9 เป็นห่วงความปลอดภัย
ณัฐชายิ้มกว้างอย่างโล่งใจ เธอดึงลูกชายเข้ามากอดอีกครั้ง นี่คือความมั่นคงที่เธอตามหา ความมั่นคงที่จะทำให้ลูกชายของเธอได้ใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น มือเรียวบางพลางจัดเสื้อโปโลที่ยับยู่ยี่ของลูกชายให้เข้าที่ เธอยิ้มอย่างอบอุ่นเมื่อเห็นภูรวิชยอมที่จะลาออกจากงานพาร์ทไทม์เพื่อตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง
“เร็ว ๆ นี้ช่วงเปิดเทอมของภู แม่อาจต้องไปค้างที่ต่างจังหวัดสักสองสามวันนะลูก” ณัฐชาแจ้งข่าวอย่างระมัดระวัง เพราะเธอรู้ดีว่าลูกชายจะมีความกังวลตามมา
“งานที่ใหม่ของแม่ต้องไปต่างจังหวัดด้วยเหรอครับ” ภูรวิชถามต่อทันที สายตาของเขาฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด แม้จะพยายามเก็บซ่อนไว้เพียงใดก็ตาม ภาพความทรงจำเลวร้ายจากอดีตเจ้านายเก่าที่เคยสร้างปัญหาให้กับมารดานั้นยังคงฝังใจเขาอยู่เสมอ
“เจ้านายคนใหม่ของแม่ เค้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายครับ” ภูรวิชถามอย่างตรงไปตรงมา เขาเป็นห่วงแม่มาก เพราะในโลกนี้พวกเขาก็เหลือกันอยู่เพียงสองคน หากแม่ต้องเจอกับเรื่องไม่ดีอีกครั้ง เขาจะไปช่วยแม่ได้อย่างไร คราวที่แล้วเขาก็บุกไปจัดการและพาแม่ออกมาจากสถานการณ์เลวร้ายนั้นได้อย่างหวุดหวิด
“ผู้ชายจ้ะ แต่ภูไม่ต้องห่วงหรอก เค้าสุภาพ”
“แต่ผมก็ยังเป็นห่วงแม่อยู่ดี” ภูรวิชบอกอย่างไม่เข้าใจ
“แม่ยืนยันเจ้านายแม่คนนี้เค้าสุภาพจริง ๆ และก็เป็นสุภาพบุรุษมากด้วย วันนี้เค้าสัมภาษณ์แม่ด้วยตัวเองเลยนะ” ณัฐชารีบเสริมความน่าเชื่อถือ
“แล้วทำไมเพิ่งจะรับแม่เข้าทำงาน เขาก็จะพาแม่ไปนอนค้างอ้างแรมเลยล่ะครับ”
“เค้าคิดอะไรกับแม่หรือเปล่าครับ”
คำถามนั้นทำให้แก้มของณัฐชาเห่อร้อนขึ้นทันที เพราะมันเป็นความจริงที่เธอสัมผัสได้ แต่เธอก็ต้องรีบปฏิเสธเสียงแข็งเพื่อไม่ให้ลูกชายกังวล
“บ้า! ภู ลูกก็ว่าไปนู้น พนักงานคนอื่น ๆ เค้าก็ไปกัน แล้วแม่ก็ขับรถไปเอง” ณัฐชารีบโกหกบุตรชายอย่างรวดเร็ว โดยเลือกที่จะไม่บอกว่าการเดินทางนี้มีแค่เธอในฐานะเลขาฯ ส่วนตัวกับรามัญเท่านั้น
“มันเป็นการเดินทางไปดูโครงการคอนโดต่างจังหวัด มันเป็นเรื่องงานล้วน ๆ เลยลูก และเค้าก็ยังให้แม่เบิกค่าน้ำมันได้อีก”
ภูรวิชยังคงมองมารดาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเชื่อนัก แต่เมื่อเห็นความสุขและประกายตาที่สดใสของมารดา เขาก็เลือกที่จะเงียบไปในที่สุด อย่างน้อยที่สุด... รอยยิ้มนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้เห็นมานาน
“ถ้าไปช่วงนี้ ผมพอจะไปเป็นเพื่อนแม่ได้อยู่นะครับ”
“อีกตั้งสองอาทิตย์ตอนนั้นภูก็เปิดเทอมแล้ว”
“เฮ่อ!!” ภูรวิชถอนหายใจออกมา
“เอาน่ารับเงินจากเค้า ก็ต้องแล้วแต่เจ้านายเค้าสิ”
“ไปเถอะ แม่เริ่มหิวแล้ว”
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ณัฐชาขับรถยนต์ส่วนตัวมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ เธอตัดสินใจออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนรามัญหลายชั่วโมงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม และอีกอย่างเธอก็ไม่ต้องการขับรถเร็วมากนัก จุดหมายปลายทางคือการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรู ในเย็นวันนี้ ซึ่งเป็นโปรเจกต์สำคัญที่พีระพัฒน์เรียลตี้หมายมั่นปั้นมือจะกวาดตลาดภาคเหนือทั้งหมด
ณัฐชาใช้เวลาหลายวันในการเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจแรกในฐานะเลขานุการส่วนตัวของท่านประธานใหญ่อย่างรามัญ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเอง ณัฐชาได้จัดเตรียมวิดีโอโฆษณาคอนโดฯ ที่ตัดต่ออย่างประณีตโดยการช่วยเหลือของลูกชายที่เรียนทางด้านการตลาด
รามัญกุมพวงมาลัยรถยนต์หรูอย่างมีสติ ในขณะที่รถกำลังพุ่งทะยานฝ่าพายุฝนที่โหมกระหน่ำไม่หยุดบนถนนทางหลวงมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ เม็ดฝนสาดกระทบกระจกหน้ารถอย่างบ้าคลั่งจนที่ปัดน้ำฝนทำงานแทบไม่ทัน ทัศนวิสัยที่ย่ำแย่ทำให้ขับรถได้ไม่เร็วมากนัก
ประธานหนุ่มเหลือบมองไปยังหน้าจอควบคุมระบบภายในรถที่ส่องสว่างขึ้นมาบนคอนโซล ก่อนจะออกคำสั่ง
“Call Nattha.” ระบบอัจฉริยะในรถยนต์ยุโรปรับคำสั่งเป็นเสียงหวาน ของระบบที่ตอบกลับมา
“Calling Nattha, your Personal Assistant. Please confirm.”
“Confirm.” รามัญตอบกลับอย่างกระชับ สายตามองไปยังถนนที่ยังเต็มไปด้วยห่าฝน
ภายในเสี้ยววินาที หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ก็เปลี่ยนเป็นหน้าจอการโทรออก พร้อมกับเสียงรอสายที่ดังขึ้นเบา ๆ ในห้องโดยสารที่เงียบสงบตัดขาดจากเสียงพายุฝนภายนอก
“ฮัลโหล ณัฐชา... คุณถึงไหนแล้วครับ” เสียงทุ้มนุ่มของรามัญก็เอ่ยถามเลขาฯ สาวที่ออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเป็นห่วง
“ใกล้จะถึงลำปางแล้วค่ะคุณรามัญ” เสียงของณัฐชาตอบกลับมาอย่างกระฉับกระเฉง แม้จะมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลเล็กน้อย
“คุณเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่มั้ยครับ ผมกลัวว่าผมอาจจะไปถึงช้าและไม่มีเวลาเตรียมตัว ตอนนี้ฝนตกตลอดทางเลย”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณราม ณัฐชาเตรียมเอาไว้หมดแล้วค่ะ”
“พวกเอกสารปิดการขายคุณอย่าลืมย้ำฝ่ายขายนะครับ” รามัญเน้นย้ำ
“แล้วถ้าคุณไปถึงก่อนผม ก็อย่าลืมตรวจสอบ พวกแบบฟอร์มการจอง และเอกสารข้อเสนอทางการเงินจากธนาคารพันธมิตร ต้องพร้อมให้ลูกค้าลงนามได้ทันที เพราะผมต้องการยอดปิดการขายในคืนนี้เลย”
“รับทราบค่ะ...คุณราม ถ้ายังไงณัฐชาจะประสานกับฝ่ายขายให้ตรวจสอบกับธนาคารอีกครั้งนะคะ”
“ขอบคุณมากครับคุณณัฐชา”
“ผมกำลังไป ถ้ามีปัญหาอะไร คุณติดต่อผมได้ทันทีนะครับ”
“ค่ะคุณราม ขับรถปลอดภัยนะคะ” ณัฐชากล่าวทิ้งท้ายก่อนวางสายไป
ขณะที่รถเก๋งของเลขาฯ สาวกำลังแล่นอยู่บนถนน ณัฐชาได้ต่อสายโทรศัพท์ไปหา คุณมิ่งขวัญ หัวหน้าฝ่ายการตลาดประจำสาขาเชียงใหม่
“สวัสดีค่ะคุณมิ่งขวัญ ดิฉันณัฐชาจากสำนักงานใหญ่นะคะ”
“สวัสดีค่ะคุณณัฐชา!” คุณมิ่งขวัญตอบกลับอย่างกระตือรือร้น
“เรื่องโมเดลคอนโดฯเรียบร้อยดีไหมคะ” ณัฐชาถามด้วยน้ำเสียงที่รัดกุม
“เรียบร้อยค่ะ ตอนนี้ดิฉันกำลังให้พนักงานวางโมเดลเอาไว้กลางห้องเลยค่ะ รับรองว่าสวยถูกใจท่านประธานแน่นอน”
“เยี่ยมค่ะ แล้วเอกสารปิดการขายล่ะคะ พวกใบจองและข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองในงานวันนี้ล่ะคะ คุณให้พนักงานเตรียมเอาไว้หรือยังคะ”
“ครบถ้วนทุกชุดค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณมิ่งขวัญ เจอกันที่โรงแรมนะคะ ดิฉันจะไปถึงก่อนเวลาเปิดงานในช่วงบ่าย ๆ “
ณัฐชาวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เมื่อทุกรายละเอียดถูกตรวจสอบอย่างสมบูรณ์ดีแล้ว
รถเก๋งคันสีขาวเงินของเธอแล่นฉิวไปตามท้องถนนหลวงที่เปียกชื้นในช่วงแรก แต่เมื่อเข้าสู่เขตชานเมืองที่ต้องฝ่าดงการก่อสร้างและระบบระบายน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน พายุฝนที่เพิ่งเทกระหน่ำเมื่อเช้าก็ทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง ถนนหลายช่วงมีน้ำท่วมขังเป็นแอ่งลึก
ด้วยความรีบร้อนและไม่อยากเสียเวลา ณัฐชาตัดสินใจเร่งเครื่องยนต์ขับลุยฝ่าม่านน้ำที่ท่วมนองพื้นถนน สีข้างของรถยนต์ถูกกระแสน้ำสีโคลนซัดสาดขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งจนรถโยกไปมา เสียงน้ำกระเด็นเข้าซุ้มล้อดังสนั่นราวกับเสียงสัญญาณเตือนภัยที่เธอเลือกที่จะเมินเฉย
เธอพยายามยึดพวงมาลัยไว้แน่น สองตาจ้องมองผ่านม่านน้ำที่หน้ารถที่ปัดน้ำฝนทำงานอย่างหนักหน่วง ราวกับกำลังต่อสู้กับความมืดมิดและอุปสรรคเบื้องหน้า
ทันใดนั้นเอง! ขณะที่รถกำลังตะกุยน้ำผ่านแอ่งที่ลึกกว่าที่คิดไว้...
“อึก... ครืน...”
เครื่องยนต์ของรถเก๋งคันรักส่งเสียงสะอึกอย่างรุนแรง ราวกับถูกบีบคั้นจากบางสิ่งบางอย่าง ตัวรถกระตุกอย่างแรงจนณัฐชารู้สึกได้ เธอไม่มีความรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์ หัวใจของเธอหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม เพราะรู้ดีว่านั่นคือสัญญาณที่ไม่ดีแน่ ๆ