ตอนที่ 11 กระท่อมไม่ร้างรัก /1
ตอนที่ 11 กระท่อมไม่ร้างรัก
ฟ้ามืดไร้ดาวเจิดจรัส มีเพียงเม็ดฝนพรำลงมาไม่ขาดสาย อีกทั้งสายฟ้าฟาดยังกระหน่ำลงมาจนสว่างวูบวาบ ส่องให้เห็นร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คปลดกระดุมลงมาสามเม็ด อวดความกำยำของอกกว้างให้สายฝนได้ชื่นชม
สิงหนาทเท้ามือทั้งสองข้างบนวงกบหน้าต่างพับแบบที่มีอยู่ตามกระท่อมทั่วไป ดวงตาคมมองสายฝนที่ตกได้ตกดีและไม่รู้ว่าจะหยุดตกเมื่อไหร่ ก่อนจะหันไปมองร่างระหงที่มีเสื้อสูทของเขาคลุมไหล่ท่ามกลางแสงเทียนเพียงเล่มเดียวที่ถูกจุดขึ้นให้ความสว่าง หงส์นรีนั่งซุกอยู่มุมกระท่อมตัวสั่นงันงก เพราะอากาศที่หนาวเย็นและความกลัวฟ้าผ่า ผมที่ก้าวเป็นหางม้ายกขึ้นสูงเปียกลู่แนบไปกับศีรษะ ดวงตากลมโตฉายแววหวาดผวาอยู่ทุกขณะ ในบางครั้งก็หลับตาปิดกั้นความกลัวจากทุกสิ่ง
“หนาวเหรอ หรือกลัว”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ก่อนทรุดตัวลงนั่งเคียงบนแคร่ มือหนากุมมือนุ่มที่เย็นเฉียบและบีบเบาๆ
“ทะ...ทั้งสองอย่างค่ะ”
เสียงหวานตอบตะกุกตะกักเพราะร่างกายที่สั่นยะเยือก จนได้ยินเสียงฟันกระทบกันดัง “กึก”
“นั่งอยู่แบบนั้นจะหายหนาวมั้ย เขยิบเข้ามาใกล้พี่ดีกว่า”
“มะ....ไม่เป็นไรค่ะ หงส์ทนได้”
“เค้ามีแต่สีทนได้ แต่นี่หงส์ทนได้เหรอ หึ หึ...”
หงส์นรีเพิ่งเคยเห็นเขาหัวเราะเป็นครั้งแรกแถมยังยิ้มให้อีก ยิ้มทั้งปากและตาทีเดียว ดูแล้วโลกทั้งใบสว่างขึ้นเป็นกอง
“มองอะไร”
สิงหนาทเห็นหญิงสาวมองเขาหัวเราะ ก็ตีหน้าขรึมเช่นเดิม ทำเอาหงส์นรีถึงกับเซ็งเลยทีเดียว โลกที่สว่างไสวเมื่อครู่กลับมามืดมิดอีกครั้งแล้ว
“มองพี่สิงห์หัวเราะน่ะสิคะ หงส์เพิ่งเคยเห็นพี่สิงห์หัวเราะและยิ้มแบบมีความสุขอย่างนี้มาก่อน”
“ทำไม พี่ก็หัวเราะเป็นหรอกนะ”
“นั่นสิคะ หงส์ถึงได้มองไง พี่สิงห์รู้มั้ยคะ ว่าพี่สิงห์เป็นคนที่ยิ้มสวยมาก”
“รู้ ถึงไม่ยิ้มไง”
“ทำไมคะ อ๋อ...สงสัยเพราะรอยยิ้มนี่เอง ผู้หญิงถึงได้เข้าคิวหลงรัก”
ชายหนุ่มเห็นหน้าตูมของคนตัวสั่นก็กลั้นยิ้มแทบไม่ไหว นี่อย่าบอกนะว่าหญิงสาวก็เป็นหนึ่งในนั้น
“หงส์รู้ได้ไงว่ามีสาวๆ ต่อคิวรักพี่ยาวเหยียด เอ...หรือว่าหงส์สืบประวัติพี่มาก่อน”
“เอ่อ...พี่สิงห์จะโกรธมั้ยคะ ถ้าหงส์บอกว่า...ใช่”
เธอตอบไปตามความจริง เพราะไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปฏิเสธเขา ถ้าปฏิเสธก็เท่ากับโกหกอีก
“ถ้าเป็นเวลาอื่นคงโกรธ แต่เวลานี้...พี่ยกผลประโยชน์ให้หงส์แล้วกัน”
“อ้าว...ทำไมคะ อยู่ๆ จะมาทำใจดีใส่หงส์ ชิ...ทุกทีเห็นมีแต่แยกเขี้ยวใส่”
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” คราวนี้เรียกเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น “พี่ไม่ใช่ยักษ์นะ จะได้แยกเขี้ยวใส่”
“ไม่รู้สิคะ ก็ทุกทีหงส์เห็นแบบนั้นนี่นา หงส์ถึงได้มองพี่สิงห์แปลกๆ ไง”
สิงหนาทเขยิบกายเข้าไปจนชิด และดึงร่างระหงมากอด เนื้อตัวของหงส์นรีเย็นเฉียบปากซีดตัวสั่น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังหญิงสาวคงจับไข้แน่
“บอกแล้วไง เวลานี้พี่จะสงบศึกพักรบก่อน”
ไออุ่นจากคนตัวหนาทำให้หงส์นรีซุกซบหาความอบอุ่น ตัวของเขาอุ่นดีจัง แถมยังมีกลิ่นอาร์ฟเตอร์เชฟ ไม่รู้เป็นไรพอเธอได้กลิ่นน้ำยาโกนหนวดจากกายหนาแล้ว ฮอร์โมนในร่างกายบางชนิดพุ่งขึ้นจนร้อนวูบวาบไปหมด เธอเงยหน้ามองปลายคางบึกบึนและโผตัวขึ้นจูบอย่างอดไม่ได้
“บรรยากาศเป็นใจให้นึกอยากจูบพี่ขึ้นมารึไง”สิงหนาทกระเซ้ายิ้มๆ
“ขอบคุณนะคะ ที่ยอมสงบศึกกับหงส์”
“แต่เฉพาะที่นี่ เวลานี้เท่านั้นนะ ขอบอกไว้ซะก่อน”
สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องทำให้ได้ในเวลาหนึ่งปี ทำให้เสียงทุ้มนั้นแข็งกระด้างขึ้น ถึงจะยอมสงบศึกแต่สาเหตุที่ทำให้ต้องแต่งงานกันและความโกรธจากการถูกหลอกลวงนั้นไม่จางหายไปจากใจ แต่เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับหงส์นรี แค่เขายอมทำดีพูดดีกับเธอบ้าง แค่วันสองวันที่ได้อยู่ร่วมกันทำดีต่อกัน เธอก็พอใจแล้ว
“ความจริงพี่สิงห์ก็อายุมาก สมควรจะแต่งงานแล้ว แต่ทำไมยังไม่คิดแต่งงานอีก จนกระทั่งมาเจอหงส์ล่ะคะ”
“ก็เพราะยังไม่เจอคนที่คิดว่าใช่มั้ง ผู้หญิงเหมือนกันทั้งโลกรึเปล่านะ เห็นเงินเป็นพระเจ้า ทำทุกอย่างเพื่อเงิน”
“ไม่หรอกค่ะ ผู้หญิงดีๆ มีเยอะแยะ แต่เพราะพี่สิงห์มีทุกอย่างไงคะ สาวๆ ก็เลยอยากได้ อยากเกาะ อยากมีความสุขกับพี่สิงห์”
“เหรอ คงจะจริงมั้ง”
หงส์นรีไม่ตอบได้แต่อมยิ้ม เธอนิ่งเงียบไปนานจนเขาคิดว่าหลับ หากแต่หลังจากที่หญิงสาวปล่อยเวลาให้ผ่านไปเงียบๆ อยู่นาน มือบางก็ลูบอกกว้าง เธอแทรกฝ่ามือเข้าไปคลึงตุ่มเล็กๆ สีเข้ม เรียกเสียงครางฮือออกมาจากเรียวปากหนา
“ไม่หนาวแล้วเหรอ”
“หนาวค่ะ ถึงได้อยากให้ร่างกายอุ่นมากกว่านี้ไงคะ”
สิงหนาทปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกหมดและถอดออก เปิดทางให้มือน้อยได้ลูบคลำเต็มที่ หญิงสาวปลุกเร้าอวัยวะทุกส่วนด้วยมือบางที่นวดคลึงตั้งแต่ลำคอหนา อกกว้างแข็งๆ จนถึงหน้าท้องซึ่งมีกล้ามเนื้อซิกแพ็คสวย ชายหนุ่มประคองท้ายทอยของหญิงสาวบังคับให้เธอเงยหน้ารับจูบที่ทาบลงมา เรียวปากหนาบดคลึงเบาๆ ในตอนแรก ปลุกให้เลือดในกายสาวร้อนระอุก่อนเติมเชื้อเพลิงให้เดือดพล่าน ด้วยปลายลิ้นสากที่สอดเข้าไปเกี่ยวพันลิ้นนุ่ม ปลายลิ้นสากร้อนดูดรัดหยอกเย้าลิ้นนุ่มหนักหน่วง ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างบางร้อนรน หากยังทำให้หัวสมองของเธอหมุนเป็นลูกข่าง
เสียงครางเบาๆ เปล่งออกมาจากเรียวปากนุ่ม เมื่อสิงหนาทถอนริมฝีปากออกให้เธอได้หายใจ ก่อนกดจูบหนักหน่วงลงไปอีกครั้ง
“ถอดนะ หนาวเนื้อต้องห่มเนื้อถึงจะหายหนาว”
ชายหนุ่มบอกชิดเรียวปากนุ่ม ยื่นปากจูบแผ่วเบาๆ ยั่วยวนให้ริมฝีปากอิ่มเป็นฝ่ายรุกไล่บ้าง มือหนาเหวี่ยงเสื้อสูทลงไปกองกับพื้น และปลดชุดสวยออกไปจากร่างงามอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าร่างระหงก็แทบจะเปลือยเปล่าหากไร้ผ้าชิ้นน้อยสีขาวสะอาดปกปิดส่วนสำคัญทั้งบนและล่าง
ร่างบางถูกพลิกไปอีกด้านก่อนที่ร่างหนาจะทาบทับ เรียวปากทั้งคู่ยังคงแลกจูบกันอย่างดูดดื่มราวกับถ้าแยกออกแล้วจะหมดลมหายใจ หญิงสาวหอบหายใจไอเย็นของอากาศทำปฏิกิริยากับความอุ่นของลมหายใจที่ส่งออกมาจากเรียวปากนุ่มเป็นควันก่อนจางหายไป
“ถอดสิคะ”
หงส์นรีบอกให้สิงหนาทถอดกางเกงที่เขายังสวมอยู่ออก แต่ชายหนุ่มกลับคุกเข่าคร่อมร่างระหงแล้วจับมือบางมาวางบนเข็มขัดหนังยี่ห้อดัง
“ถอดให้หน่อยสิยาหยี”
แหม...นอกจากจะสงบศึกกับเธอแล้วยังทำปากหวานอีก แบบนี้มันน่าให้รางวัลชะมัด
หงส์นรีปลดเข็มขัดออกและปลดกระดุมกางเกงพร้อมรูดซิปลงจนสุดสาย ก่อนจะรั้งเอวกางเกงสแล็คลงโดยได้รับความร่วมมือจากสามีสุดหล่อ เขาตวัดปลายเท้าข้ามร่างนุ่มเพื่อถอดผ้าสองชิ้นที่ปิดร่างกำยำออก จนร่างที่แข็งแกร่งสวยงามอย่างชายชาตรีเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้า
