ตอนที่หนึ่ง กลางห้องโถง (NC)
คิดจะพักคิดถึงเพื่อนสามี
โดย
มาวิญญา
บุตรสาวแม่ทัพใหญ่ยอมแต่งงานกับคหบดีหนุ่มด้วยเห็นแก่คำหวาน ไม่ถึงปีทุกสิ่งกลายเป็นแค่ลมปาก ในเมื่อสามีไม่รักดีเหตุใดต้องเฝ้ารอ เหล่าเพื่อนสามีต่างหากคือที่พักพิงแสนดีทั้งรดน้ำจนนางชุ่มฉ่ำกายใจ
ตอนที่หนึ่ง
กลางห้องโถง
ภาพหญิงสาวเปลือยกายนอนหงายบนโต๊ะกลางห้องโถงพร้อมเสียงเนื้อกระทบกระแทกดังป๊าบ ป๊าบ กับเสียงครวญครางอืออาทำให้ชายหนุ่มซึ่งกำลังย่างเท้าเข้าจวนสกุลเฉิงอย่างคุ้นเคยหยุดชะงัก
“ขอคุณชายทั้งสองรอด้านนอกสักครู่ นายท่านและนายหญิงกำลัง เอ่อ...กำลัง...”
พ่อบ้านซึ่งเดินนำเพื่อนสนิทของเฉิงฮุ่ยเข้ามาหรือจะรู้ว่าเจ้านายจะพาภรรยาสาวมาเริงรักกันกลางห้องโถงใหญ่เช่นนี้จึงได้แต่กระอักกระอ่วน
“ไม่เป็นไร พวกเราจะไปรอที่สวน หากพวกเขาเงียบเสียงแล้วค่อยไปตามก็แล้วกัน”
‘หลินคุน’ ซึ่งเป็นเพื่อนกับเฉิงฮุ่ยและซูลี่เจินมาตั้งแต่เยาว์ อีกทั้งควบตำแหน่งเลขากองทัพซึ่งนับว่าเป็นลูกน้องของบิดาฝ่ายหญิงโบกมือให้พ่อบ้านเฒ่าพลางเดินนำ ‘หลี่ฉางชุน’ รองแม่ทัพหนุ่มผู้ติดตามมาเจรจาเรื่องข้าวสารกับเฉิงฮุ่ยให้ไปที่สวนสกุลเฉิงอย่างคุ้นเคย
แม้อยู่ที่สวนแล้วแต่พวกเขากลับเดินเล่นจนไปถึงใต้หน้าต่างด้านหนึ่งซึ่งเปิดออกจนได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากภายใน
“อื้อ...ท่านพี่ เบาหน่อยเจ้าค่ะ”
ซูลี่เจินนอนหงาย ขาทั้งสองข้างถูกจับอ้าออกกว้างเพื่อให้เฉิงฮุ่ยแทรกระหว่างกายชักความเป็นชายอันปูดโปนซอยเข้าซอยออกในร่องน้ำฉ่ำอย่างไม่ยั้งแรง
แม้ซูลี่เจินจะเคยลิ้มรสสัมผัสร้อนจากสามีหนุ่มมาหลายคราแต่ยังคงรู้สึกอึดอัดยามแก่นกายอุ่นแทรกเข้ามาในช่องทางคับแคบ
ยิ่งวันนี้เมื่อกลับมาถึง สามีของนางไม่พูดพร่ำขับไล่คนรับใช้ให้ออกห่างจับร่างภรรยาสาวแก้ผ้านอนอ้าบนโต๊ะกลางห้องโถงโดยไม่เล้าโลม
หญิงสาวย่อมเจ็บแสบในร่องหลีบที่ถูกทะลุทะลวงโดยไร้น้ำหล่อลื่นจึงได้แต่นอนเกร็งร่างรับการกระแทกกระทั้น
เพื่อนชายทั้งสองไม่รอช้าปืนก้อนหินแอบมองดูสามีภรรยาในห้องด้วยแววตาสั่นไหว
ภาพส่วนปลายอวบอันมีน้ำใสเยิ้มทิ่มเข้าแทงออก สอดส่ายในร่องกลีบสีชมพูเป็นจังหวะไม่เบา
เฉิงฮุ่ยควงสะโพกไปมา ส่ายเอวขยับเข้าออกถี่รัวด้วยความเสียวซ่านพลางเงยหน้าร้องเสียงแหบพร่า
“อืม...อาเจิน แม้จะโดนพี่ทะลวงจนร่องขยายกว้างขึ้น แต่ภายในของเจ้ายังคงตอดรัดได้ดี อ้า...รัดแน่นเหลือเกิน พี่เสียวมาก อาเจิน”
เนินโหนกนูนโดนกระแทกจนสองเต้ากระเพื่อมไหวเรียกสายตาอีกสองคู่ให้ลุกเป็นไฟยามจ้องมอง
ร่องบุปผาสีแดงสดปลิ้นเข้าปลิ้นออกไปตามการชักนำของแท่งเนื้อขาวอวบบ่งบอกว่าภายในร่องน้ำดูดกระชับเข้ากันได้ดีกับแก่นกายของสามีเพียงใด
“โอ้ว...พี่ไม่ไหวแล้ว”
เอวอันแข็งแกร่งขยับเข้าออกอีกไม่กี่คราก็ปล่อยน้ำข้นขาวฉีดพ่นเข้าไปในร่างภรรยาสาวจนเอ่อล้น
ยามสามีหนุ่มถอนแก่นกายออก กลีบดอกไม้ซึ่งโดนทะลวงจนแย้มบานพร้อมน้ำกามาซึ่งยังคงคั่งค้างในช่องว่าง ช่างยั่วเย้าจนสองหนุ่มด้านนอกเผลอชะเง้อค้างจนแทบตกก้อนหิน
เฉิงฮุ่ยเดินโทงเทงไปหยิบเสื้อผ้าของตนเองในขณะที่ซูลี่เจินรีบรวบชุดเสื้อที่กลาดเกลื่อนเข้ากับตัวพลางลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าสามีไม่ทำกิจกรรมต่อแล้ว
“ท่านพี่เพิ่งกลับมา จะออกไปคุยธุระอีกแล้วหรือ”
สามีของนางมาถึงก็จับนางโยกขย่มโดยไม่บอกไม่กล่าว ซูลี่เจินเห็นว่าเขาจากไปหลายวันคงอดอยากปากแห้งจึงไม่ขัดขวางทั้งๆที่เหลียวมองไปทางใดก็โล่งโจ่งน่าอับอาย
ยังไม่ทันเก็บอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา เขาก็สวมเสื้อผ้าจนเสร็จแล้วเอ่ยบอกว่านัดเพื่อนเพื่อเจรจาการค้าเอาไว้
“พี่นัดพวกเขาที่นี่ อีกไม่นานคงมาถึงแล้ว เจ้าตั้งสำรับรอ อีกเดี๋ยวเรียกพวกเขามากินด้วยก็แล้วกัน”
“ได้เจ้าค่ะ” ซูลี่เจินตอบรับโดยดีแม้จะไม่ใช่นิสัยอันแท้จริงของนาง
