่านทูต

“อืม...เอาล่ะ ถ้าเหมันต์คอยดูแลเซร่า งั้นก็ให้ลูกไปเถอะ นานๆ ทีจะมีงานพิเศษแบบนี้น่ะ” ท่านทูตครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจอนุญาต

“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ หนูรักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ” เซร่าโผเข้ากอดท่านทูตด้วยความดีใจ

“แต่ถ้ารู้สึกเหนื่อยเมื่อไหร่ ต้องรีบกลับทันทีเลยนะ รู้มั้ย?” ท่านทูตบอกเสียงเข้ม

“ค่ะ คุณพ่อ” เซร่ารับคำหนักแน่น ก่อนจะหันไปยิ้มสดใสให้กับเหมันต์ ฮิเดกิ และเอริโกะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel