ตอนที่ 7
ตอนเช้าของสถานทูตญี่ปุ่นประจำฝรั่งเศสวันนี้ช่างดูวุ่นวายและยุ่งเหยิงอย่างมาก คนรับใช้ในสถานทูตเดินกันขวักไขว่ ด้านหน้าของสถานทูตมีรถลีมูซีนจอดติดเครื่องรออยู่ ในขณะที่ท่านทูตญี่ปุ่นกับภรรยากำลังยืนรอใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ
เซร่าซึ่งแต่งชุดนักเรียนของโรงเรียน Saint Helena กำลังเดินเยื้องกรายลงมาจากบันไดด้านบน ผมยาวสลวยของเซร่าถูกรวบขึ้นไว้บนหัวด้วยริบบิ้นสีส้มอ่อน
ชุดนักเรียนที่เซร่าเคยใส่เพียงช่วงเวลาที่อยู่ปี 1 บัดนี้เซร่าได้ใส่มันอีกครั้ง ทำให้เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก หญิงสาวเดินตรงมาหาพ่อกับแม่ของเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“โอ้โห! ลูกพ่อวันนี้น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย”
“ขอบคุณค่ะ”
“เซร่า ถ้าเกิดไม่ไหวล่ะก็ โทรมาที่บ้านให้คนขับรถไปรับนะลูก”
มิเชลเดินมาจัดเสื้อผ้าของเซร่าให้เรียบร้อย และบอกเธออย่างเป็นห่วง
“แหม! ไม่ต้องห่วงหนูหรอกค่ะ หนูสบายดี”
เซร่ายิ้มให้แม่ของเธอ พร้อมกับชูสองนิ้วให้แม่ของเธอ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเธอแข็งแรงดี
“สวัสดีครับ ทุกคน”
“ฮิเดกิ!!”
“เป็นยังไงมั่ง เราใส่ชุดนี้”
เซร่าเดินตรงไปหาฮิเดกิ และหมุนตัวโชว์ให้ฮิเดกิดูชุดนักเรียนที่เธอใส่
ฮิเดกิมองสำรวจเซร่าที่ใส่ชุดนักเรียนอย่างอึ้งๆ เสื้อเชิ้ตที่เข้ารูปกับตัวของเซร่า รวมไปถึงกระโปรงสีเทาสั้นเหนือเข่ามาเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขาขาวผ่อง
เนื่องจากเซร่านั้นเป็นคนที่หน้าตาสะสวยอยู่แล้ว ไม่ว่าเธอจะใส่ชุดใด ก็ดูสวยน่ารักไปเสียหมด
“ว่ายังไงล่ะ? ”
เซร่าถามย้ำกับฮิเดกิที่ยังคงมองเธออย่างตะลึงอยู่ไม่ยอมตอบคำถามของเธอ
“หา…เอ้อ….”
ฮิเดกิสะดุ้งเพราะเสียงของเซร่า ก่อนจะมองตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนของเซร่าที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างใจจดใจจ่อรอฟังคำตอบ
“เหมือนจับลิงมาใส่กระโปรงเลย หึหึ”
ฮิเดกิตอบคำถามออกมาตรงข้ามกับความรู้สึกของเขา
“เอ๊ะ ตานี่!”
“ก็เหมือนจริงๆ นี่นา”
ฮิเดกิย้อนถามเซร่าด้วยสีหน้ากวนๆ ทำให้หญิงสาวหรี่ตามองอย่างไม่พอใจ
“เอาล่ะๆ พอทั้งคู่น่ะล่ะ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก”
มิเชลตรงเข้ามาห้ามฮิเดกิกับเซร่าที่ดูเหมือนจะเริ่มสงครามน้ำลายขึ้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
เซร่าพึมพำบอกฮิเดกิอย่างเอาเรื่อง โดยที่ฮิเดกิหัวเราะออกมาอย่างขำขัน เพราะเขากับเซร่าไม่เคยโกรธกันได้เกิน 5 นาทีซักครั้ง นั่นทำให้เซร่าหน้างอมากยิ่งขึ้น ก่อนจะสะบัดหน้าพรืด และเดินขึ้นด้านหลังของรถลีมูซีนไปก่อน
“ฮิเดกิ! น้าฝากเซร่าด้วยนะจ๊ะ”
มิเชลเรียกฮิเดกิที่กำลังจะก้าวขึ้นรถตามเซร่าไป พร้อมกับฝากฝังให้เขาดูแลเซร่าลูกสาวสุดที่รักของเธอด้วย
“ครับผม!”
ฮิเดกิหันกลับมารับคำของมิเชลอย่างหนักแน่น ก่อนจะก้าวขึ้นรถตามเซร่า หลังจากนั้นคนขับรถประจำสถานทูตก็ขับรถออกจากรั้วของสถานทูต โดยมีสายตาของท่านทูตและภรรยามองตามด้วยความเป็นห่วง
คิมหันต์มาถึงโรงเรียนก่อนประมาณ 10 นาที เขาเดินตรงขึ้นไปยังอาคารเรียนเพื่อเอาเป้สะพายไปเก็บไว้ที่โต๊ะ โดยไม่ได้สนใจว่าที่หน้าห้องเรียนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูและจ้องมองคิมหันต์ตั้งแต่เขาเดินเข้าโรงเรียน
“วันนี้มาเช้าจังนะคะ คิมหันต์”
หญิงสาวคนนั้นทักคิมหันต์ที่กำลังก้มหน้าก้มตาเดินอย่างไม่สนใจใครเพื่อเข้าห้อง ซึ่งทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงักและมองไปยังต้นเสียง ก็พบกับใบหน้าหวานคมของหญิงสาวผมยาวสีบรอนซ์ทองกำลังส่งยิ้มหวานให้เขาอยู่
“หือ? ”
“เธอเป็นใคร?
“แหม..ก็เพื่อนร่วมห้องของคุณปีนี้ไงคะ แล้วที่สำคัญคุณลืมฉันได้ยังไงกัน”
หญิงสาวคนนั้นไม่ถือสากับคำพูดของคิมหันต์และยังคงส่งยิ้มหวานให้กับเขา
“ขอโทษ ฉันจำไม่ได้”
“เฮ้อ...ฉันก็นึกอยู่แล้วล่ะว่าคุณคงจำฉันไม่ได้”
“เมื่อตอนปี 1 คุณตามหาเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คุณจำได้มั้ยคะ?”
คิมหันต์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ก่อนจะทบทวนความทรงจำ
เมื่อตอนปี 1 เราทำอะไรหว่า???
อา...จริงสิ เมื่อตอนปี 1 เราตามหาเด็กหญิงที่มีชื่อลงท้ายเสียงว่า “ร่า” นี่นา
เอ๊ะ!แล้วเธอคนนี้เกี่ยวอะไรกันด้วย หรือว่า.......
“หรือว่า เธอคือ....”
“ลอร่าค่ะ”
ลอร่ายังจำสีหน้าของคิมหันต์เมื่อตอนปี 1 ที่เขามาหาเธอถึงห้องได้ สีหน้าของเขาตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อรู้ว่าเธอคือเด็กผู้หญิงที่มีชื่อลงท้ายเสียงด้วย “ร่า”
ตอนนั้นเธอรู้สึกงง ว่าผู้ชายคนนี้มาหาเธอเพราะอะไร จนกระทั่งเขาเล่าให้ฟังถึงเรื่องเมื่อตอนเด็กเธอจึงบอกเขาไปว่า เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนนั้น
คำปฏิเสธของเธอ ก็ทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เธอรู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก
ตั้งแต่นั้นมา ลอร่าก็คอยมองหาแต่คิมหันต์มาตลลอด เพราะเธออยากรู้ว่าเขาจะสามารถหาเด็กผู้หญิงที่เขาต้องการเจอหรือไม่
ต่อมาเธอก็รู้ใจตัวเองว่า ชอบคิมหันต์เข้าเสียแล้ว แต่ทว่าหลังจากที่ขึ้นปี 2 แล้ว
ลอร่าก็เห็นชายหนุ่มไปรู้จักสนิทสนมกับออยเฟ่ย์ หญิงสาวสวยและดาวเด่นของโรงเรียน ที่มีผู้ชายหมายปองมากมาย และเป็นคู่แข่งของเธอทางด้านความสวย
ลอร่าเคยคิดว่าเธอต้องชนะออยเฟ่ย์ในการประกวดดาวของโรงเรียนอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เธอคิดกับผิดคาดไปหมด
ออยเฟ่ย์ได้ตำแหน่งนี้ไป แถมได้ควงกับหนุ่มหล่อประธานนักเรียนเหมันต์อีกต่างหาก
รวมทั้งคิมหันต์ที่ลอร่าพอจะดูออกว่าเขานั้นชอบออยเฟ่ย์มากแค่ไหน และนั่นเป็นสิ่งที่เธอยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“อ๋อ...”
หญิงสาวผู้นี้เองที่เขาไปถามหาเมื่อตอนปี 1 และก็พบกับความผิดหวัง
หลังจากนั้นคิมหันต์ก็ยังคงตามหาเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่เมื่อขึ้นปี 2 เหมันต์ได้แนะนำให้รู้จักกับออยเฟ่ย์
ความสวย น่ารัก และอัธยาศัยที่ดีของออยเฟ่ย์ ทำให้เขาสนใจออยเฟ่ย์โดยไม่รู้ตัว
ที่สำคัญออยเฟ่ย์ไม่เคยคิดใช้เขาเป็นสะพานไปหาเหมันต์ แต่เธอพยายามที่จะเข้าใกล้ชิดเหมันต์ด้วยตัวเองตลอด
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มรักออยเฟ่ย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แม้เขาจะพบกับความเจ็บปวดก็ตาม
“มีธุระอะไรกับฉันรึ? ”
“ฮื้อ....ต้องมีอะไรด้วยเหรอ ถึงจะคุยกับคุณได้น่ะ? ”
“หือ? ”
คิมหันต์เลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ เพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เรียกเขาคุย ถ้าไม่เพราะสารภาพรักกับเขา ก็จะขอให้เขาพาไปรู้จักกับเหมันต์
“เอาเถอะ ฉันก็แค่แนะนำตัวให้คุณรู้จักในฐานะ “เพื่อน” ร่วมห้องคนหนึ่งเท่านั้นล่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอกค่ะ”
“งั้นหรือ? ก็ดี งั้นขอตัวก่อนนะ”
คิมหันต์ยังคงมีสีหน้าเฉยเมย ก่อนจะขอตัว และเดินเข้าห้องเรียนตรงไปยังโต๊ะของตัวเอง โดยไม่สนใจสีหน้าของลอร่าที่แสดงความไม่พอใจออกมาเลยแม้แต่น้อย
“ผู้ชายอะไร ทั้งเย็นชาและหยิ่งเสียจริง”
ลอร่าขมวดคิ้วและพึมพำออกมาตามหลังคิมหันต์ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งยังที่นั่งของตัวเอง เพราะใกล้ชั่วโมงโฮมรูมแล้ว
ฮิเดกิกับเซร่ามาถึงโรงเรียนก่อนเข้าเรียนเล็กน้อย ทั้งคู่เดินคุยมาด้วยกันเรื่อยๆ โดยมีสายตาของบรรดานักเรียนคนอื่นๆ ที่จับจ้องไปที่เซร่า
เนื่องจากว่านักเรียนเกือบทั้งโรงเรียนแทบจะไม่เคยรู้จักเซร่าเลย ดังนั้นเมื่อเห็นสาวน้อยหน้าแฉล้มผมยาวเดินเคียงคู่มากับฮิเดกิ ซึ่งเป็นถึงรองประธานนักเรียน ทำให้เซร่ากับฮิเดกิเป็นเป้าสายตาไม่ยากนัก
“ฮิเดกิ พวกเขาจ้องมองอะไรกันเหรอ? ”
เซร่ากระซิบถามฮิเดกิอย่างงงๆ เพราะตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในโรงเรียน ก็มีสายตานับสิบๆ คู่จ้องมองมาที่เธอกับฮิเดกิอย่างประหลาดใจ
แถมเมื่อเดินสวนกันนักเรียนที่เดินอยู่บนตึก ก็มีแต่นักเรียนพากันมองเหลียวหลัง ทำให้เซร่ารู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก
“อืม..พวกเขาคงจ้องอิจฉาฉันมั้ง ที่เดินเคียงคู่กับสาวสวยอย่างเธอน่ะ”
ฮิเดกิยิ้มล้อเลียนให้กับเซร่า นั่นทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัยหนัก เพราะฮิเดกิไม่ยอมบอกความจริง ชายหนุ่มได้แต่กลั้นยิ้มเอาไว้ และเดินนำเซร่าไปยังห้องเรียนของเธอ
“เอ้า! นั่นห้องเรียนของเธอ 3 C เข้าไปดูแผนผังที่นั่งด้านหน้าห้องก่อนล่ะ จึงค่อยไปนั่งน่ะ”
ฮิเดกิชี้มือไปที่ป้ายห้อง 3 C ที่แขวนอยู่ด้านบน พร้อมกับบอกเซร่าเกี่ยวกับเรื่องที่นั่ง หญิงสาวมองตามที่เขาบอก
