2
สุดท้ายเธอก็หนีเขามา อดีตสามีของเธอก็ไปมีผู้หญิงคนอื่น ถือว่าต่างคนต่างเลิกกันอย่างจริงจัง
“มันไม่สำเร็จหรอก ฉันไม่มีอารมณ์แบบนั้นกับผู้หญิงคนไหนนานมาแล้ว”
เพ็ญพิชชาถอดชุดของตัวเองออก ก่อนจะหย่อนกายลงไปนั่งในอ่างตรงข้ามกับเขา เกรียงศักดิ์เห็นหุ่นขาวเนียนของอีกฝ่ายก็ได้แต่มอง ก่อนจะถอนใจ
“ให้หนูช่วยถูตัวนะคะ”
เธอขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะลากฟองน้ำไปตามเนื้อตัวของเกรียงศักดิ์ เขาเป็นผู้ชายที่หุ่นดีมาก ตอนหนุ่มๆ น่าจะชอบออกกำลังกาย เพราะตอนนี้เขามีพุงแค่นิดเดียว ไม่ได้มีพุงยื่นจนน่าเกลียดเหมือนชายวัยกลางคนที่เธอเคยเจอ
เธอสัมผัสท่อนเนื้ออ่อนนุ่มของเขา แต่มันกลับไม่แข็งตัวหรือตื่นจากการเล้าโลม
“ฉันเป็นคนแก่ที่หมดสมรรถภาพแล้วจริงๆ”
“คุณยังไม่แก่เลยนะคะ”
เธอยิ้มเป็นกำลังใจให้เขา
“หนูจะช่วยคุณเอง”
เธอใจกล้ายื่นใบหน้าไปบดจูบริมฝีปากอุ่นๆ ของเขา เขานิ่งเฉย ก่อนจะจูบตอบเธอบ้างเล็กน้อย นั่นเป็นนิมิตรหมายอันดี มือนุ่มๆ ของเธอค่อยๆ รูดรัดแก่นกายของเขาแต่มันไม่แข็งสู้มือ
“พอเถอะหนู อย่าเสียเวลากับคนแก่อย่างฉันเลย”
เธอชะงักก่อนจะช่วยขัดถูเนื้อตัวให้เขา ก่อนจะพากันล้างตัวและออกไปแต่งตัวข้างนอก เธอทำตัวเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ช่วยเขาแต่งตัวและพาลงไปกินข้าวด้านล่าง เขาเดินได้เหมือนคนปกติแค่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น เธอประคองเขาลงบันได จริงๆ เรียกว่าเดินจับมือกันมากกว่า
“อุ๊ย!”
เพ็ญพิชชาอุทานเมื่อเจอกับหนุ่มวัยฉกรรจ์ผิวสีแทนที่ยืนอยู่ที่เชิงบันได
“คุณท่าน ผมกลับมาแล้วครับ”
“กลับมาแล้วเหรอหมึก”
เกรียงศักดิ์ทักหมึกหรือคนสวนของเขาที่ลาหยุดไปหลายวัน
“นี่คนดูแลคนใหม่ของฉัน ชื่ออะไรนะ เธอชื่ออะไรแล้วนะ” เกรียงศักดิ์หันไปถามเด็กสาว
“ชื่อเพ็ญพิชชาค่ะ เรียกเพ็ญก็ได้”
“รู้จักกันเอาไว้นะ นี่หมึก เป็นคนสวนของฉันเอง”
“สวัสดีจ้ะพี่หมึก”
เพ็ญพิชชาทักทายหมึก เขามองเธอตาค้าง อ้าปากหวอก่อนจะหุบฉับ เพราะเด็กสาวหน้าตาน่ารักทำให้เขานึกชอบ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ตามสบาย”
เกรียงศักดิ์เอ่ยอนุญาตเมื่อหมึกเอ่ยขอตัว ในขณะที่เพ็ญพิชชาประคองร่างของเจ้านายไปที่โต๊ะอาหาร
“อาหารเยอะแยะเลย เธอทำเองเหรอ”
“ใช่ค่ะ ไม่รู้คุณเกรียงพอจะกินได้ไหม”
เธอพูดอย่างเป็นกังวลเพราะทำอาหารง่ายๆ แค่นั้นเอง
“น่ากินจะตายไป เธอก็มากินด้วยกันสิ จะได้คุยกัน ฉันกินข้าวคนเดียวเหงา”
“เธอทำอาหารอร่อยนะ”
เกรียงศักดิ์เอ่ยชม คนถูกชมถึงกับยิ่มกริ่ม ดีใจที่เขาชอบ
“เล่าเรื่องเธอให้ฉันฟังบ้างสิ”
เกรียงศักดิ์ชวนคุย เขารู้สึกว่าอาหารมื้อนี้อร่อยมากขึ้นเพราะมีคนนั่งคุยด้วย ซึ่งปกติเขาจะนั่งรับประทานอาหารคนเดียว ทั้งเหงาและหว้าเหว่
เขานั่งฟังเด็กสาวเล่าเรื่องต่างๆ มากมายจนในที่สุดอาหารก็หมดจาน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกินข้าวหมดจาน”
เกรียงศักดิ์มองจานอาหารตัวเองอย่างอึ้งๆ ไปเหมือนกัน ก่อนจะบอกคนที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน
“ดีจังค่ะ เป้าหมายของหนูคือการทำให้คุณสดชื่นกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม”
งานที่เธอทำอาจจะแปลกประหลาด แต่เมื่อรับค่าจ้างมาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด
“เพ็ญ”
“ค่ะคุณเกรียง มีอะไรให้เพ็ญรับใช้คะ”
เธอเอ่ยถามเมื่อเขาเรียกเธอหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
“ไปนอนได้แล้วล่ะ ไม่ต้องเฝ้าฉันหรอก เธอคงอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง”
“ค่ะ ถ้าคุณเกรียงต้องการอะไร เรียกเพ็ญได้เลยนะคะ”
“ฉันไม่ต้องการอะไรแล้วล่ะ วันนี้มีความสุขมาก กินข้าวอิ่มและอร่อยกว่าทุกวัน”
“ค่ะ”
เพ็ญพิชชารับคำ ประคองร่างของเจ้านายวัยกลางคนขึ้นบนห้อง ก่อนที่เธอจะกลับห้องของตัวเองบ้าง เด็กสาวอาบน้ำอาบท่าจนสบายตัวก่อนจะลงไปเดินเล่นที่สวนเพราะนอนไม่หลับ อาจเพราะแปลกที่ หรือมีเรื่องต้องให้คิดมากมาย
“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อชนเข้ากับร่างกำยำของหมึก
“นอนไม่หลับเหรอเพ็ญ”
“ค่ะ พี่หมึกก็นอนไม่หลับเหรอคะ”
ไม่รู้ทำไมใจสาวสั่นไหวอย่างรุนแรงเมื่อได้สบตากับเขา ผู้ชายผิวสีแทนหุ่นล่ำ กล้ามเป็นมัดๆ แลดูซื่อๆ แต่วาบหวามในอารมณ์เหลือเกิน
เกรียงศักดิ์เล่าให้ฟังว่าหมึกคอยทำกับข้าวให้กิน กินได้บ้างกินไม่ได้บ้างเพราะทำกับข้าวไม่ค่อยเอาไหน แต่หมึกก็เป็นคนซื่อสัตย์อยู่ดูแลท่านมาจนถึงทุกวันนี้
เพ็ญพิชชาถอยหนีออกจากอ้อมแขนของเขา แต่เขาไม่ยอมปล่อย
“นอนไม่หลับเหมือนกันตั้งแต่ได้เห็นหน้าเพ็ญ”
“อุ๊ย!”
เธออุทานเมื่อเขาช้อนอุ้มร่างของเธอขึ้นสู่อ้อมแขน เพ็ญพิชชาจำต้องโอบกอดรอบคอหนาของเขาเอาไว้เพราะกลัวตก
“พี่หมึกปล่อยเพ็ญนะคะ จะทำอะไรน่ะ”
เธอร้องประท้วง แต่เขาไม่ยอมปล่อย
“เพ็ญมาที่นี่เพื่อทำให้คุณท่านหายป่วยไม่ใช่เหรอ”
“ใช่จ้ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่พี่หมึกกำลังอุ้มเพ็ญอยู่ตอนนี้ล่ะจ๊ะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ
“คุณท่านอยากมองเราร่วมรักกัน แต่ไม่กล้าบอกเพ็ญตรงๆ คุณท่านบอกว่าถ้าได้แอบมองเรามีอะไรกัน อาจจะทำให้อารมณ์ของท่านกลับมาก็เป็นได้”
“จริงเหรอจ๊ะ”
“เพ็ญยินดีไหม พี่เองก็ทำงานรับใช้คุณท่านมานานแล้ว สงสารท่าน อยากช่วย ถ้าเพ็ญไม่ยินยิมพี่ก็ไม่บังคับขืนใจหรอกนะ”
