ตอนที่สี่ อนุหรือ (NC)
ตอนที่สี่ อนุหรือ
อาหงแสร้งโอดครวญกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านสะท้านทรวงเพื่อเร่งอารมณ์กำหนัดให้ชายหนุ่มได้ฮึกเหิมคึกคะนอง
“อ้า เสียว อื้อ...คุณชาย ส่ายสะโพกซ้าย ไปทางขวาหน่อย กระแทกเข้ามาตรงๆเจ้าค่ะ แรงอีกเจ้าค่ะ ซี้ดดดด”
“อาหง เจ้าส่ายก้นรับไว้อย่างนั้น ดี ดีมาก ลีลาของเจ้าถูกใจข้าจริง”
“เช่นนั้นก็กระแทกมาอีกเจ้าค่ะ คุณชาย ข้าจะคอยรับไว้ อื้อ...ดี ข้าชอบแรงๆ”
“ชอบแรงๆหรือ ได้ อาหง รับไป”
เฉิงฮุ่ยเอ่ยชมด้วยยิ่งกระแทกแรงนางก็ยิ่งพร้อมรับไม่เหมือนอย่างภรรยาบุตรสาวแม่ทัพ แม้ซูลี่เจินจะแข็งแรงตอบสนองเขาได้ไม่เบา แต่อย่างไรก็ยังต้องเกรงใจไม่อาจลงแรงได้มากเท่า
หากเนื้อตัวของนางเกิดร่องรอยขึ้นมา พ่อตาของเขาอาจมาเอาเรื่องจนเกิดปัญหาได้
บทรักอันดุเดือดของสองหนุ่มสาวบรรเลงอย่างต่อเนื่องด้วยการโหมกระแทกอย่างบ้าคลั่ง
ปัก ปัก ตับ ตับ
“โอ้ว อาหง ร่องของเจ้าตอดรัดจนข้าแทบทนไม่ไหวแล้ว”
“ข้าก็เสียวจนแทบไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ คุณชาย อู๊ยยยย อ้า...”
ร่างเล็กกระตุกค้าง ยกสะโพกลอย จิกขา กำมือ เป็นสัญญาณของการถึงฝั่งฝันไปก่อน
เฉิงฮุ่ยเร่งแรงตอกกระแทกเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเพื่อส่งตัวเองตามไปอย่างไม่รั้งรอ
“อ้า...อาหง เสียวท่อนจริงโว้ย”
เสียงตะโกนของสามีบ่งบอกความสุขซึ่งมากล้นเกินกว่าที่ซูลี่เจินเคยได้ยิน
ซูลี่เจินนิ่งค้างน้ำตาคลอสองมือกำแน่นด้วยพยายามระงับความโกรธจนสุดกำลัง
ยังไม่ทันไรเสียงออดอ้อนออเซาะของหญิงสาวข้างในก็ดังเข้าหู
“คุณชายรับปากว่าเดือนหน้าจะรับข้าเข้าไปเป็นอนุและอยู่ร่วมจวน อย่าได้บิดพลิ้วนะเจ้าคะ พวกเราจะได้เสพสุขกันโดยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีก”
เดือนหน้า?
นี่เขาคิดจะรับอนุเข้าจวนโดยไม่ปรึกษานางหรือ
เขาคิดจะปิดบังไปถึงเมื่อใด
ทันทีที่ซูลี่เจินตั้งท่าจะพุ่งร่างเข้าไปอาละวาดที่ด้านใน หลินคุนและหลี่ฉางชุนซึ่งตั้งท่ารออยู่ก่อนรีบรวบร่างบางปิดปากมัดมือเท้าแล้วโยนขึ้นม้าควบขี่จากมาโดยเร็ว
จนถึงที่พักม้าข้างทาง สองหนุ่มจึงปล่อยให้หญิงสาวลงจากหลังม้านั่งพักสงบจิตใจ
“เหตุใดพี่คุนและพี่ชุนจึงพาข้าออกมาเช่นนี้ ข้ากำลังจะเข้าไปเปิดโปงชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้น ฮือๆๆๆๆ”
ถึงตอนนี้ ซูลี่เจินไม่อาจระงับน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้อีกแล้ว
“สามีรับอนุใช่เรื่องที่เมียเอกควรอาละวาดให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ น้องเจินเจิน เจ้าตรึกตรองให้ดี”
“แล้วพวกพี่พาข้าออกมารับรู้ด้วยเหตุใด” หญิงสาวตะโกนเสียงดังด้วยไม่อาจระงับความเสียใจได้
ลำพังการที่สามีจะมีเมียอื่น นางคงไม่เสียใจเท่ากับการที่เขากล่าวหาว่านางจืดชืด ไม่น่าค้นหา ไม่เร้าใจ ต่อหน้าหญิงอื่น
“ข้าหรืออุตส่าห์เลือกเขา ทั้งๆที่มีชายอื่นซึ่งคู่ควรกว่าตั้งหลายคน แต่เขากลับทำเช่นนี้กับข้าได้ ฮือๆๆๆ แต่งงานไม่ถึงปี ก็รับอนุเข้าจวน แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ฮือๆๆๆๆ”
สองหนุ่มที่เป็นเพื่อนของทั้งสองไม่อาจเอ่ยคำปลอบโยนใด ได้แต่ปล่อยให้หญิงสาวคร่ำครวญด้วยความเสียใจ
จู่ๆ ซูลี่เจินก็เกิดความมุทะลุขึ้นมา
“พี่คุน พี่ชุน พี่ฮุ่ยบอกว่าข้าจืดชืด ไม่น่าค้นหา พวกพี่ลองดูสิว่าข้าเป็นเช่นนั้นจริงหรือ”
หญิงสาวลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกเผยความอวบอิ่มเย้ายวนจนชายหนุ่มทั้งสองต้องกลืนน้ำลายลอบสบตากันอย่างไหวหวั่น
“น้องเจินเจิน เจ้างดงามเพียงนี้ อาฮุ่ยกลับไม่แลเห็น เจ้าไม่ต้องสนใจเขา เขาคือชายที่ตาบอดไม่เห็นเพชรเม็ดงามอยู่ในสายตามีของดีเช่นนี้กลับไปคว้ากรวดทรายมาเทิดทูน”
“ไม่จริง พวกพี่สองคนไม่ต้องปลอบโยนข้า ข้าช่างน่าเบื่อหน่าย แต่งงานมาไม่ถึงเดือนเขาก็ห่างเหินข้า กลับมาทีไรก็จับข้าโยกเพียงทีสองทีแล้วก็รีบออกไป คงออกมาหาหญิงสาวนางนี้ซึ่งถึงใจกว่า
พวกพี่คงเห็นแล้ว เขาสอดใส่ในร่องของนางอย่างสุขสม ทั้งชื่นชมทั้งแย้มยิ้มเริงร่า แล้วปล่อยให้นางเอ่ยคำดูหมิ่นข้า”
“น้องเจินเจิน เจ้าอย่าได้คิดมาก”
“ข้าจะไม่คิดมากได้อย่างไร พวกพี่ลองจับทรวงอกของข้าดูสิ มีตรงใดที่ด้อยกว่านาง”
มือสองข้างของชายสองคนค่อยๆกอบกุมเต้าทรวงสองข้างของซูลี่เจินอย่างไม่อาจหักห้ามใจกับความเย้ายวนตรงหน้า
