ตอนที่ 7 ลืมใช้ชีวิต
ร่างใหญ่รั้งสะโพกน้อยๆ ไว้แล้วหลั่งรินออกมาจนหมดหน้าท้องแบนราบของหญิงสาวเต็มไปด้วยน้ำขาวขุ่นจากปลายหัวหยักของคนบนร่าง สีหน้าของเขาที่กำลังเชิดหน้าสูดปากครางช่างดูเร้าอารมณ์คนตัวเล็กอย่างหนักหน่วง เธอยังกระตุกตอดอยู่ทั้งอย่างนั้น
“คุณสุดยอดมากตั้งโอ๋ ถ้าได้แตกในสักครั้งคนอุ่นน่าดู”
เขาชมจริงไม่ได้แสดงแต่อย่างใด ทางรักของเธอมันคับแคบจนเขาติดใจ แถมท่าทางไร้เดียงสาของเธอนั่นก็ชวนลุ่มหลง
“บ้า”
หญิงสาวกลบความเขินอาย ด้วยคำพูดแค่นั้นแล้วก็หลบสายตาคมกริบของเขาที่จ้องมองมา เธออายจนหน้าแดงจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี แถมเมื่อได้สติกลับมาแล้วก็เริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะปล่อยให้ความอยากเอาชนะเขาครอบงำจนทำกันมาถึงขั้นนี้
“ไม่ต้องเขินครับ เพราะเราต้องทำแบบนี้กันอีกบ่อยๆ”
เขาพูดแล้วก้มลงมาหอมที่แก้มแดงระเรื่อฟอดใหญ่
[Talk เตชิน]
ถ้าเช่นนั้นทางเราจะส่งสัญญาไปให้เซนต์ภายในหนึ่งอาทิตย์นี้นะคะ
น้ำเสียงเรียบเฉยกับใบหน้าเชิดๆ และการคุยงานแบบมืออาชีพ ไม่ว่าใครก็ต้องหลงใหลในความเก่งและสวยของเธอ ผมจ้องมองเธอด้วยสายตาคมกริบราวกับว่าจะฟาดฟันลงไป ใบหน้าหยิ่งยโสเริ่มมีทีท่าเปลี่ยนแปลงเมื่อเจอกับสายตากรุ้มกริ่มยิ้มย่องของผม
“วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ฉันขอพักนะคะ”
เธอเอ่ยนิ่งๆ และท่าทางเหนื่อยล้าของเธอแสดงออกมาได้ชัดเจนผ่านใบหน้าสวยนั่น เมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนเพราะผมเองก็คึกมากจัดเธอแบบไม่หยุดทั้งคืน แล้วไหนจะงานที่เธอรับผิดชอบอีก ผมจึงต้องยินยอมให้เธอไปพักโดยที่จะไม่คิดจะไปรบกวนเธอ
“ได้ครับ คุณไปพักได้เลยตั้งโอ๋ เราบินกลับกันพรุ่งนี้เช้าคุณพักผ่อนให้เต็มที่นะครับ”
รอยยิ้มผุดออกมาจากมุมปากของผมบ่อยมากขึ้น แต่ความวาบหวามจากเมื่อคืนนี่มันไม่หายไปเลยจริงๆ แค่คิดถึงใบหน้าของเธอที่ผมยาวรุงรังนั่นครางอยู่ใต้ร่างผมครั้งแล้วครั้งเล่าก็ทำเอาผมเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกแล้ว ก่อนจะเลยเถิดผมก็สลัดความคิดใต้สะดือทิ้งก่อนที่เธอจะจับได้
“บอส คุณอย่าเรียกชื่อเล่นฉันแบบนี้สิคะ มัน…”
“ต่อไปผมจะเรียกแบบนี้ คุณเป็นของผมแล้ว เพราะฉะนั้นทำใจไว้ซะ”
ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเอื้อมมือไปลูบไล้บริเวณแก้มนวลของเธอ
“บ้า ใครเป็นของคุณ”
“ให้ผมสาธิตมั้ยละ ว่าใครเป็นของผม และเป็นของผมได้ยังไง”
เคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ทันทีที่เธอคิดจะท้าทายผม เข้าไปใกล้จนเธอต้องยกแฟ้มเอกสารขึ้นมาบัง
“บ้า ทะลึ่ง”
[Talk กรวรีย์]
'พระเจ้า ไอ้บอสงี่เง่านั่น ไอ้หมอนั่นกำลังปั่นหัวฉันแล้วทำให้ฉันเล่นตามเกมของเขา แต่ว่านะตั้งโอ๋เธอก็กำลังเล่นตามเกมของเขาอยู่จริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้คนเย็นชาตายด้านแบบนี้จะกำลังควบคุมฉันอยู่'
'แถมลีลารักยังเก่งเกินต้าน เฮ้ยยย ไม่ได้ดิ แกจะมาคล้อยตามไม่ได้นะ'
เมื่อเทพธิดากับซาตานในใจของฉันตีกันเสร็จ ฉันก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเอง แล้วลงไปแช่น้ำในอ่างอาบน้ำที่ถูกตีฟองรอไว้
"อ่าาา ฟิน∼"
พูดแค่นั้นแล้วเอนกายนอนอย่างผ่อนคลายก่อนจะปล่อยตัวเองไปตามความคิดและความคิดบางอย่างมันก็แว๊บขึ้นมาในหัว
พวกเราจะเป็นยังไงกันต่อไปนะ เพื่อนนอน เพื่อนร่วมงาน FWB หรืออะไรกันแน่
ผู้ชายคนนั้นเหมือนกำลังสนุกที่ได้แกล้งและปั่นหัวฉัน ยิ่งฉันทำหน้าตาอ้อนวอนเท่าไหร่เขายิ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง เขาแค่อยากเอาคืนฉันหรือเปล่า ได้แต่ครุ่นคิดแล้วก็ถอนหายใจอยู่ภายในอ่างอาบน้ำวนสุดหรูของโรงแรม
แล้วอาการใจเต้นตึกตักที่หายสาบสูญไปจากชีวิตของฉันมันก็เริ่มกลับมามีบทบาทกับชีวิตฉันแล้วละสิ ให้ตายเถอะฉันไม่อยากจะยอมรับเลย ถ้าเกิดว่าความตายด้านฉันหายไปแล้ว ฉันลองออกไปเปิดโลกกว้างแล้วใจเต้นกับคนอื่นที่ไม่ใช่หมอนี่บ้างดีมั้ยนะ
กู๊ด ไอเดียมากตั้งโอ๋
21.00 น.
ร่างเล็กที่หน้าอกหน้าใจใหญ่เกินพอดีเดินสืบเท้าเข้ามาที่บาร์แห่งหนึ่งที่วันก่อนฉันได้มาใช้บริการ สายตากวาดมองหาบาร์เทนเดอร์ที่ชื่อแดเนียล
ฉันจะลองดูว่าหมอนี่จะทำให้ใจฉันเต้นตึกตักได้มั้ย เมื่อฉันมองเห็นเขาก็ปรี่เข้าไปหา หญิงสาวนั่งลงช้าๆ ราวกับว่ากำลังโปรยเสน่ห์ให้คนที่มองลุ่มหลง
และใช่เธอกำลังเป็นเป้าสายตาของทุกคู่ในบาร์แห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่บาร์เทนเดอร์สุดหล่อแบบเขา แดลเนียลที่เห็นเธอกำลังจะอ้าปากสั่งเครื่องดื่มก็ชิงตัดบทพูดขึ้นก่อน
"Gin Bombay ใช่มั้ยครับ" พูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“คุณจำได้ด้วยหรือคะ” ถามกลับไปด้วยความสงสัย
“จำได้สิครับ คุณสวยขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ต้องจำได้” เขาพูดพลางรินเหล้าแล้วเสิร์ฟมาให้ฉัน
ตึกตัก ตึกตัก
เฮ้ยยย ใจเต้นเฉยเลย ไอ้ตั้งโอ๋ นี่มันไม่ปกติแล้วไม่ปกติสักนิด
“คุณจ้องผมแบบนั้นผมรู้สึกเขินนะครับ”
ฉันเผลอจ้องเขาเพราะสมองกำลังทบทวนสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในตัวฉันอย่างครุ่นคิด เวลาได้รับคำชมฉัรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้เลยงั้นหรือ ที่ฉันไม่ตื่นเต้นกับอะไรเมื่อก่อนอาจเพราะว่าฉันแค่ไม่ได้ออกมาเจอโลกกว้าง ใช่สิ ฉันทำแต่งานจนลืมการใช้ชีวิต
“ขะ ขอโทษค่ะ” เริ่มหลบตาเอียงอาย ท่าทีหยิ่งยโสก็ปั้นออกมาไม่ทันแถมแก้มกำลังแดงระเรื่อ
“บอสของคุณไม่มาด้วยหรือครับวันนี้” เขาพูดพลางรินแก้วที่สองให้ฉัน
“ไม่ค่ะ จบงานแล้วต่างคนต่างพักผ่อน พรุ่งนี้ฉันจะบินกลับ เพราะงั้น…”
ฉันช้อนสายตามองผู้ชายร่างใหญ่ที่มีดวงตาคมกริบดุจน้ำแข็งแบบพยายามจะสื่อความหมายแล้วยกแก้วที่สองขึ้นกระดกจนหมด
“ผมเลิกงานตีหนึ่งครับถ้าคุณคิดว่ารอไหว…” พระเจ้าเขายิ้มร้ายกลับมาแต่ใบหน้าหล่อเหลานี้ทำเอาฉันเริ่มเคลิ้ม ถ้าเกิดว่าฉันจะเริ่มใช้ชีวิตจริงๆ แล้วอยากมองหาใครสักคนเป็นเพื่อนคุยก็อาจจะต้องเริ่มต้นจากเขา
“งั้น ฉันพักอยู่ที่…” ปากที่กำลังจะอ้าปากบอกเขาแต่ก็ถูกมือใหญ่ดึงรั้งตัวขึ้นก่อน เขากระชากแขนฉันแรงมากจนฉันเซ และน้ำเสียงแสนคุ้นหูถูกเค้นลอดไรฟันราวกับกำลังโกรธเกรี้ยว
“ไหนบอกว่าจะพักผ่อน ออกมาแรดแบบนี้นะหรอพักผ่อน”
“บอส มาได้ไง แล้ว…”
พูดยังไม่ทันจบเขาก็วางเงินค่าเหล้าไว้ที่บาร์แล้วกระชากแขนฉันออกมานอกบาร์อย่างรุนแรง
“นี่ ฉันเจ็บนะ ปล่อย คุณโมโหอะไรเนี่ย” ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของเขาให้ตายเถอะเขาแรงเยอะชะมัด
“ผมอุตส่าห์ให้คุณพักและไม่ไปกวนใจ ที่ไหนได้อยากออกมาร่านผู้ชายก็ไม่บอก นี่ถ้าอยากได้ขนาดนั้นผมทำให้ได้ตอนนี้เลยนะ”
พระเจ้าคำพูดคำจานั่นไม่อยากเชื่อว่าจะหลุดออกมาจากปากเขา ใจร้ายเกินไปแล้วนี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันมั้ย
เพี๊ยะ
ฝ่ามือเข้าไปประทับอยู่บนใบหน้าของคนตัวใหญ่จนเป็นรอยแดง
“คุณไม่มีสิทธิ์พูดจาร้ายกาจกับฉันแบบนี้นะคะ แล้วนี่ก็เรื่องส่วนตัวของฉัน คุณไม่ควรก้าวก่าย”
ฉันพยายามทำท่าทีใจเย็นถ้าไม่อย่างนั้นคงได้ทะเลาะกันใหญ่โตแน่ๆ เขาไม่เคยหัวเสียแบบนี้ปกติแล้วเขาสุขุมมาก ตอนนี้เหมือนเด็กเลย แถมยังเป็นเด็กที่พูดไม่รู้เรื่องอีก
หึ เขาปล่อยแขนฉันแล้วแค่นขำออกมาจากลำคอ ก่อนจะใช้มือหนาลูบไปที่ปากตัวเองด้านที่ถูกมือของฉันตบ
"มือหนักใช้ได้นี่ จะคอยดูซิว่าคืนนี้เธอจะทำยังไงตั้งโอ๋ ผมจะเอาคุณจนคุณต้องร้องขอชีวิตเลย"
“นี่…”
ฉันแผดเสียงเกรี้ยวกราดใส่หน้าเขา
“กลับกับผมเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่กลับผมจะจับคุณทำเมียกลางถนนนี่แหละ”
เขาพูดแค่นั้นแล้วลากแขนฉันขึ้นแท็กซี่กลับโรงแรม
