Chapter 1
Chapter 1
แดเมี่ยนมองทะเบียนสมรสมในมือแบบงงๆ ปนไม่เข้าใจตัวเองว่า ตนมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ต้องยอมทำตามสาวร่างเล็ก หน้าตาไม่จัดว่าสวยมาก แต่มีรอยยิ้มที่เห็นแล้ว ชวนหลงใหล ทั้งที่นิสัยเขา ไม่ยอมใครง่ายๆ ยิ่งทำในเรื่องไม่เต็มหรือไม่อยากทำด้วยแล้ว อย่าหวังเลยว่า คนอย่างแดเมี่ยน โจวาสซี่ เดอมาร์ซีจะทำ เขาค้านหัวชนฝา ไม่ยอมท่าเดียว
ทว่าเรื่องนี้กลับทำ...
ต่างกับอีกคน ที่ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มไว้หนักมาก มองเอกสารสำคัญในมือแล้วใจเต้นแรง ใครจะคิดว่า คนอย่างกัญญามาศ หญิงสาวบ้านจน แถมความสวยมักไม่เข้าตาใคร กลับได้เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของมาเฟียหนุ่ม ลูกครึ่งอิตาเลี่ยน - ไทย ขวัญใจสาวมาหน้าหลายตาทั้งในและประเทศอิตาลี
หล่อนชนะ...
“ต่อไปนี้ฉันกับคุณก็เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายกันแล้วนะคะ เราจะได้ลุยกันได้เต็มที่ซะที”
กัญญามาศพูดกับสามีตามนิตินัยหมาดๆ
“คุณอย่าลืมข้อตกลงของเรานะ เราเป็นแค่ผัวเมียในนามเท่านั้น งานเสร็จเมื่อไหร่ หย่าเมื่อนั้น” แดเมี่ยนทวนข้อตกลง
“ค่ะ ฉันไม่ลืมแน่นอน คุณก็อย่าลืมเองก็แล้วกัน”
ไม่รู้เหตุใด กัญญามาศถึงได้เอ่ยประโยคนี้ แต่เมื่อพูดไปแล้วก็แก้ไขไม่ได้
“ผมไม่มีวันลืมหรอก อยากให้ถึงวันนั้นใจแทบขาด เพราะผมอยากจดทะเบียนสมรสกับเมียที่ผมรักมากกว่า ไม่ใช่เมียจำเป็นอย่างคุณ” เจอตอกกลับมาเช่นนี้ กัญญามาศถึงอึ้งไป แต่ก็คิดว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาเอ่ยประโยคนี้ออกมา เพราะการเป็นสามีภรรยาของเขาและหล่อน คือความจำเป็น
คนในห้องนั่งเล่น มีสีหน้าเดียวกันคือ ตกใจ บางคนถึงกับเอามือทาบอก อ้าปากค้าง หัวใจเต้นแรง ไม่คิดไม่ฝันว่า คุณหญิงราตรี โรจน์ชนาพันธ์ สตรีสูงวัยอายุแปดสิบเก้าปี ที่จากโลกนี้ไปเมื่อครึ่งเดือนก่อน จะระบุพินัยกรรมเช่นนี้ ใครได้ฟังย่อมตกใจกันทุกคน
โดยเฉพาะคนที่ได้รับมรดกมากกว่าทุกคนในห้องนี้ ตกใจเพิ่มทวี ตกอยู่ในอาการช็อค ที่อยู่ๆ ได้รับมรดกรวมทั้งสิ้นเกือบสี่ร้อยล้านบาท ยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเสียอีก ไม่คิดไม่ฝันก็ว่าได้ ไม่แปลกที่ทุกสายตาจะมองมายังกัญญามาศ ด้วยความเกลียดชัง
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ที่คุณแม่จะยกสมบัติให้ลูกของนันท์ ที่พวกเราแทบไม่รู้จักมันเลย ไหนจะยกให้กันยาอีก มันเป็นคนนอกแท้ๆ แต่กลับได้มรดกมากกว่าพวกเราหลายสิบเท่า ร่วมสี่พันล้าน ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ ถ้าไม่คิดว่า คุณแม่แก่จนเลอะเลือนก็อดคิดไม่ได้ว่า คุณแม่ถูกบังคับให้เขียนพินัยกกรมแบบนี้”
สิวินีลูกสาวของคุณหญิงราตรี เจ้าของมรดกหมื่นล้าน พูดขึ้นเป็นคนแรก หลังจากทนายธนบุญ ทนายประจำตระกูลโรจน์ชนาพันธ์ อ่านพินัยกรรมของราตรีเสร็จ
“ใช่ เป็นไปไม่ได้ที่คุณแม่จะยกสมบัติให้ผมกับพี่หนึ่งแค่นี้ มันแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินของคุณแม่ แต่กลับยกส่วนที่เหลือให้คนนอกครอบครัว ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ยังไงก็ไม่เชื่อ”
ภาคภูมิโวยเป็นคนที่สอง ความตกใจกลบความดีใจในคราแรกที่เข้ามาในห้องนั่งเล่น จากที่คิดว่า ควรได้คนละครึ่งกับสิวินี เพราะเหลือเขากับพี่สาวเป็นทายาทตรง ทว่าผลออกมาในทิศทางตรงกันข้าม ชนิดที่ว่า เหนือความคาดหมาย
“ผมขอยืนยันในฐานะทนายความ ที่ทำงานกับคุณหญิงมาสามสิบกว่าปีว่า พินัยกรรมฉบับนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง ตอนคุณหญิงให้ผมร่าง สติท่านครบถ้วนบริบูรณ์ครับ พยานที่เซ็นพวกคุณก็รู้จักดี ต้องให้ผมตามท่านนายพลมายืนยันไหมครับ” ธนบุญคิดไว้แล้วว่า ทั้งสองต้องค้าน และโต้แย้ง “อีกอย่างนะครับ คุณแดเมี่ยน เป็นลูกชายคุณชุตินันท์ ที่แม้ว่าเสียชีวิตไปยี่สิบปีแล้ว ก็ถือว่าเป็นทายาทคุณหญิง ย่อมมีสิทธิ์ในมรดกครับ ในส่วนของกันยา แม้ไม่ใช่คนในตระกูล ไม่มีส่วนเชื่อมโยงทางสายเลือด แต่ถ้าคุณหญิงเต็มใจมอบทรัพย์สินให้ ใครก็แย้งไม่ได้นะครับ นอกจากคุณสองคนจะไปฟ้องศาล ถ้าคุณคิดทำจริง คงยากครับ เพราะพินัยกรรมระบุชัดเจนว่า ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะไม่ได้รับอะไรจากคุณหญิงสักอย่าง แม้แต่เงินปันผลที่ได้รับในทุกครึ่งปี”
คุณหญิงราตรี โรจน์ชนาพันธ์ รู้นิสัยลูกสาวคนโตและลูกชายคนเล็กดีว่าเป็นอย่างไร นางดักทางทั้งสองไว้เสร็จสรรพ ด้วยการทิ้งท้ายพินัยกรรมไว้ว่า หากลูกทั้งสองคนฟ้องร้องแดเมี่ยนหรือกัญญามาศ ทั้งสองจะไม่ได้รับทรัพย์สินใดเลยจากตน สักอย่างเดียว
ความไม่พอใจแสดงออกทางสีหน้าสิวินีกับภาคภูมิทันที สองพี่น้องมั่นใจมากว่า มารดาจะแบ่งทรัพย์สินให้คนละครึ่งเท่ากัน พอออกมาในรูปนี้ ใครบ้างกลั้นอารมณ์ไหว มีแต่อยากระเบิดออกไปมากกว่า ยังมีความโกรธแค้นกัญญา-มาศเพิ่มหลายเท่าตัว หันไปมองคนที่ได้สมบัติมากกว่าตนเขม็ง อยากฉีกร่างออกให้เป็นชิ้นๆ คนถูกมองทำตัวลีบทันที
“คุณพ่อกับคุณป้าอย่าเพิ่งกลัวว่าจะไม่ได้สมบัติ เพราะวดีคิดว่า สมบัติในส่วนของกันยา คุณพ่อกับคุณป้าต้องได้อยู่แล้วค่ะ” ดาราวดีหรือวดี ลูกสาวภาคภูมิเอ่ยขึ้น คนเป็นพ่อและป้าหันมองคนพูดเป็นตาเดียว
“ยังไงวดี” ภาคภูมิถามกลับ
“ก็คุณยายระบุไว้ในพินัยกรรมนี่คะว่า ถ้าแดเมี่ยนกับกันยาไม่ได้แต่งงานกันภายในหนึ่งเดือน หลังจากเปิดพินัยกรรม สมบัติในส่วนของมันสองคนก็จะเป็นของคุณพ่อกับคุณป้า เอาไปแบ่งครึ่งกัน ซึ่งวดีเชื่อค่ะว่า เรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ” สองผู้ใหญ่คงมัวแต่โกรธจนลมออกหู เลยนึกถึงข้อนี้
