CHAPTER 4
เช้าวันรุ่งขึ้น
ข้าวหอมมาทำงานตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน เธอเคาะประตูเพื่อจะถามท่านประธานคนใหม่ ว่าจะรับชากาแฟหรือของว่าง แต่เมื่อเข้าไปในห้อง กลับไม่พบแม้แต่เงาของท่านประธานคนเก่าหรือท่านประธานคนใหม่ที่ลูกชายของเขา
ข้าวหอมออกมานั่งทำงานของตนเองต่อเงียบๆ จนเวลาผ่านไปถึงเกือบ 10 โมงเช้า เมื่อไม่เห็นประธานคนใหม่มาทำงาน เธอจึงทำการต่อสายถึงท่านเจ้าสัวอัครเดชทันที
Rrrr Rrrrr...
ไม่นานก็มีคนกดรับสายของเธอ
[ฮัลโหล ว่าไงจ๊ะข้าวหอม!!!] เสียงของคุณมธุรสรับสายอย่างสดใส
“สวัสดีค่ะคุณนาย คือข้าวหอมจะสอบถามเจ้าสัวเรื่องการมาทำงานของท่านประธานคนใหม่น่ะค่ะ ท่านเจ้าสัวอัครเดชแจ้งว่าวันนี้ลูกชายของท่านจะเข้าบริษัทเป็นวันแรก แต่เอ่อ คุณ เอ่อ...คุณอะไรนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ข้าวหอมยังไม่ทราบชื่อท่านประธานคนใหม่เลย แย่จัง”
ข้าวหอมพูดเข้าเรื่องทันทีและทำเสียงแห้งๆ ที่เธอลืมถามชื่อท่านประธานคนใหม่ซะนี่ คุณมธุรสได้ยินก็หัวเราะร่าอย่างไม่ถือโทษอะไร
[เจ้าเสือน่ะเหรอจ๊ะ เขาชื่อ สิงหราช เลโอนาร์โด น่ะ แต่ส่วนใหญ่คนอื่นจะเรียกเขาว่าเลโอนาร์โด หรือคุณเลโอ มากกว่า ส่วนชื่อไทยจะสงวนไว้สำหรับคนในครอบครัวเท่านั้น ว่าแต่เสือยังไม่ถึงโรงแรมอีกเหรอจ๊ะ เขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้วนะ ป่านนี้น่าจะถึงแล้วนะ”
“อ๊ะ ใช่ค่ะ ข้าวหอมยังไม่เห็นเข้ามาเลยนะคะ... ว้ายย...”
ข้าวหอมคุยโทรศัพท์อยู่ ก็มีผู้ชายหน้าหล่อคนหนึ่ง อยู่ดีๆ ก็มาดึงเอาโทรศัพท์ออกจากหูเธอไปหน้าตาเฉย แถมยังผลักเธออย่างแรง จนเธอเกือบจะล้มลงที่พื้นห้อง
[หนูข้าวหอม เป็นอะไรไปจ๊ะ] คุณนายมธุรสถามมาตามสายเพราะตกใจเสียงร้องของข้าวหอม
“ผมถึงบริษัทแล้วครับแม่ แค่นี้ก่อนนะครับ”
เขาพูดจบก็วางสายทันที และหันมาสบตาคมเข้มเข้ากับดวงตากลมโตของข้าวหอม ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ถ้ายังอยากทำงานนี้อยู่ ก็ไม่ต้องคอยรายงานที่บ้านฉัน เข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย?” เขาก้มหน้าลงมาแทบจะชิดกับใบหน้าของข้าวหอม
เขาสูงกว่าเธอมาก น่าจะสูงไม่ต่ำกว่า 180 เซนติเมตร เพราะเธอสูงถึง 170 ยังต้องแหงนหน้าคุยกับเขา
“ขะ เข้าใจค่ะ” ข้าวหอมรีบพยักหน้าตอบตกลงกับเขาทันที
นี่สินะที่พี่อร ผู้จัดการฝ่ายการเงินเข้ามาเตือนเราในวันนั้น เฮ้อ!! ข้าวหอมเอ๊ย ฉันยังอยากทำงานอยู่ที่นี่นะ สงสัยจะต้องตั้งใจทำงานมากกว่าเดิมซะแล้วสิเรา ข้าวหอมบอกตัวเองภายในใจ
“เธอชื่ออะไร” ชายหนุ่มร่างสูงถามออกมาอย่างเสียงดัง พร้อมกอดอกมองหน้าเธอด้วยท่าทางเฉยชา
หญิงสาวสะดุ้งก่อนตอบ “ชื่ออารยา หรือเรียกว่าข้าวหอมก็ได้ค่ะ คุณสิงหราช”
สีหน้าของคุณสิงหราช ดูแล้วค่อนข้างไม่พอใจเราสักเท่าไหร่ ทำไงดีแม่จ๋าพ่อจ๋า ถ้าหนูไม่มีงานทำ หนูจะกลับไปให้พ่อกับแม่เลี้ยงหนูนะ หญิงสาวพึมพำในใจ
“ไม่ต้องพูด คะ ขา ค่ะ รำคาญหู พูดปกติเป็นมั้ย แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณนั่นนี่แล้วด้วย” สิงหราชพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเหมือนหงุดหงิดใจ
“ค่ะ ท่านประธาน” อ๊ะ เมื่อกี้ฉันเพิ่งเรียกเขาว่าคุณไปนี่นา
สิงหราชชำเลืองสายตาขึ้นมองข้าวหอมอย่างไม่พอใจอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ “เราอายุเท่ากัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพกับฉันมากก็ได้ ไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านประธานด้วย ฉันยังไม่แก่เท่าพ่อฉัน”
‘รู้สึกรำคาญมากพิธี หรือจริงๆ แล้วเขาจะเป็นคนสบายๆ กันนะไม่ให้เรียกท่านประธานแล้วจะให้ฉันเรียกว่าอะไรล่ะ แต่เอะ เขามารู้อายุเราได้ยังไง’ ข้าวหอมคิดในใจอย่างสงสัย แต่ใบหน้าสวยก็ยกยิ้มและตอบกลับไปในแบบเลขาผู้ทรงประสิทธิภาพ
“ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบรับไปก่อน เดี๋ยวค่อยคิดอย่างอื่น
“ดีมาก” สิงหราชทำสีหน้าพึงพอใจ “ออกไปทำงานของเธอได้แล้ว”
ข้าวหอมพยักหน้ารับให้เขาไปทีหนึ่ง แล้วเดินออกจากห้องทำงานเจ้านายใหญ่ นั่งเคลียร์เอกสารของเธอเงียบๆ
สักพักอรอนงค์ก็เดินมาเคาะโต๊ะทำงานที่เธอนั่งทำงานอยู่
