บท
ตั้งค่า

บทที่ 18 อัญมณีแผ่นดิน

ลำแสงมาจากรูปภาพนั้น ออกมาได้อย่างไร ลือสายลดมือลงเมื่อแสงจ้าหายไป เขาก้มมองภาพอีกครั้งแล้วย่อตัวลงหยิบรูปขึ้นมา

“อะไรคะ”

มุกตาภามองรูปในมือของลือสาย เขามองหน้าหล่อนไม่ตอบคำถามเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร หล่อนก้าวเข้ามายืนชิดเขาโดยลืมไปว่าเขาคือเจ้านายและตัวหล่อนเป็นสาวใช้ ความอยากรู้ทำให้หล่อนลืมตัวไปชั่วขณะหนึ่ง

“รูปเพชรใช่มั้ยคะ สวยจัง”

หล่อนถามโดยไม่รอคำตอบและชมภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เม็ดเพชรอยู่กึ่งกลางกระดาษ ประกายแสงที่กระทบกับแสงไฟบนเพดานราวกับเป็นของจริง ลือสายเพ่งมองอย่างใช้ความคิด ครู่หนึ่งเขาพลิกดูด้านหลังภาพ ตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือค่อนข้างหวัดอยู่ด้านหลัง

“สิตมณี”

เขาอ่านเสียงเบา มุกตาภาเอียงหน้าเข้าไปใกล้เขาแล้วอ่านตาม

“สิตมณี..”

หล่อนเคยได้ยินคำนี้จากไหน เปลือกตากะพริบเร็วๆ เมื่อคิดถึงแม่ หล่อนได้ยินจากแม่แต่จำไม่ได้ว่าแม่เล่าอะไรไว้บ้างแต่คำนี้แม่ของหล่อนเป็นคนพูด

“ใช่แล้ว..”

หล่อนโพล่งออกมาเมื่อคิดถึงคำนี้ได้ชัดเจนแล้วเงยหน้าขึ้นรวดเร็วเป็นเวลาเดียวกับลือสายเหลียวมองใบหน้าที่เงยขึ้นริมฝีปากหยักของเขาจึงแตะกับริมฝีปากอิ่มที่เงยโดยไม่ทันระวังของหล่อน เขาถึงกับนิ่งงัน หล่อนตะลึงกับสัมผัสแผ่วเบา

หลายวินาทีกว่าชายหนุ่มจะรู้ตัวว่าเผลอพอใจกับอุบัติเหตุย่อยนี้ หล่อนตาเบิกโตด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงและเหมือนจะเป็นลม ร่างบางเซถอยห่าง เขากะพริบตาถี่ผงะออกเช่นกัน

ลือสายสบดวงตากลมโตนิ่งนาน ความรู้สึกภายในร้อนซ่านทั่วทั้งร่าง เขาพอใจกับสัมผัสที่ไม่ได้ตั้งใจนี้หัวใจที่เคยสงบราบเรียบไร้คลื่นแห่งความปรารถนามานานหลายปีจะคุกรุ่นขึ้นในนาทีนี้ เขาหันหน้าหนีใบหน้าเกลี้ยงเกลาอยู่ใกล้แค่เอื้อมเมื่อหัวใจเริ่มเต้นแรง

ภาพในมือยกขึ้นอีกครั้ง เท้าก้าวไปนั่งเก้าอี้วางภาพลงบนโต๊ะ สายตาคมเพ่งมองรูปเพชรประหลาดอย่างพิจารณาครู่หนึ่งจึงหันมามองมุกตาภา

“หยิบหนังสือส่งมานี่ซิ”

เขาออกคำสั่งแล้วหันกลับมามองภาพ หล่อนหยิบหนังสือที่ภาพหล่นตกพื้นส่งให้เขา สายตาจับที่หนังสือ หล่อนอยากรู้เช่นเดียวกับที่เขาอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสืออะไร หน้าปกเป็นรูปอัญมณีหลากหลายชนิด ตัวหนังสือด้านบนสุดของปกเขียนไว้ว่า “อัญมณีแผ่นดิน”

ลือสายอ่านหน้าปกโดยไม่ออกเสียงแล้วเปิดดูด้านใน มุกตาภายืดคอเพื่อให้เห็นตัวหนังสือด้านใน ชายหนุ่มเงยหน้ามองหล่อน

“มองอะไร ทำงานไป” เขาดุกรายๆ หล่อนย่นจมูกทำปากยู่ตามไปด้วย

“คุณจะอ่านรึเปล่า ถ้าไม่อ่านฉันจะยืมอ่าน”

หล่อนมองหนังสือมือจับหนังสือกองสูงมาถือไว้ เขาสบตากลมไม่ตอบคำถามของหล่อนแต่เปิดหนังสือต่อทีละหน้า หล่อนชำเลืองมองขณะก้าวไปยืนหน้าตู้หนังสือ จัดหนังสือใส่ที่เดิมแล้วหันมาหยิบหนังสือบนโต๊ะจนหมด ลือสายยังเปิดหนังสือเล่มที่หล่อนสนใจต่อเรื่อยๆ

“จัดหนังสือเสร็จแล้วออกไปชงกาแฟให้ฉันหน่อย”

เขาสั่งโดยไม่หันมามอง หล่อนเบ้ปากแล้วเดินออกไปเงียบๆ ครู่เดียวก็ถือถาดเงินใบเล็กในนั้นมีแก้วกาแฟกับแก้วน้ำเปล่าและจานขนม หล่อนยกแก้วกาแฟวางตามด้วยแก้วน้ำและจานของว่าง

“คุณแม่ฉันให้เอาของว่างมาให้ฉันเหรอ”

“เปล่าค่ะฉันเอามาเองถ้าคุณไม่ทานฉันทานเอง”

หล่อนยกจานของว่างกลับคืนเขาปิดหนังสือเสียงดังแล้วลุกขึ้นยืนคว้าต้นแขนหล่อนบีบแรง

“โอ้ย..เจ็บนะ”

“อย่ามาเสียมารยาทกับฉันอย่างนี้อีก วางจานลงแล้วจะไปไหนก็ไป”

เขาสะบัดมือปล่อยต้นแขนนุ่มแล้วจ้องหน้าเกลี้ยงเนียน ลำแขนหล่อนนุ่ม ใบหน้าเกลี้ยงสะอาดผิวพรรณผ่องนวล นี่หรือสาวใช้ของแม่ เขาทรุดลงนั่งที่เดิมอย่างหงุดหงิด ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ความคิดยังอยู่ที่สาวใช้คนใหม่

มุกตาภาเดินบีบนวดต้นแขนตัวเอง ปากบ่นพึมพำไปที่ห้องครัว หล่อนอยากได้กาแฟสักแก้วแล้วจะเข้าไปทำความสะอาดห้องทำงานของลือสาย กาแฟกลิ่นหอมลอยแตะจมูก หล่อนยกแก้วขึ้นจิบพอใจกับรสชาติกาแฟฝีมือตัวเองแต่ขณะลดมือจับแก้วกาแฟลดลงต่ำอะไรบางอย่างผ่านหน้าประตูห้องครัววูบ หล่อนหันขวับ

“ใคร ทำไมไม่เข้ามาหรือว่า..”

ความคิดหยุดลงแค่นั้นหล่อนรีบก้าวเร็วๆ ออกจากห้องครัว คำของแม่ผ่านเข้ามาในความทรงจำ

“พยายามเลี่ยงพบหน้าบุลลานะลูกเพื่อความปลอดภัยของหนู”

พอมุกตาภาก้าวพ้นห้องครัวเดินเลี้ยวไปทางห้องทำงานของลือสาย บุลลาก็เดินเข้ามาในครัว หล่อนเหลียวซ้ายหันขวามองหาอะไรสักอย่าง ครู่เดียวก็เดินกลับออกไป

“หายหัวไปไหนกันหมด ไม่มีใครเอาข้าวมาให้ฉันสักคน มันอยากถูกไล่ออกรึไง”

“ใครจะไล่ใครออกรึบุลลา”

ทนเดินเข้ามาในมือถือมีดตัดหญ้า ดวงตาที่จ้องมองบุลลานั้นไม่ไว้ใจ ทนไม่หนีไปพึ่งบุญวิภาเหมือนที่เสรียง สร้อยและน้อยเพราะคำขอของวิภาให้อดทนอยู่เพื่อมโนรมแต่วันนี้ไม่มีมโนรมและบุลลาถูกลดฐานะจากภรรยารองเจ้าของบ้านเป็นคนรับใช้เช่นเดิม ทนจึงไม่ต้องอดทนอีกต่อไปและไม่ต้องก้มศีรษะให้บุลลา นอกจากไม่จำยอมรับบุลลาเป็นนายแล้ว ทนยังเป็นหัวหน้าคนรับใช้ ใครทำไม่ดีทนรายงานนายใหม่ได้ทุกเวลา

“ข้านี่ไงจะไล่พวกเอ็งออก”

“หมดเวลาของเอ็งแล้วนังบุลลา อย่าขึ้นไปวุ่นวายบนเรือนอีกถ้าแม่เลี้ยงไม่เรียกใช้ วันนี้ข้าจะไม่บอกแม่เลี้ยงแต่ถ้าข้าเห็นเอ็งขึ้นเรือนใหญ่อีกข้าจะรายงานแม่เลี้ยง เอ็งรู้ใช่มั้ยว่าโทษของแกคืออะไร”

“อย่ามาขู่ข้านะ ข้าเป็นนายของพวกเอ็งอยู่ ถ้ายังไม่เจอคุณรม ข้าจะไม่ยอมไปจากที่นี่ ใครก็ไล่ข้าไม่ได้”

“มีอะไรกัน เสียงดังไปถึงข้างบน”

เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังบุลลา หล่อนหันไปมองแล้วก็ต้องนิ่งตะลึงกับร่างสูงของชายหนุ่ม ใบหน้าคมเข้มสะดุด ผู้ชายคนนี้เป็นใคร หล่อนยิ้มหวานเท่าที่จะทำได้ในขณะนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel