บท
ตั้งค่า

9 เธอน่าจะรู้ว่าฉันต้องการอะไร

หลังจากที่ปรเมศวร์พา พลอยนภัสไปเยี่ยมแม่อีกครั้งก่อนกลับไปทำงานพร้อมกับเขา ชายหนุ่มได้สัญญาว่ากับแม่ของเธอว่า จะพาพลอยนภัสมาเยี่ยมตอนช่วงที่ผ่าตัด ป้าของเธออยู่เฝ้าแม่ของพลอยนภัสตลอด ปรเมศวร์ได้ให้เงินกับคุณป้าเธอไว้ใช้จ่ายส่วนหนึ่ง

“ขอบคุณมากนะคะคุณเมศวร์” ป้าพรคุยเป็นกันเองกับปรเมศวร์ ชายหนุ่มก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“ยัยพลอยดูแล คุณเมศวร์เขาดี ๆ ล่ะ” ป้าพรกำชับหลานสาว หญิงสูงวัยมองดูที่หมายใหม่ของการเงินที่ดูดีกว่าเสียชัชมากมายแถมไม่เคี้ยวลากดินเหมือนอีกฝ่าย

เมื่อออกเดินทางถึงที่หมายก็เป็นเวลาเย็นพอดี ปรเมศวร์ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

“เราจะทานข้าวกันที่นี่หรือคะ” เธอถามปรเมศวร์ ขณะที่รถเลี้ยวเข้าไปในที่จอดรถส่วนตัวของโรงแรม

“ฉันจะให้เธอพักที่นี่ช่วงที่ฝึกงาน ฉันจองห้องชุดไว้แล้ว”

“อ๋อ..ขอบคุณค่ะ” เขาเพียงแต่ยิ้มให้เธอ มันเป็นรอยยิ้มของเขาที่เธอเคยชิน หญิงสาวมองดูมันใหญ่โตเกินฐานะถ้าเธอมาอยู่เองคงไม่มีเงินจ่ายค่าที่พักเป็นแน่

ขณะที่พวกเขาก้าวออกจากรถ พลอยนภัสก็รู้สึกเหมือนกับตัวเองได้หลุดไปยังโลกอนาคต มีสัญลักษณ์ของโรงแรมประดับอยู่ทั่วทุกหนแห่ง พนักงานโรงแรมในชุดฟอร์มรีบกรูกันมาต้อนรับปรเมศวร์และพลอยนภัส โดยส่วนตัวแล้ว เธอพบว่าที่นี่มีทุกครบทุกอย่างจริง ๆ พลอยนภัสเหลียวมองไปรอบ ๆ

“กระเป๋าของฉันล่ะคะ” ผู้จัดการโรงแรมเดินเข้ามาแล้วรีบเอ่ยกับพลอยนภัส

“อยู่ที่ห้องของคุณเรียบร้อยแล้วครับ คุณผู้หญิง”

ปรเมศวร์ขึ้นลิฟต์ของแขก VIP พร้อมกับเธอ โดยมีผู้จัดการโรงแรมและเด็กสาวที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงแรมติดตามไปด้วย ผู้จัดการโรงแรมบรรยายเรื่องโรงแรม อธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงภัตตาคารและห้องโถงที่ใหญ่โตด้วย โรงแรมนี้เป็นครอบครัวเขาเอง ไม่ต้องแปลกใจที่พนักงานทุกคนต้อนรับเป็นอย่างดี ก็เพราะผู้บริหารคือ ปรเมศวร์นั่นเอง

พลอยนภัสมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนชุดเป็นกระโปรงสั้นสีดำกับเสื้อผ้าไหมสีเทามุก และแปรงผมลวกๆ ก่อนที่จะถึงเวลานัด เธอเดินตามพนักงานโรงแรมกลับไปที่ลิฟต์ เพื่อลงไปชั้นล่าง จากนั้นก็ต่อลิฟต์อีกตัว ซึ่งตรงไปถึงภัตตาคาร ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมที่หรูหราแห่งนี้

พลอยนภัสเดินผ่านกลุ่มพนักงาน ที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอย่างออกรส หญิงสาวจับความได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะพูดเสียงดัง เธอรู้แต่ว่าเขาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องปรเมศวร์ เธอได้ยินชัดว่าทุกคนซุบซิบนินทาเรื่องของภรรยาปรเมศวร์ที่ชื่อ ‘นิรนาท’ พลอยนภัสอึ้งตัวแข็งทื่อ ราวกับถูกสาดด้วยน้ำแข็งถังใหญ่ ภรรยาของเขาคบชู้แล้วมีคลิปหลุดงั้นเหรอ ในหัวของเธอหมุนติ้ว ภรรยาเขาเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าจริง ๆ

“ปวดหัวหรือ” เสียงนุ่มๆ เบาๆ ขณะที่มีมือมาแตะข้อศอกของเธอ เมื่อพลอยนภัสเงยหน้าขึ้น ก็พบใบหน้าของปรเมศวร์ ขนตาดำหนาเป็นแพปกคลุมดวงตาสีเทาของชายหนุ่ม โหนกแก้มสูงแข็งแรงเช่นเดียวกับสันกราม

“นั่งรถนาน น่าจะเวียนหัวค่ะ แต่ได้อาบน้ำไปก็สดชื่นบ้างแล้วค่ะ” เธออ้าง แต่ไม่ได้กล้าบอกเขาว่าเธอรับรู้เรื่องอะไรมา ไม่แน่เขาอาจจะรู้อยู่ก่อนแล้วก็ได้ เธอไม่กล้าบอกเพราะบางทีหากเขารู้อยู่แล้วจะเป็นการไปตอกย้ำ

“ไปทานข้าวกัน พวกเขาตั้งโต๊ะรอเราแล้ว” ปรเมศวร์ทำมือบอกผู้จัดการโรงแรมว่าเขาพร้อมแล้ว ผู้จัดการก็พาคนทั้งสองไปยังโต๊ะที่ติดริมกระจก ซึ่งมองเห็นทุกทิศทั่วทั้งเมืองรวมถึงท้องฟ้าระยิบระยับในยามค่ำคืน ปรเมศวร์สั่งอาหารเรียกน้ำย่อยหลายอย่าง ก่อนที่จะถึงอาหารจานหลัก

“ลองดูจานนี้” ปรเมศวร์พูด เมื่ออาหารจานแรกมาถึง พลางผลักจานที่เต็มไปด้วยสเต๊กเนื้อปลาอย่างดี และขนมปังประเภทแป้งแบน ๆ มาให้เธอ

“ทานอะไรสักนิดเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย” พลอยนภัสกินอาหารเพียงสองสามคำ ปรเมศวร์มองเธอฝืนกินอาหาร และตอนนี้ก็เห็นว่าหญิงสาวได้แต่เขี่ยอาหารไปรอบ ๆ จานเท่านั้น

“เป็นอะไรไป ไม่หิวเหรอ”

“ฉันกลุ้มใจเรื่องน้องชายค่ะ” น้ำเสียงของเธอขาดหายไป แล้วเงยหน้าขึ้นมองปรเมศวร์ ก่อนที่จะส่ายหน้าน้อยๆ

“ฉันให้สัญญา รับรองน้องชายคุณจะได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน” ชายหนุ่มยิ้ม แต่ดวงตาคู่นั้นกลับแข็งกร้าวร้อนแรงและแหลมคม เขาจ้องเธอเขม็งทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับมีไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่าง

เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะน้ำเสียงหรือว่าคำพูดของเขา แต่พลอยนภัสรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมา และต้องระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง ปรเมศวร์ไม่เคยทำให้เธอต้องรู้สึกแบบนี้มาก่อน ทั้งกระวนกระวายและทำอะไรไม่ถูก...หญิงสาวเตือนตัวเองเงียบๆ

ขณะที่ยกเท้าขึ้นไขว่ห้างทำให้แตะหัวเข่าของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอรีบยกเท้าลง แต่ความร้อนกลับอาบเข้าร่างของเธอเสียแล้ว ความร้อนความเขินอายและเจ็บปวด

โต๊ะตัวนี้เล็กเกินไป ในห้องรับประทานอาหารนี้ก็มืดเกินไป และบรรยากาศภายในร้านก็เต็มไปด้วยความอึดอัดเกินไป โชคดีที่อาหารลำเลียงเข้ามาเรื่อย ๆ จานแล้วจานเล่า ชามแล้วชามเล่า พลอยนภัสคิดว่าอาหารจะช่วยดึงความสนใจของปรเมศวร์ไปได้

ตอนนี้เขากำลังตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารตรงหน้า นั่นจะทำให้เธอได้รวบรวมสมาธิอีกครั้ง แต่ปรเมศวร์กลับโยนอาการประสาทให้เธออีกครั้งด้วยคำสั่ง

“ฉันอยากให้เธอป้อน” เขาพูดอย่างจริงจัง

“มือคุณเป็นอะไรหรือคะ” หญิงสาวหน้าแดง ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งโทสะและการท้าทาย

“ไม่ได้เป็นอะไร แต่ว่าเธอต้องทำตามฉันบอกไง”

“พนักงานที่นี่จะเห็นและนำเรื่องไปบอกภรรยาคุณเอาได้นะคะ” หญิงสาวรีบเตือนสติเขา

“แต่เธอทำงานกับฉัน” เขาแทรกขึ้นเบาๆ

“...และตอนนี้ เธอก็ต้องทำเหมือนกับพนักงานของฉันคนหนึ่ง ที่จะต้องป้อนฉัน” เธอเชิดหน้าขึ้น แล้วจ้องเขาด้วยสายตาเดือดดาล พลอยนภัสคิดว่าชายหนุ่มสนุกกับเรื่องนี้ เขาสนุกกับการมีอำนาจเหนือเธอ ชายหนุ่มถอนหายใจ

“เธอก็น่าจะรู้ในสิ่งที่ฉันต้องการนี่น่า พลอยนภัส!!...” สายตาเจ้าเล่ห์ของผู้ชนะของเขามองมาอย่างผู้ชนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel