บท
ตั้งค่า

2 เจอกันอีกครั้ง

คฤหาสน์คฆาเทพ...ประมุขของบ้านกําลังนั่งถอนหายใจ กลัดกลุ้มไม่รู้จะหาวิธีไหนมาช่วยลูกชายเธอ สามีที่เคยเป็นคู่คิดก็ดันมาด่วนจากไปด้วยโรคมะเร็งร้าย นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปี แล้วหลังจากคลิปนรกหลุดออกมา ที่นี่คือประเทศไทย หลายคนต้องจําได้และเล็งเอาไว้แน่นอนว่าผู้หญิงในคลิปนั้นคือลูกสะใภ้เธอ สงสารก็แต่ลูกชายคนเดียวของตระกูลคฑาเทพ อย่างปรเมศวร์

“สวัสดีครับคุณแม่ ยังไม่นอนเหรอครับ” ปรเมศวร์ทักมารดาที่นั่งรออยู่

“ได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง เธอยอมที่จะหย่ากับลูกหรือเปล่า”

“เธอยืนกรานไม่ยอมหย่าท่าเดียวครับ”

เฮ่อ!.. เสียงถอนหายใจของผู้เป็นมารดาดังขึ้นก่อนจะพูดว่า

“อันที่จริงมันไม่ใช่แค่ลูกที่จะเสียหายหรอก แต่มันรวมไปถึงตระกูล เราทั้งสองฝ่ายและไหนจะยังธุรกิจของเราอีก เห็นมั้ยล่ะว่าผลเสียมันมากมายขนาดไหน ถ้าลูกจะหย่าจริง ๆ แม่จะคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ของมิ้นให้”

“ผมพยายามทำใจแล้วครับคุณแม่ แต่ผมกลับไปรักเธอไม่ได้อีกแล้วครับ”

“แม่ไม่โกรธเมศวร์หรอกลูก..ถ้าคุณพ่อยังอยู่ก็คงคิดเหมือนแม่นั่นแหละ ก็ใครจะไปคิดล่ะว่า เรียนจบตั้งเมืองนอกเมืองนา ลูกผู้ดีมีตระกูล ไม่น่าทำเช่นนี้ได้”

“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วหนูนา มีคนไปรับจากที่เรียนพิเศษหรือยังครับ”

“แม่ให้สมชายไปรับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวแม่จะไปดูว่าทำการบ้านแล้วก็อาบน้ำหรือยัง พักนี้หนูนาก็ติดเกมเหลือเกินไม่รู้จะห้ามยังไง”

“อย่าเพิ่งห้ามเลยครับแม่ หนูนาเพิ่งเรื่องเจอหนัก ๆ มา ตามใจแกไปก่อนครับ แล้วผมจะหาครูสอนพิเศษมาที่บ้านเรา” ก่อนหน้านี้สิริวิภาน้องสาวของปรเมศวร์ได้เสียชีวิตพร้อมกับสามีที่กำลังเดินทางไปสัมมนา ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งสองเสียชีวิตคาที่

พลอยนภัส พาณิชโชติการ เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เสื้อที่เคยเรียบกริ๊บของเธอยับเยินไปทั้งตัว เหงื่อของเธอเปียกโชกผมหนาที่ปรกอยู่ตรงต้นคอ ก่อนหน้านี้เธอเครื่องไปซ่อมเครื่องปริ้นมาจนเหนื่อยกว่าที่จะปริ้นเอกสารออกมาได้ เธอรีบเอามาให้อาจารย์ที่ปรึกษาดู ระหว่างที่เธอรออาจารย์ที่ปรึกษาอยู่นั้น เสียงฝีเท้าของผู้ที่เธอรอคอยก็ดังขึ้นมาใกล้เรื่อย ๆ ดร.ศิริกัญญาภาควิชาภาษาอังกฤษ ครูที่ปรึกษาของเธอเปิดประตูเข้ามา

“รอนานมั้ย พลอยนภัส พอดีครูมีแขก” หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นทันทีที่หญิงสาวเห็นปรเมวศร์ตามอาจารย์ที่ปรึกษามายืนอยู่หน้าห้อง หล่อนมองเขาด้วยอาการตกตะลึง...ใช่จริง ๆ ปรเมศวร์ หญิงสาวบีบมือตัวเอง เนื้อตัวเริ่มสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด เขามาที่นี่เพื่ออะไร? ไม่น่าเชื่อ...แต่เขาก็มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่ตรงประตูหน้าห้องเรียนของเธอ รูปร่างสูงสง่า เธอจ้องเขาเหมือนกับจะประทับภาพนั้นไว้ในใจ ขณะที่สารอะดรีนาลีนหลั่งออกมาอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกสะบัดร้อน สะบัดหนาว เครียดขึ้นมาในทันใด

“ดอกเตอร์ครับ ผมลืมให้นามบัตร โครงการวิจัยของดอกเตอร์ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ และถ้าต้องการเงินทุนทำวิจัยเพิ่มก็บอกมาได้นะครับ” ปรเมศวร์เอ่ยขึ้นพร้อมยื่นนามบัตรให้อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ

“พลอยนภัส อาจารย์ขอแนะนำให้รู้จักผู้สนับสนุนโครงการวิจัยของอาจารย์นะ”

“นี่!..คุณปรเมศวร์” พลอยนภัสครางชื่อเขาเบา ๆออกมาก่อนที่ครูจะแนะนำเสียอีก

“พลอยนภัส” ปรเมศวร์เรียกชื่อของเธอ พร้อมกับพยักหน้าน้อยๆ ชื่อของเธอหลุดออกจากปากของชายผู้นี้ เสียงที่เธอไม่ได้ยินมานาน

ครั้งสุดท้ายที่เธอพบกับเขา เธอยังเด็กกว่านี้ เธอเป็นเด็กสาวที่เข้ามามาเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำจังหวัด ตอนนั้นเขาเป็นผู้ไปมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนและเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาดูต่างไปจากที่เธอได้เห็นในครั้งสุดท้าย แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน นั่นเพราะดวงตาที่คมจัดเหมือนเหยี่ยวตั้งอยู่บนกรามที่แข็งแกร่งกับผมสีดำขลับที่เป็นประกาย ครูที่ปรึกษาของเธอมองคนทั้งสองสลับไปมาด้วยสีหน้าที่งุนงง

“คุณสองคนนี่!!!รู้จักกันด้วยเหรอ?” ไม่ใช่แค่รู้จัก...แต่เธอเคยเป็นของเขา ทั้งสองเคยอยู่ด้วยกันในความสัมพันธ์ที่แนบแน่น แต่ลงท้ายด้วยการพลัดพราก ซึ่งนั่นได้ฉีกหัวใจของเธอออกเป็นชิ้นๆ ความรักเริ่มต้นสมัยมัธยมปลาย และจบลงด้วยตอนเปิดเทอมใหญ่ของ ม.6 เทอมสุดท้าย และปีนั้นเองเธอก็เข้าเรียนมหาลัยที่นี่ เธอจำได้ดี

“รู้จักกันตอนเรียนมัธยมปลายค่ะ” หญิงสาวตะกุกตะกัก แก้มร้อนจัดขณะที่พยายามหลบตาของอีกฝ่าย ทว่าไม่สำเร็จ สายตาของชายหนุ่มจ้องเธอเขม็ง มุมปากเผยอขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับจะท้าทายเธอ เมื่อทั้งคู่พบกันนั้น เขาเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงินที่ประสบความสำเร็จจึงมามอบทุนและเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการสร้างความสำเร็จในชีวิต เมื่อเขาแต่งงานเธอจึงเป็นฝ่ายบอกเลิกเขา หญิงสาวเดินออกมาจากชีวิตของเขา ตอนนั้นเธอเรียนจบ ม.6 พอดี พร้อมกับบอกตัวเองว่าเธอจะไม่มีวันหวนกลับไปหาเขาอีกแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะลืมเขาหรอกนะ

ในที่สุดเธอก็ได้พบเขาอีกครั้ง เขามาที่นี่เพื่ออะไรกัน...ปรเมศวร์คงจะไม่มาหาเธอที่นี่หรอก ถ้าหากว่าเขาไม่มีเหตุผลที่ดีพอ

“พอดีเขาเคยมาบรรยายที่โรงเรียนค่ะ” เธอพยายามโกหกให้แนบเนียน แค่ผู้บรรยายทำไม่รู้จักกันเหมือนคนสนิท ฝ่ายนั้นก็ไม่น่ารู้จัก นักเรียนมีตั้งเป็นร้อยเป็นพัน ทำไมเหมือนจำกันได้ขนาดนั้น ถ้าไม่รู้จักกันในทางอื่นมาก่อน เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ อาจารย์คิดตามเพลิน ๆ ทว่าน้ำเสียงนั้นแหบพร่าและสั่นเทาด้วยความพยายามที่จะซ่อนความแปลกใจในน้ำเสียงที่ตื่นเต้นไว้ เขาเป็นแฟนที่ดีที่สุดในชีวิต ที่ต้องแยกจากกันทั้งที่กำลังรักกันมาก และความรู้สึกนี้เปลี่ยนแปลงเธอตลอดกาล แม้ว่าจะผ่านไปเกือบสี่ปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยลืมช่วงเวลาที่ได้คบกัน

“โอ้ โลกช่างกลมอะไรอย่างนี้” อาจาร์ที่ปรึกษาอุทาน พลางมองทั้งคู่สลับกันไปมา

“จริงด้วยสิครับ” ปรเมศวร์ตอบ พร้อมกับค้อมศีรษะของเขาลงเล็กน้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel