ตอนที่2 ม่านรูด
ภายในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่พลุกพล่านไปด้วยเหล่านักศึกษามากมายที่กำลังสนใจในกิจกรรมต่างๆ ของตัวเองมากมายเป็นกิจวัตรที่พบเห็นได้ทุกวัน
แต่แล้วความสนใจเหล่านั้นก็ถูกดึงดูดจากสิ่งมีชีวิตที่กำลังย่างกรายมายังลานม้านั่งภายในคณะบริหารฯ
ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรของรุ่นพี่หนุ่ม อดีตเดือนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ปัจจุบันต่อโทฯคณะบริหารธุรกิจ ผู้ที่เป็นที่รู้จักของเหล่ารุ่นน้องเกือบทั้งมหา’ลัย ไม่ว่าจะด้วยดีกรีความหล่อเหลา ชาติตระกูลที่ใครต่างก็รู้ว่าเขาร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี รวมไปถึงคำร่ำลือของความเจ้าชู้ที่มีหญิงสาวไม่น้อยเลยผ่านการสานสัมพันธ์กับเขามาแล้ว
คนที่กำลังก้าวย่างด้วยใบหน้าดุดันราวกับจะมากระทืบใครบางคน
หมับ! แรงกระชากจากฝ่ามือใหญ่ของฟาริสบีบรัดเรียวแขนเล็กของเป้าหมายทันทีที่ถึงตัว
“อ๊ะ...!” กอหญ้าที่หันไปตามแรงกระชากจากด้านหลังด้วยความตกใจ พอเผชิญหน้ากับคนทำถึงกับชะงักด้วยความกลัว
ทั้งที่เผื่อใจไว้แล้วว่าหลังจากวันนั้นอาจจะต้องเจอปัญหา แต่พอมันผ่านมาสี่วันแล้วที่เธอก็พยายามระวังตัวเพื่อไม่ให้เจอเขาและไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้เธอเบาใจไม่น้อย
จนถึงวันนี้ที่ได้เผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง คนที่เธอไม่คิดว่าจะกล้ากระทำอุกอาจอย่างประเจิดประเจ้อกลางมหา’ลัยที่คับคั่งไปด้วยนักศึกษาแบบนี้
“ท้องไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังไม่ดรอปเรียนอีก” เสียงที่ค่อนข้างดังของฟาริสพูดขึ้นถามกอหญ้าอย่างพยายามไม่เปิดเผยความดุดันเกินไป
ทั้งที่เขาอยากกระชากและซัดเข้าใบหน้าเล็กระบายความโมโห แต่ครั้งนี้เขาเลือกจะใช้วิธีเยือกเย็นแทนวิธีเดือดดาล
“กอหญ้า” ต้น หรือ ต้นหนาว เรียกเพื่อนของตัวเองขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของรุ่นพี่ตรงหน้า
“.....” กอหญ้าถึงกับนิ่งค้างหัวสมองหยุดสั่งการชั่วขณะหลังจากได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า
เขากำลังประจานสิ่งที่เธอเคยพูดไว้กับเขาออกมาต่อหน้านักศึกษามากมาย
แม้ว่าหลายมหา’ลัยจะเปิดโอกาสเรื่องตั้งครรภ์ระหว่างเรียน แต่ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่ต้องการให้เขามาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย
“ฉันบอกเธอแล้วว่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ฉันคุยกับลูกน้องฉันให้แล้ว...”
“มันยืนยันว่าต่อให้ไม่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกใคร แต่มันก็จะรับผิดชอบเธอ” ฟาริสพูดขึ้นอีกครั้งเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว
“!” และคำพูดนี้ก็ยิ่งทำให้กอหญ้าผงะไปไม่เป็น กลายเป็นหัวช้าเหมือนถูกสาปแช่แข็งไปแล้ว
ไม่ใช่แค่เขากำลังประจานว่าเธอท้องต่อหน้าคนอื่นๆ แต่เขากำลังกล่าวหาว่าเธอมั่วไม่เลือกจนไม่รู้ว่าพ่อของเด็กเป็นใคร
วิธีที่เธอไม่ได้คิดวิธีรับมือล่วงหน้าว่าจะแก้ไขสถานการณ์ยังไง
“ไปเถอะ ฉันจะพาเธอไปหามัน” ฟาริสพูดพร้อมกับออกแรงลากกอหญ้าให้เดินตามเขาไป
“ปล่อย” สติกลับมาพยายามขืนตัวเองไว้อย่างไม่กล้าพอจะไปกับเขา ไม่รู้เลยว่าลับหลังที่ไม่มีคนมากมายแบบนี้ เขาจะทำอะไรเธอบ้าง
“ไปหามันเถอะ มันก็เสียใจเหมือนกับที่เธอรู้สึกผิดนั่นแหละ” ฟาริสยังคงหันมาพูดด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง ทำเหมือนกับว่าเป็นตัวกลางให้เธอกับใครอีกคนที่ไร้ตัวตน
พูดจบก็บีบข้อมือบางไว้แน่นจนแทบแหลกคามือ ออกแรงลากเธอเดินไปอย่างไม่สนใจแรงขัดขืน
“ขอร้อง ฉันมีสอบ” สถานการณ์ตอนนี้มันอาจยากหากจะโวยวายหรือต่อต้าน เพราะคนอื่นๆ กำลังมองและวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปากอยู่ เธอจึงพูดกับฟาริสด้วยเหตุผลหวังว่าเขาจะเห็นใจ
หมับ! ต้นหนาวก้าวเข้ามารั้งข้อมืออีกข้างของกอหญ้าไว้เมื่อเห็นท่าทางของเธอไม่เต็มใจ แม้เขาจะไม่รู้อะไรเลยและเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เขาก็เต็มใจจะช่วยเธอก่อนเป็นสิ่งแรก
“เธอคงไปกับพี่ไม่ได้” ต้นหนาวพูดพร้อมกับจ้องมองไปยังรุ่นพี่ตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว จับมือกอหญ้าไว้แน่นด้วยความมั่นใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดไม่ใช่เรื่องจริง
“ถ้าไม่อยากอายไปมากกว่านี้ ก็ตามมาดีๆ” ฟาริสกระตุกยิ้มุมปากดูร้ายกาจจนน่าใจหาย ขยับใบหน้าไปพูดกับกอหญ้าอย่างไม่เดือดดาล
“ฉันขอสอบก่อนนะพี่” กอหญ้าพยายามขอร้องออกมาอย่างหวังว่าเขาจะเห็นใจ
“เธอรู้ไหมว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” เมื่อเห็นว่าเธอยังต่อรองไม่หยุดเขาก็เตือนขึ้นอย่างไม่หวาดหวั่นที่จะทำอะไรมากกว่านี้ให้เธออับอาย ตัดบทว่าเขาไม่สนใจสิ่งที่เธอขอ
“ควรมีเหตุผลบ้างนะพี่” ต้นหนาวรับรู้คำขู่ของอีกฝ่ายก็พูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
“เราไม่เป็นไรต้น” แต่คนที่รู้ว่าไร้ประโยชน์จะร้องขอเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้ปราณีเธอขนาดนั้น กอหญ้าทำได้เพียงหันไปพูดกับเพื่อนของตัวเองอย่างจนใจ
“แต่...” ต้นหนาวกำลังจะแย้ง แต่กอหญ้าก็ส่ายหัวพร้อมกับบิดมือออกจากมือของต้นหนาว
เธอยังไม่พร้อมจะมีเรื่องราวให้อับอายไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้ก็ไม่รู้จะส่งผลอะไรบ้างแล้ว
“ถ้ามีอะไรโทรหาเรานะ” ต้นหนาวย้ำกับเพื่อนสาวออกไปอย่างเป็นห่วง
เธอเพียงพยักหน้ารับและทำได้เพียงต้องก้าวตามหลังของฟาริสไป โดยที่ข้อมือถูกบีบแน่นจนปวดร้าวไปหมดขณะลากเธอเดินไปข้างหน้าจนถึงรถของเขา
“.....” ต้นหนาวทำได้เพียงกำหมัดมองตามแผ่นหลังบางของกอหญ้าไปอย่างทำอะไรไม่ได้ เจ็บใจที่ช่วยเหลือเธอไม่ได้
ปึก!
ปัง! ฟาริสผลักเธอเข้ารถแล้วกระแทกปิดประตูรถเสียงดังก่อนจะอ้อมไปฝั่งคนขับขึ้นประจำที่
“ฉันขอเวลาแค่ครึ่งชั่วไปสอบก่อนได้ไหม สัญญาว่าจะยอมไปกับพี่” เมื่ออยู่กันสองคนในรถไม่รอช้ารีบหันไปขอร้องเขาอีกครั้ง
เพราะเธอเป็นนักศึกษาทุน เธอต้องทำคะแนนให้ดีรักษาเกรดให้ได้ตามเกณฑ์ การสอบเก็บคะแนนของชีวิตนักศึกษามหา’ลัยถือเป็นอีกอย่างที่สำคัญมาก มีผลต่อคะแนนไม่น้อยเลย
แต่น่าเสียดายที่คนโกรธอย่างเขาไม่ได้เห็นใจเธอแม้แต่น้อย ติดเครื่องยนต์รถหรูก่อนจะขับออกไปจากลานจอดทันที
รถแล่นออกจากมหา’ลัยตามทางมาเรื่อยๆ ความคึกคักข้างทางเริ่มสงบลงแม้จะไม่ถึงขั้นเปลี่ยวก็ตาม
“!” กอหญ้าใจเต้นระรัวเมื่อรถคันหรูเลี้ยวเข้าจุดหมายปลายทาง
โรงแรมม่านรูด
