1 ศัตรูคู่อริ
ดนตรีจากเปียโนและไวโอลิน ขับกล่อมแขกเหรื่อในงาน ให้เพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารหลากรส พร้อมกับชมวิดีโอบนจอยักษ์ใหญ่หน้าเวที
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ผสมผสานกันเป็นหนึ่งเดียวนั้น มุ่งตรงไปยังคู่บ่าวสาว ที่เดินทักทายแขกผู้มีเกียรติในงาน อย่างเป็นกันเอง ด้วยชุดสีขาวบริสุทธิ์ เคียงคู่กันไป...
หางยาวเฟื้อยของชุดเจ้าสาว
ยาวเหมือนเส้นขนมจีนเส้นยาวที่กำลังถูกสาวเข้าริมฝีปาก อย่างเอร็ดอร่อย ในมุมอาหารลับ ๆ หนึ่ง ที่ไม่ค่อยจะมีใครมองเห็น
“เหอะ ทำเป็นจัดงานหรูหรา” หนึ่งในแขกที่ไม่รู้ว่ามีเกียรติพอหรือเปล่า อยู่ในชุดเดรสสั้นพอดีตัว เข้ากับธีมสีชมพูอ่อนพาสเทล แบบเรียบง่าย แต่แอบเซ็กซี่เบา ๆ
เผยเนินอกอวบอิ่มเข้ารูปของเจ้าตัว ที่มีหุ่นนาฬิกาทรายได้สัดส่วน อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผายไหล่ยก
จนหนุ่ม ๆ เห็นแล้วพากันน้ำลายสอเป็นแถบ ๆ
แต่จุดประสงค์แท้จริงที่เธอมาในงานนี้ ไม่ใช่หนุ่ม ๆ พวกนั้น ที่คอยหลบสายตาแฟน...
มาลอบส่งสายตาให้ แต่เป้าหมายจริง ๆ นั้นอยู่ที่...
“มาหลบอะไรอยู่ตรงมุมนี้” มือนิ่ม ๆ จากคนที่เธอเฝ้ารอเพียงคนเดียว วางลงบนไหล่เปลือยเปล่า จนคนที่กำลังมองความยาวเฟื้อยของหางชุดเจ้าสาว ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดสะดุ้งเล็กน้อย
“เฮ้อ! มาได้ซะทีนะแม่สายเสมอ” ตวัดสายตาเง้างอนหันไปยังร่างเพรียวลม สมกระดาน ที่มาในชุดเดรสรุ่งริ่ง ผ้ายาวระย้าโรยตัวเป็นชั้น ๆ แต่เรียบหรูลงไปตามรูปร่างไร้ความโค้งเว้าใด ๆ นั้น
ด้วยสายตาอึ้งสุดอะไรสุด!
“ว้าว...ตายแล้ว ต่ายแล้ว! ไม่แปลกใจว่าทำไมแกถึงมาสาย โอ้มายก็อด...ใครขุดเพื่อนฉันมาจากหลุมเสื้อผ้าโบฮีเมียนได้วะ!”
“จุ๊ ๆ จะเสียงดังไปทำไมเนี่ย” ยิปซัม ประกายแสง ดึงแขนเพื่อนสาว หลบมายังมุมที่หล่อนหลบอยู่เมื่อกี้ให้มิดชิดมากขึ้น
ลำพังต้องมาใส่เสื้อผ้าที่ไม่คุ้นเคย ก็รู้สึกเขินตัวเองจะแย่ อย่าให้ต้องมาเขินเพราะคนพากันรุมแซวนักเลย
“ก็คนมันดีใจนี่ ที่เห็นเพื่อนสวย...ดูสิดู แต่งหน้าเนียนกริบ ไร้รอยหลุมฝ้า ร้ายไปกว่านั้น...ขนตา! งอนกระพือพรึบ ๆ ใส่บิ๊กอายด้วยป่ะเนี่ย” คนขัดเขินวางหน้าแทบจะไม่ถูก แถมยังต้องกุมมือไม้ตัวเองเอาไว้ เพื่อให้ไม่วางผิดที่ผิดทาง
“ก็จะไม่ให้สวยได้ยังไงล่ะ อย่าลืมสิว่าเจ้าสาวเป็นลูกค้าระดับวีไอพีของฉัน เขาจะให้ฉันขึ้นไปบนเวทีเพื่อยืนยัน ว่าผู้ที่นางควงเข้าพิธีด้วยเนี่ย ฉันมีส่วนในการคัดสรรให้” อธิบายแกมรู้สึกกังวลใจ คนอย่าง ยิปซัม นะหรือ
ที่จะต้องขึ้นเวที!
“ดูดวงตัวเองมาบ้างปะเนี่ย อย่าให้ขายขี้หน้าแม่หมอออนไลน์ที่โด่งดังที่สุดในประเทศนะเว้ย” แม้เพื่อนสาวจะมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่คนที่รู้สึกว่าขนมจีนเส้นสดยาวเฟื้อยก้อนขนาดกลาง ยังไม่หนำใจ
ก็ยังแอบคว้าขนมจีบในกระทงบนชั้นซุ้มอาหาร ออกมาโซ้ยต่ออย่างเอร็ดอร่อย
“แกก็เวอร์ไป ฉันไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นซะหน่อย” พูดเหมือนจะถ่อมตัว แต่เชิดใบหน้าชูคอขึ้น ราวกับภาคภูมิเต็มที่
“โอย อยากจะปาด้วยขนมจีบ...”
“ปามาเลย ปามา...คืนนี้ฉันจะได้มีคนมาจีบเยอะ ๆ” ทำท่าเหมือนพรักพร้อมเต็มที่ แต่รู้ดีว่าตัวเองไม่น่าจะใช่ ‘จุดลงจอด’ ของสายตาวิบวับของพวกเหล่าหนุ่ม ๆ เป็นแน่
“แกบอกว่าดวงแกไร้คู่ไม่ใช่เหรอวะ ยังจะอยากให้มีคนมาจีบเพื่อ”
“แหม ๆ ถึงฉันจะเป็นถึงแม่หมอมือหนึ่ง แต่ฉันก็ไม่ยอมที่จะสิ้นไร้ไม้หวัง ดำเนินชีวิตตามดวงไปร้อยเปอร์เซ็นต์เสียเมื่อไหร่ คนไม่ใช่คู่...อยู่กันยืดถมถืด แกก็รู้” พอขนมจีบในกระทงเล็กๆ ได้หมดไปภายในพริบตา
แต่คนที่มีขนมจีบเต็มปากอยู่ ก็รีบโบกไม้โบกมือเชิงขัดให้อย่างทันใด
“ใครจะเชื่ออย่างนั้นก็ตามใจ แต่สาวกดวงชะตาอย่าง อีไวน์ ไม่มีทางเว้ย ไม่มีทางที่ฉันจะยอมให้ความห่วยแตกของชีวิตบางช่วง มาพรากความเชื่อในดวงของฉันให้หลุดลอยไป” สายตามุ่งมั่นของแววตาสีดำสนิทของสาวไทยแท้
ที่มีเครื่องหน้าครบครัน แม้จะไม่โดดเด่นแต่ก็สวยไปทุกส่วน แบบไร้ทิศทางให้ติเตียน ทำให้เพื่อนรักนักดูดวง...ถึงกับต้องส่ายหน้า
“สอนไม่รู้จักจำ ดวงชะตากำหนดชีวิตเราแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ...การลงมือทำเองล้วน ๆ เมื่อไหร่จะเข้าใจให้ถูกต้องสักที”
รีบส่ายหน้า แบบยืนกรานในสิ่งที่ตัวเองเชื่อถือ
“ฉันจะทำให้แกดู ว่าฉันจะต้องได้ทุกอย่าง ตามที่ดวงชะตากำหนด แบบที่อะไรก็มาต้านไม่ได้ด้วย” แล้วแก้วไวน์ทรงสวยก็ถูกเดินเสิร์ฟถึงมือ
มือเรียวยาวที่มีเล็บยาวได้รูปสวยสีชมพูอ่อนพาสเทลเข้ากับชุด ก็ไปคว้าแก้วไวน์สีแดงช้ำมาแกว่งไว้ในมือแบบชำนิชำนาญ
ไวชญานีก์ สุดธิรักษ์เป็นคนบ้านๆ ที่มีหน้าตาและรูปร่างติดท็อปคลาส สวยแพงทั้งๆ ที่ตะแคงเท้าเดิน อยู่ทุกวี่วัน
“ขอให้สมปรารถนาย่ะ” แต่แล้วมุมหลบที่คิดว่าไม่มีใครจะเดินมาถึง ก็ถูกคู่บ่าวสาวควงแขนกันมาอย่างรักใคร่ สวยงาม โดดเด่น
“ไฮจ้ะยิป สวยมากเลยจ้ะ ชอบชุดที่ทางช่างเตรียมให้มั้ยจ๊ะ” กชกร บวรวิเวศ อดีตเพื่อนร่วมคณะสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ส่งยิ้มหวานทักทาย พร้อมกับมองเลยมายังแขก ‘ไม่ได้รับเชิญ’
ที่ยืนสวยสง่า มาเสมอ ด้วยแววตาสะดุดเพียงน้อย
“ชอบมากเลยจ้ะ สวยแล้วก็พอดีตัวเป๊ะเลย ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ไม่สะดวกมาลองชุดด้วยตัวเองก่อน”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรเลยจ้ะ ยินดีมาก ๆ พอดีว่าจอห์นเขาอยากจะเจอตัวจริงของยิปมานานแล้ว แต่ยิปคิวยาวมาก ก็เลยถือโอกาสเชิญมาร่วมพิธี เป็นพยานรักคนสำคัญให้เราสองคนด้วย ขอบคุณที่เสียสละเวลามานะจ๊ะ”
วาจาหวานหยดย้อย เลื่อนเรื่อยไปถึงคนที่ยืนยิ้มแฉ่ง แต่แววตาซ่อนเร้นห้วงอารมณ์บางอย่างเอาไว้ เหมือนรู้กัน
“ยินดีมาก ๆ เลยค่ะ ยินดีด้วยนะคะคุณจอห์น” จอห์น เวสท์ ส่งรอยยิ้มกว้างตามสไตล์ฝรั่งผมทอง ตัวผอม สูงโย่ง ไม่ได้หล่อเหลาเหมือนฝรั่งในปกนิตยสารหรือภาพตามสื่อออนไลน์ทั่วไป
แต่รอยยิ้มและแววตาที่สื่อมายังผู้คนรอบข้าง ก็พานจะทำให้ผู้คนพลอยยิ้มตามไปด้วย
“ขอบคุณ นะครับ ที่นำทาง ให้ โผม มา ด้าย เจอ กับที่รักของโผม” น้ำเสียงแปร่งๆ พยายามพูดภาษาไทย ยิ่งเสริมให้เขาดูเป็นผู้ชายน่ารักคนหนึ่ง
แม้แต่คนที่แอบอคติตั้งแต่แรก ยังแอบรู้สึกดีกับแฟนของเพื่อนห่าง ๆ ผู้นี้ไปด้วยไม่ได้
“นั่นใช่...ไวน์หรือเปล่าจ๊ะ” ใบหน้าเอิบอิ่มแต่ทว่าถูกแต่งให้ดูเพรียวลงกว่าเดิม ฉีกยิ้มกว้าง สายตาทำเป็นไม่แน่ใจ เอ่ยทัก
จนคนที่รู้เช่นเห็นใช่ เม้มริมฝีปากเชิงจะเบ้...ใส่ กลบไปด้วยรอยยิ้มแสนหวาน
“แหม จะบอกว่าไม่ได้เชิญทำไมถึงเห็นหน้าได้ ประมาณนั้นป่ะจ๊ะ”
น้ำเสียงหวานแต่เต็มไปด้วยความเย้ยใส่แบบไม่เคลือบด้วยความเสแสร้ง ทำเอารอยยิ้มของเจ้าสาวแสนสวยหุบฉับลงแทบจะทันที
แต่พอรวบรวมสติได้ก็กลับมาฉีกยิ้มหวานดังเดิมได้ พร้อมหัวเราะเชิงกลบเกลื่อน
“เปล่าซะหน่อย มองโลกในแง่ร้ายเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ โวยวาย เนี่ย” ทำเป็นตำหนิไม่ได้จริงจังนัก พร้อมหันมาส่งรอยยิ้มให้กับหมอดูสาว ที่ทำหน้าเหมือนจะลำบากใจอยู่
สมัยเรียน ใคร ๆ ก็รู้ ว่ากชกรกับไวชญานีก์ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันแค่ไหน
สนามแข่งขันใด ไม่มีสองคนนี้ เป็นไม่ใช่สนามแข่งขันที่สมบูรณ์แท้
แต่หลังจากเรียนจบ ก็ต่างแยกย้ายกันไป จนแทบจะลืมเลือนเรื่องราวเก่า ๆ พวกนั้น แต่อดไม่ได้เลยจริง ๆ ในคราที่ได้กลับมาพบหน้า
เรื่องเก่า ๆ ก็พากันผุดขึ้นมา จนหาที่จัดเก็บให้เป็นระเบียบไม่ได้
“ยังไง ฉันก็ยินดีด้วยนะจ๊ะ ที่หาสามีสาย ฝ. อย่างที่ต้องการได้สักที แม้จะไม่ใช่สเปคเธอเท่าไหร่ ก็เหอะ” ไวชญานีก์ร้ายกาจชนิดที่ไม่อาจจะจับไปเป็น นางเอก ในละครเรื่องไหนได้
ตวัดสายตาเชิงประเมินของตัวเองไปยังเจ้าบ่าวที่ยิ้มจนเหงือกจะแห้งอยู่
แม้เขาจะพูดภาษาไทยได้เล็กน้อย แต่การฟังถือว่า ‘น้อย’ จนแทบจะไม่ได้เลย
“ไวน์เขาบอกว่า ยูคือผู้ชายในฝันของไอที่ไอตามหามานานแสนนานน่ะจ้ะ” รีบอธิบายเป็นภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อให้คนที่หันมามองหน้าเธอเชิงสนเท่ห์ต่อทันที ด้วยรอยยิ้มหวาน
“ยูก็คือหญิงในฝันของไอเหมือนกัน” แล้วคนที่กระดกแก้วไวน์ไปหมดแก้วในคราเดียว ก็เหยียดริมฝีปากออก พร้อมมองบน
เมื่อคู่บ่าวสาวพากันโชว์หวานเป็นภาษาอังกฤษใส่กัน แบบไม่ได้เกรงใจคนฟังไม่ออกอย่างเธอ
แต่ภาษากายกลับอธิบายทุกอย่างออกมาอย่างแจ่มแจ้ง
“แต่ฉันก็ยังดีกว่าเธอนะจ๊ะ ที่ป่านนี้...อย่าว่าแต่ผู้ชายในฝันเลยจ้ะ ผู้ชายธรรมดา ๆ เธอก็ไม่มีปัญญาควงมางานให้ฉันเห็นเลย”
“อีน้ำกรด...”
เสียงกระซิบลอดเล็ดไรฟันของไวชญานีก์ เหมือนเสียงสลักระเบิดถูกปลด พร้อมเขวี้ยงออกไป
คนรู้ใจและเท่าทันเพื่อนเสมออย่างยิปซัม รีบดึงแขนเพื่อนเอาไว้ พร้อมกางปีกขวางกั้นร่างสองร่าง
“ไวน์! อย่า”
จอห์น เวสท์ เข้าใจว่าสองสาวทักทายกันตามประสา เพราะฟังไม่ออก ด้วยสีหน้าและโทนเสียงที่ปั้นแต่งอย่างชำนาญการพิเศษของกชกร
ทำให้เขาดูไม่ออก ว่านี่คือการประกาศศึกครั้งใหญ่ของสองสาวอยู่!
“อีกสามเดือนก็จะอายุ 27 ปีแล้ว...ไหนล่ะจ๊ะ ที่เธอเคยโม้เอาไว้ว่า จะแต่งงานตอนนั้น โฮ...คงหมดโอกาสแล้วสิท่า”
ท่าทีเยาะเย้ยของคนที่เป็นเหมือนศัตรูหมายเลขหนึ่ง เหมือนมีคนมาเคาะประตูหน้าบ้านด้วยเท้า กระโดดถีบหมายจะพังเข้ามาด้วยจอบ เสียม คุ ถัง กะละมัง สาก!
“อย่าว่าแต่แต่งงานเล๊ย แค่รับช่อดอกไม้ ในงานของฉันให้ได้ก่อนเถอะ”
“ขอตัวก่อนนะจ๊ะหมอยิป”
แล้วเจ้าสาวแสนสวย ก็เยื้องย่างเกี่ยวกายไปตามไหล่กว้างของหนุ่มฝรั่งสูงผอม ราวกับประกาศว่าตัวเองคือผู้ชนะ
“ไวน์ ไวน์” ยิปซัมรีบสะกิดคนที่แน่นิ่งไป เหมือนจะไร้ลมหายใจ อย่างรู้สึกเป็นห่วง
“แกโอเคป่ะเนี่ย” ใบหน้าแดงก่ำของเพื่อนรัก ที่เหมือนกินพริกยกสวนเข้าไป แล้วเผ็ดจนควันออกหู ทำเอาเธอไม่สบายใจหนัก
รู้ทั้งรู้ ว่าถ้าสองคนนี้เจอกันแล้วจะเกิดอะไร เราก็ยังจะพามันมาอีก!
“โอเคก็บ้าแล้วดิ ฉันจะต้องรับช่อดอกไม้ จากมือมันมาให้ได้ในคืนนี้เว้ย!”
“นั่นมันก็คือเป้าหมายที่แกมาในงานนี้ไม่ใช่หรอวะ” แย้งเพื่อนก็จริง แต่สองมือกำลังพยายามแกะมือที่กำอยู่แน่นของคนที่กำลังโกรธจัดออก
เล็บเจลจิกเนื้ออุ้งมือลึกเป็นรอย ดีที่ไม่มีเลือดไหลซิบ ถ้าเป็นผิวบริเวณอื่นล่ะไม่แน่
“มันก็ใช่เว้ย ที่ฉันมารับช่อดอกไม้เพราะว่าแกทำนายให้ ว่าช่อดอกไม้ในค่ำคืนนี้ ในงานแต่งงานของคนที่เกิดปีจอ ราศีมีน ในเดือนสาม จะนำพาเนื้อคู่คนนั้นมาให้ ฉันถึงได้ถ่อมา!”
“แต่เป้าหมายของฉันมันกำลังเบี่ยงเล็กน้อย...คือฉันจะใช้มันตบหน้า คนที่มันกล้ามาดูถูกฉัน!” ยิปซัมเอามือกุมขมับทันทีที่ได้ยิน เธอรู้ดีว่าคนอย่างไวชญานีก์ มีหรือที่จะไม่กล้าทำเรื่องบ้าดีเดือดพวกนั้น
ภาพวันเวลาเก่า ๆ ที่สองสาวอยู่ร่วมกันไม่ได้ ผุดขึ้นมาอย่างน่าปวดใจ ขอให้แกไม่ได้ช่อดอกไม้ด้วยเถิดว่ะ
