บท
ตั้งค่า

2

ชัชออกไปทำงานแล้ว มยุรินจึงได้มีเวลาพักผ่อน ช่วงเวลาที่เขาออกไปทำงานคือช่วงเวลานอนของเธอพอดิบพอดี

ที่นอนอุ่น ๆ ทำให้มยุรินหลับลงอย่างง่ายดาย เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะโดนปลุกตอนใกล้รุ่ง

วันนี้ชัชกลับมาตอนตีสี่ เธอเหลือบไปมองนาฬิกาที่ผนังห้อง เมื่อรู้สึกตัวว่าโดนลามเลียตรงร่องสาว

“อื้อ...” เธอกัดปาก หลุดเสียงครางบางเบาออกมา รับรู้ได้ถึงการรุกรานที่แสนเสียวซ่าน ลมหายใจฟืดฟาดของเขาบ่งบอกได้ถึงความปรารถนาที่คุกรุ่นรุนแรง

“ตื่นแล้วเหรอ ดูดให้หน่อยสิ” เขาทิ้งตัวลงไปนอนเคียงข้าง หลังจากจัดการปลดกางเกงออกไปจากสะโพกเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขยับไปหาเขาอย่างรู้งาน จัดการทั้งรูดทั้งดูดให้เขาจนได้ยินเสียงแหบพร่าดังออกมาจากริมฝีปากหยักหนา

“พอแล้ว ขึ้นมาขย่มเร็ว ๆ ฉันไม่ไหวแล้ว” มยุรินปีนขึ้นไปบนตัวของเขาก่อนที่จะคร่อมทับแล้วประคองแก่นกายของเขาสอดเสียบเข้าไปในร่องสวาทจนมิดเม้น

“อ๊า...” เธอได้ยินเสียงครางของเขาดังขึ้นเมื่อกดสะโพกผายลงไปหาจนหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

อุ้งมือใหญ่จับสะโพกผายของเด็กสาวเอาไว้ก่อนที่ชัชจะกระแทกขึ้นไปหา เพียงไม่นานร่างน้อยก็สั่นคลอน เธอกดมือกับหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบทรักแสนเร่าร้อนของชัช

เธอเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจ หากยังอยู่ด้วยกันเธอก็อยากที่จะเก็บความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ดูแลกันและกันให้ดีที่สุดเอาไว้แบบนี้ หากวันใดเขาเอ่ยปากขับไสไล่ส่งเธอออกไปจากชีวิต วันนั้นเธอก็คงไม่มีโอกาสได้แนบชิดและดูแลเขาแบบนี้อีก

ร่างกายของเธอเร่าร้อนและเสร็จสมอย่างรุนแรง เธอหวีดร้องสุดเสียง ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อเขาจับเธอพลิกลงด้านล่างก่อนที่จะกดแทรกคร่อมทับและจัดหนักอีกครั้ง

มยุรินตื่นเช้าในขณะที่ชัชนอนหลับต่อ เธอตื่นมาทำงานบ้านและเตรียมอาหารให้เขา หวังว่าวันนี้เขาจะกินอาหารของเธอบ้าง

“คุณชัชจะไปแล้วเหรอคะ” เธอทำงานบ้านหัวหมุน พบว่าเขาลุกจากเตียงมาอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมออกไปข้างนอก

“ใช่”

“กินอะไรสักหน่อยไหมคะ หนูเตรียมเอาไว้ให้”

“ฉันจะออกไปกินข้างนอก เธอกินไปคนเดียวแล้วกัน” เขาตอบเสียงราบเรียบ เวลาอยู่บนเตียงเขาเร่าร้อน แต่พอเวลาปกติเขาช่างเย็นชาอย่างเหลือร้าย

มยุรินไม่กล้าเซ้าซี้เพราะรู้ถึงความร้ายกาจของเขา ขืนเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจอาจจะโดนจัดการแหลกคามือเลยก็เป็นได้

เธอเคยเห็นเขาโมโหสั่งคนกระทืบลูกน้องที่ทำผิดกฎมาแล้ว เธอไม่ควรเสี่ยงจะดีที่สุด

มยุรินแอบมองชัชเงียบ ๆ เก็บความรู้สึกแอบรักเอาไว้ในใจอย่างมิดชิด เขาดูดีเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า อาจจะขี้หงุดหงิด โมโหไปบ้าง ปากร้ายไปบ้างแต่รวม ๆ แล้วเธอก็รักเขา รักคนร้าย ๆ แบบเขานี่แหละ

ชัชออกไปจากห้องแล้ว เธอก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหงา ๆ ชีวิตของเธอเงียบเหงา หรือจะพูดให้ถูกก็คือชีวิตของเธอมีแค่ชัช ทำงานบ้านและรอเขากลับมา การได้เห็นหน้าเขาทำให้เธอมีความสุข แต่พอเขาออกไปทำงาน เธอก็ไม่รู้จะทำอะไรนอกจากนั่งอ่านหนังสือเพราะงานบ้านเสร็จหมดแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า

เสียงกริ่งหน้าห้องพัก ทำให้เธอไปเปิดประตู เธอคิดว่าชัชลืมของแต่ปรากฏว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

เธอสวยมากและทันทีที่ได้ประจันหน้ากันมยุรินก็จำได้ว่าหล่อนคือใคร

“คงไม่ต้องแนะนำนะว่าฉันเป็นใคร” ปานวาดมองมยุรินตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวแล้วไขว้ห้าง

“คุณชัชไม่อยู่ค่ะ” มยุรินสูดลมหายใจเขาปอดแรง ๆ ลึก ๆ ก่อนจะพูดออกไป

“ฉันรู้แล้วว่าเขาไม่อยู่เลยมาหาเธอไง แขกมา ไม่คิดจะเอาน้ำมาต้อนรับแขกหน่อยเหรอ” ปานวาดเอ่ยเสียงเข้มข่มขวัญ

“ค่ะ” มยุรินรีบไปนำน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟให้คู่หมั้นคนสวยของชัชในทันที เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลยเมื่อต้องสบประสานสายตากับตัวจริงของเขา

“เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับเขา” ปานวาดเอ่ยถามตรงประเด็น

“ค่ะ”

“รู้แล้วก็ยังจะเป็นเมียเก็บในบ้านของเขาแบบนี้ไปตลอดอย่างนั้นเหรอ” ปานวาดรุกต้อน เพราะไม่เคยเห็นชัชเก็บผู้หญิงคนไหนเอาไว้ใกล้ตัวแถมยังอยู่ในเพนเฮ้าส์ฯ สุดหรูส่วนตัวแบบนี้มาก่อน ใจของหล่อนจึงรุมร้อนราวไฟแผดเผา จึงต้องมาให้เห็นกันจะ ๆ คา ๆ ตาว่านังเมียเก็บนั่นมันเด็ดแค่ไหน

คู่หมั้นของเธอกินแล้วเขี่ยทิ้ง แค่ขึ้นเตียงไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงก็พร้อมตีจาก แต่เด็กสาวตรงหน้ามันช่างจืดชืด แต่งตัวเชยแสนเชย ธรรมดาเหลือเกิน ทั้งเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นยิ่งกว่าเด็กกะโปโลเสียอีก แต่เขากลับเอาไว้ใกล้ตัว

“อายุเท่าไหร่” ปานวาดขมวดคิ้วเข้าหากัน หรือว่าชัชเปลี่ยนรสนิยมไปชอบเด็ก เธอประเมินจากสายตาแล้วคนตรงหน้าไม่น่าอายุเกินสิบห้าเสียด้วยซ้ำ

“สิบแปดค่ะ” ประโยคของคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาทำให้ปานวาดต้องขมวดคิ้วเข้าหากันคล้ายไม่เชื่อถือ

“สิบแปดอย่างนั้นเหรอ” คนพูดทวนประโยคของเด็กสาว กวาดสายตามองผมสั้นเพียงแค่ติ่งหูแล้วถอนใจพรืด การกระทำของปานวาดทำให้มยุรินรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก

“ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่ง ออกไปจากชีวิตของพี่ชัชซะ ฉันกำลังจะแต่งงานกับเขา เธอคงเข้าใจใช่ไหมว่าฉันไม่อยากให้เขามีเมียเก็บเอาไว้ในบ้านหลังจากเราแต่งงานกัน” ปานวาดเข้าเรื่อง มองเด็กสาวตรงหน้าอย่างประเมิน

“หนูไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไม” เสียงเข้มเอ่ยถาม คิ้วขมวดเข้าหากันเหมือนไม่สบอารมณ์

“หนูเป็นหนี้คุณชัชค่ะ ถ้าหนีไปต้องโดนเอาตายแน่ ๆ เลย”

“หนี้อะไร”

“พี่สาวของหนูขโมยเงินกับเครื่องเพชรคุณชัชแล้วหนีไปค่ะ คุณชัชโกรธมากแทบฆ่าให้ตาย หนูเลยต้องชดใช้หนี้ก้อนนั้นแทน”

“ก็ฉันจะใช้หนี้ให้เธอไง ให้เธอออกไปจากชีวิตของพี่ชัช”

“เป็นสิบล้านเลยนะคะ คุณจะใช้หนี้ให้หนูจริง ๆ น่ะเหรอคะ”

“สิบล้านอย่างนั้นเหรอ” ปานวาดคิดว่าเป็นเงินแค่เล็กน้อย แต่ที่ไหนได้

“ใช่ค่ะ ถึงหนูเอาเงินคุณมาจริง ๆ ถ้าคุณจะจ่ายให้น่ะค่ะ หนูก็ต้องเป็นหนี้บุญคุณคุณอีก ชดใช้ยังไงก็ไม่หมด”

“สรุปว่าเธอจะหน้าด้านเป็นเมียเก็บของเขาไปแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานอย่างนั้น”

“หนูไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ ค่ะ ถ้าหนูหนีไปเสี่ยต้องฆ่าหนูแน่ ๆ เลย”

“ฉันมีข้อเสนอที่จะทำให้เธอหนีไปโดยที่เขาตามหาไม่เจอ เธอสนใจไหมล่ะ”

“หนูไม่มีที่ไป ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน จะหนีไปไหนได้คะ”

“ไปทำงานกับครอบครัวของฉันทางใต้ไหม รับรองว่าพี่ชัชต้องหาเธอไม่เจอแน่ ๆ ถือว่าฉันขอร้องก็แล้วกัน ฉันไม่อยากเห็นเขามีเมียเก็บอยู่ในบ้าน เพราะเรากำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เธอเป็นผู้หญิงด้วยกันคงจะเห็นใจหัวอกของผู้หญิงด้วยกันใช่ไหม” ปานวาดกวาดสายตามองมยุรินตั้งแต่หัวจรดเท้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel